สาวอำนาจเจริญหนีเมืองใหญ่ทำเกษตรผสมผสาน สร้างรายได้บนพื้นฐานความสุข

คุณวัชรีญา มณีรัตน์ อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ที่ 6 ตำบลเสนางคนิคม อำเภอเสนางคนิคม จังหวัดอำนาจเจริญ เล่าให้ฟังว่า เมื่อได้เรียนจบการศึกษาระดับชั้นปริญญาตรี ได้ทดลองทำงานในบริษัทได้สักระยะรู้สึกว่าไม่ชอบงานทางด้านนี้ จึงได้ปรึกษากับทางครอบครัวว่าอยากจะกลับมาอยู่บ้าน โดยทำอาชีพทางด้านเกษตรกรรมเน้นแบบผสมผสาน จะทำให้มีรายได้หมุนเวียนในการใช้จ่ายภายในครัวเรือน

แปลงแก้วมังกร

โดยพื้นที่ภายในบ้านก้จะแบ่งเป็นโซนปลูกพืชผักสวนครัว แปลงไม้ผล ไปตลอดจนหญ้าเนเปียที่ใช้สำหรับเลี้ยงโคเนื้อ และที่สำคัญเล้าหมูและไก่เป็ดที่เลี้ยงยังสร้างรายได้ให้กับเธอได้อีกด้วย

แปลงปลูกหญ้าเนเปียร์

“พอเราปรึกษากับที่บ้านเรียบร้อยแล้ว ก็ย้ายกลับมาอยู่บ้านเลย ตอนนั้นก็นำเงินทุนที่ได้จากทำงาน มาค่อยๆ ลงทุน โดยที่ยังไม่ได้ลงทุนทีเดียวหมด ขั้นแรกก็มีซื้อโคเนื้อมาเลี้ยง เพราะมองว่าสามารถผลิตลูกโคให้เราได้ จากนั้นเราก็ขายไป พอมีรายได้เข้ามาเราก็ทำอย่างอื่นไปด้วย ก็จะเป็นรายได้ทดแทนกันไป ซึ่งการจะมีรายได้รายวัน เราก็ปลูกพืชผักสวนครัว ส่วนเงินรายเดือนก็ได้จากเป็ด ไก่ หมูปลา ก็จะเอาเงินที่ได้จากทางนี้มาใช้จ่ายซื้ออาหารสำหรับทำปศุสัตว์ มันก็ไม่มีปัญหาเรื่องเงินหมุนเวียน” คุณวัชรีญา บอก

ซึ่งการทำเกษตรผสมผสานของเธอนั้น พืชผักสวนครัวที่ปลูกอยู่รอบบริเวณสามารถเก็บผลผลิตไปจำหน่ายได้ทุกวันขั้นต่ำวันละ 300 บาท และรายได้เป็นรายปีที่สามารถเป็นเงินเก็บได้ เธอบอกว่าเป็นเงินที่ได้จากการจำหน่ายโคเนื้อ โดยที่ไม่ต้องนำเงินส่วนนี้ไปใช้อะไรก็สามารถเป็นเงินเก็บได้

“ลูกโคนี่พออายุได้ประมาณ 1 ปี เราก็สามารถขายได้เงินเป็นหลักหมื่นบาท มีกี่ตัวเราก็ขายได้ตามจำนวนนั้น ซึ่งเงินที่ได้จากรายปีนี่ถือว่าดีมาก เพราะเราทำเงินนได้เป็นก้อน สามารถนำไปเก็บหรือชำระหนี้ได้ จึงถือว่าเรามาถูกทางแล้ว ที่มาทำงานด้านเกษตรผสมผสาน สามารถสร้างเงินได้จริง ซึ่งอาหารที่ให้โคให้ไก่ให้เป็ดกิน ก็ปลูกเองรอบบ้านได้ เช่น หญ้าเนเปียร์ ก็ทำให้เราประหยัดต้นทุนไปได้อีก” คุณวัชรีญา บอก

ซึ่ง ณ เวลานี้ คุณวัชรีญา บอกว่า การที่มาทำอาชีพทางการเกษตร เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเธอมีความสุขมาก โดยได้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับครอบครัว ซึ่งการทำงานในแต่ละวันเธอเป็นผู้กำหนดเวลาการทำงานเอง ว่าจะทำอะไรที่บ้างในแต่ละวัน จึงทำให้รู้สึกมีความสุขในการได้เป็นนายของตัวเอง และที่สำคัญได้อยู่กับธรรมชาติกับสภาพแวดล้อมที่ดี เธอถึงกับบอกว่าทำให้มีสุขภาพจิตที่ดีตามไปด้วย ได้อยู่ดูแลคนที่เธอรักอย่างใกล้ชิดโดยที่ไม่ต้องออกไปทำงานไกลบ้าน

Advertisement

Advertisement

“ไม่เสียใจที่เราอายุเพียง 25 ปี แล้วมาทำเกษตร เพราะมองว่ายิ่งทำแล้วยิ่งมีความสุข อนาคตก็มองว่า ถ้าสามารถขยับขยายอะไรไปได้ ก็จะทำโคขุน เพราะสามารถทำรายได้ดี และถ้างานเกษตรอื่นๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้ได้อีก ก็จะพัฒนาต่อไป เพราะเกษตรผสมผสาน เป็นการสร้างรายได้ที่ยั่งยืน โดยที่ไม่ต้องปลูกพืชเชิงเดียวจำนวนมากๆ เราก็สามารถมีผลผลิตขายได้หลากหลายชนิด หลากหลายราคา ซึ่งที่นี่ก็เป็นแหล่งเรียนรู้ใครที่สนใจ ก็เข้ามาศึกษาได้ ยินดีให้คำแนะนำในเรื่องที่พอเป็นประโยชน์ สำหรับผู้ที่สนใจอยากทำเป็นอาชีพต่อไป” คุณวัชรีญา กล่าวแนะนำ

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณวัชรีญา มณีรัตน์ หมายเลขโทรศัพท์ (089) 874-7266