การผลิตลองกองให้ได้คุณภาพ

เรียน คุณหมอเกษตร ทองกวาว ที่นับถือ

ลองกอง เป็นผลไม้ที่มีรสชาติดี แต่ทุกครั้งที่ซื้อมารับประทาน มักเกิดความรำคาญใจก่อนจะพบกับความอร่อย เพราะผลลองกองเต็มไปด้วยราสีเขียวๆ ผสมผสานกับมดดำ ผมจึงอยากจะขอคำแนะนำจากคุณหมอเกษตรผ่านไปยังชาวสวน ว่าจะมีวิธีทำอย่างไรเพื่อพัฒนาคุณภาพของลองกองให้น่ารับประทานมากกว่าที่ผ่านมา หากแก้ปัญหาได้ผมเองก็จะได้รับประทานลองกองที่สวยงาม สะอาดตา ขอขอบคุณมาในโอกาสนี้ครับ

ขอแสดงความนับถือ

สุชาติ วิทยานุรักษ์

กรุงเทพฯ

ตอบ คุณสุชาติ วิทยานุรักษ์

ลองกอง เจริญเติบโตให้ผลผลิตได้ดีในบริเวณที่มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยตลอดปี 2,000-3,000 มิลลิเมตร และพื้นที่ปลูกสูงไม่เกิน 600 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง สภาพดินเป็นดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี ต้องการอุณหภูมิที่ 20-30 องศาเซลเซียส ลองกองจึงได้ผลดีในพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันออกของไทย การขยายพันธุ์ทำได้ทั้งเมล็ด การเสียบยอด ติดตา และทาบกิ่ง แต่การปลูกจากเมล็ดมีข้อด้อยคือ ให้ผลผลิตเมื่ออายุ 4-5 ปี ส่วนต้นพันธุ์ที่ได้จากวิธีอื่นๆ จะให้ผลผลิตได้ภายใน 2-3 ปีเท่านั้น อีกทั้งได้ต้นลองกองเหมือนกับต้นแม่ทุกประการ การทำสวนลองกองทำได้ทั้งปลูกแซมกับพืชอื่น หรือปลูกเป็นพืชเชิงเดี่ยว แต่เกษตรกรนิยมปลูกแซมด้วยมังคุด หรือเงาะมากกว่า ระยะปลูกที่ใช้กัน มี 4×6 เมตร และ 6×8 เมตร วิธีปลูกใช้วิธีเดียวกับการปลูกไม้ผลอื่นๆ บำรุงต้นให้สมบูรณ์ จนถึงระยะออกดอก ควรตัดแต่งกิ่งแขนงในทรงพุ่ม และกิ่งไม่สมบูรณ์ทิ้งไป กระตุ้นให้ออกดอกด้วยวิธีงดน้ำเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ จนใบสลด แล้วใส่ปุ๋ย สูตร 12-24-12 อัตรา 1 กิโลกรัม ต่อต้น และรดน้ำตามทันที จากนั้นอีก 2-3 สัปดาห์ จะแทงช่อดอกให้เห็น ควรตัดแต่งช่อผลหลังแทงช่อ 2-3 และ 7-8 สัปดาห์ ให้ช่อดอกแต่ละช่อห่างกัน 20-30 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ย สูตร 13-13-21 อัตรา 1-2 กิโลกรัม ต่อต้น หว่านใต้ทรงพุ่มให้ทั่ว และรดน้ำตาม ระยะนี้อย่าให้ขาดน้ำ โดยธรรมชาติผลลองกองในช่อจะอัดกันแน่น เนื่องจากขั้วผลสั้นมาก ทำให้เป็นแหล่งอาศัยของเชื้อราที่มีสีเขียว และมดดำที่เดินกันขวักไขว่ ดังนั้น จึงต้องช่วยยืดขั้วผลด้วย การฉีดพ่นด้วย GA3 หรือ จิบเบอเรลลิน แอซิด อัตรา 100 มิลลิกรัม ละลายในน้ำสะอาด 1 ลิตร แต่ถ้าต้องการให้ได้ผลมากขึ้น ให้ใส่สารละลายในถ้วยปากกว้าง จ่อไว้ใต้ช่อผลแล้วบรรจงยกขึ้นให้ช่อผลแช่ในสารละลาย ชั่วอึดใจทำเช่นเดียวกันทุกช่อ ซึ่งเทคนิคดังกล่าว กรมวิชาการเกษตร ควรจะวิจัยให้เข้มข้นมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา ขอฝากข้อคิดนี้ไว้ด้วยครับ

ส่วน ราเขียว นั้น แนะนำให้ใช้หัวข่าแก่ กับตะไคร้หอม อัตรา 1 กิโลกรัม เท่ากัน โขลกหรือตำให้แหลก แช่ในน้ำสะอาด 200 ลิตร ไว้ 1 คืน ฉีดพ่นที่ช่อผล เดือนละ 2-3 ครั้ง จนถึงระยะก่อนเก็บเกี่ยว ทั้งนี้ สารสำคัญของพืชทั้งสองชนิดมีส่วนประกอบของน้ำมัน สามารถควบคุมการเจริญเติบโตของเชื้อราเขียวได้ดีและปลอดภัยกับผู้ใช้และผู้บริโภค สำหรับการควบคุม มดดำ ทั้งนี้ มดดำจะอาศัยอยู่ในโพรงใต้ดิน แนะนำให้ใช้ผ้าขี้ริ้วชุบน้ำมันขี้โล้ หรือน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้วพันรอบต้นทุกต้น ในระดับเหนือพื้นดินขึ้นมา ประมาณ 1 เมตร หมั่นดูแลให้น้ำและปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ คุณจะได้ผลผลิตลองกองที่ได้คุณภาพตามความต้องการ