กบง. คงราคาแอลพีจีถังละ 363 บาทถึงสิ้นปี

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีนายศิริ? จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เป็นประธาน ยังคงรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ภาคครัวเรือนขนาดถัง 15 กิโลกรัม (ก.ก.) อยู่ที่ 363 บาทตลอดไปจนถึงสิ้นปีนี้

โดยกบง. ได้รับทราบความเคลื่อนไหวของราคาแอลพีจีตลาดโลกยังมีความผันผวนทั้งปรับขึ้นและลงสองทิศทาง ซึ่งล่าสุดเดือนส.ค. ราคาแอลพีจีตลาดโลกเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 25 เหรียญสหรัฐต่อตัน อยู่ที่ 587.50 เหรียญสหรัฐต่อตัน แต่ราคาแอลพีจีคาร์โก้ที่ใช้อ้างอิงราคาในประเทศอยู่ที่ 562.50 เหรียญสหรัฐต่อตัน ทำให้ราคาแอลพีจีโดยรวมยังทรงตัว

สำหรับความก้าวหน้าการส่งเสริมใช้น้ำมันดีเซเกรดพิเศษ หรือบี 20 ในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา (ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.-6 ส.ค. 2561) เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชนจากค่าบริหารขนส่งและค่าโดยสารรถสาธารณะ เพื่อแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มดิบล้นตลาด พบว่ามียอดการใช้รวม 1.3 ล้านลิตร หรือประมาณ 1 ล้านลิตรต่อเดือน เทียบกับเป้าหมายที่กำหนดการใช้บี 20 ที่ตั้งไว้ 5.4 ล้านลิตรต่อเดือน ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยใช้เงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประมาณ 4.14 ล้านบาท

ปัจจุบันบัญชีกองทุนฯ ณ วันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา มีสถานะสุทธิ 28,521 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินในบัญชีน้ำมัน 29,468 ล้านบาท และบัญชีแอลพีจีติดลบ 947 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาบัญชีแอลพีจีมีเงินไหลออกจากประมาณ 700 ล้านบาท โดยมั่นใจว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้มีเงินเหลือกว่า 2,000 ล้านบาทจะเพียงพอสำหรับรักษาเสถียรภาพราคาแอลพีจีได้ตลอดทั้งปีนี้

นายทวารัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า กบง. ยังได้รับรายงานสถานการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของประเทศ (พีก) รวมทั้ง 3 การไฟฟ้า และจากผู้ผลิตไฟฟ้าใช้เองของปี 2561 อยู่ที่ 34,317 เมกะวัตต์ สูงกว่าพีกของปีก่อน 0.6% ขณะที่ความต้องการไฟฟ้าสูงสุดของระบบ 3 การไฟฟ้า อยู่ที่ 29,968 เมกะวัตต์ ต่ำกว่าลดลง 1.1% สะท้อนว่าประชาชนเริ่มผลิตไฟฟ้าใช้เองมากขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการหารือถึงประเด็นแนวทางรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (เอสพีพี) ระบบโคเจนเนอเรชั่นที่จะหมดสัญญาในช่วงปี 2560 โดยจะสรุปแนวทางเพื่อเสนอในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)