อดีต ผอ.โรงพยายบาล ใช้ชีวิตหลังเกษียณ ทำสวนผสม สร้างรายได้ยั่งยืน

ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ ไม่ได้ระบุว่าคุณต้องเคยหรืออยู่ในวงจรเกษตรกรรมมาก่อน หากสนใจต้องการปฏิบัติตามแนวทางทั้งสองทฤษฎี เพราะเชื่อมั่นและเลื่อมใสในผลที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวิชาชีพใด อายุเท่าไร เป็นเพศอะไร ก็ล้วนนำไปปฏิบัติได้ ขอเพียงให้คุณทุ่มเท เอาใจใส่นำไปทำอย่างจริงจังโดยไม่ท้อแท้เท่านั้น

คุณวินัย ทัพทวี บ้านเลขที่ 97 หมู่ที่ 2 ตำบลริมสีม่วง อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ทำสวนเกษตรผสมผสานตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามแนวทางของพ่อหลวง รัชกาลที่ 9 โดยปลูกทั้งพืช ไม้ผล เลี้ยงสัตว์ และประมง ในแบบอินทรีย์ แล้วนำผลผลิตไปขายที่ตลาดสุขภาพ หวังให้ผู้บริโภคมีอาหารที่ปลอดภัยไว้รับประทาน พร้อมกับได้ชักชวนชาวบ้านในชุมชนสร้างเกษตรอินทรีย์แปลงใหญ่นำผลผลิตไปขายเสริมรายได้

คุณวินัย หรือ หมอวินัย เคยรับราชการเป็นหมออนามัย และตำแหน่งสุดท้ายคือ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนางั่ว ไม่ได้รอเกษียณ แต่ขอลาออกก่อน ด้วยเหตุผลที่มีความตั้งใจต้องการทำเกษตรกรรมที่ปลอดสารเคมี แล้วเห็นว่าในขณะที่ร่างกายยังมีกำลังก็ควรรีบลงมือทำเสียก่อน

คุณวินัย ทัพทวี

“ระหว่างทำงานเป็นหมอ ชอบกิจกรรมเกษตรกรรมหลายชนิด แล้วยังทำสวนไว้บ้าง แต่ไม่เต็มที่ เพราะมีงานประจำอยู่ จึงซื้อที่ดินแปลงนี้ไว้เมื่อ 6 ปีก่อน ในครั้งนั้นพื้นที่บริเวณนี้มีสภาพเป็นภูเขาหัวโล้น ไม่มีต้นไม้ แห้งแล้ง แต่เมื่อได้เข้ามาจับจองเป็นเจ้าของที่ดิน จึงเริ่มปรับปรุงพัฒนาโดยยึดแนวทางการทำเกษตรของพ่อหลวง รัชกาลที่ 9 แล้วนำพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ ทั้งเล็ก-ใหญ่ มาปลูก วางผังปรับปรุงดินบางส่วนเพื่อทำสวนปลูกผักสวนครัวและสมุนไพร เพราะตระหนักว่าถ้าที่ใดมีป่า ที่นั่นมีความชุ่มชื่น”

การเป็นป่าต้นน้ำของพื้นที่บริเวณนี้ ถือว่าเป็นต้นทุนทางธรรมชาติที่มีส่วนช่วยส่งเสริมให้พื้นดินมีความชุ่มชื้นและฟื้นตัวเร็ว ช่วยให้ต้นไม้ใบหญ้าเจริญงอกงามเติบโตอย่างรวดเร็ว สร้างระบบนิเวศให้มีความสมบูรณ์ทันที

หมอวินัย เล่าว่า ตอนที่มาซื้อที่ดินผืนนี้ ชาวบ้านหลายหลังคาเรือนที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้ มีความเป็นอยู่ตามอัตถภาพ ครั้นเมื่อเข้ามาปรับปรุงพัฒนาพื้นที่จนมีความสมบูรณ์ ปลูกพืช ไม้ผล ก็ได้ดั่งใจ เลี้ยงสัตว์ก็มีคุณภาพ เมื่อชาวบ้านเหล่านั้นได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงจึงหันมายึดแนวทางที่ตัวเองทำ พร้อมกับให้ความร่วมมือทำเกษตรกรรมอีกหลายชนิดร่วมกัน

“บ้านไร่ธรรมชาติ” เป็นชื่อสวนผสมอินทรีย์ของหมอวินัย มีกิจกรรมเกษตรผสมผสานในพื้นที่จำนวน 12 ไร่ ประกอบด้วยปลูกผักทั้งสวนครัวและสมุนไพร ผลไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ เลี้ยงสัตว์ อย่าง หมู ไก่ พร้อมกับทำประมงด้วยการเลี้ยงปลาทับทิมและปลานวลจันทร์ ล่าสุดกำลังเริ่มเลี้ยงปลาดุกอินทรีย์

คุณหมอ เรียนรู้การผลิตปุ๋ยจากมูลสัตว์ไว้ใช้เอง เป็นมูลจากหมูหลุมที่เลี้ยงไว้ มีจำนวน 7 ตัว นำไปใส่พืชได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาหมักเหมือนมูลไก่ คุณหมอ บอกว่า มูลหมูหลุมให้ประโยชน์กับพืชได้อย่างดีมาก เนื่องจากได้ผสมแกลบ รำ และเศษอาหารต่างๆ ในคอกไว้เรียบร้อยแล้ว การที่หมูเดินไป-มา ในคอกก็เท่ากับเป็นการเหยียบย่ำให้วัสดุเหล่านั้นผสมกันอย่างเรียบร้อย เมื่อต้องการนำมาใช้ เพียงตักขึ้นมาตากให้แห้งสนิทแล้วใส่ต้นไม้ได้ทันที

ไม่เพียงเท่านั้น การเติมเต็มความรู้ด้านการเกษตรของคุณหมออยู่เป็นประจำ ทำให้หมอวินัยนำทรัพยากรในพื้นที่หลายชนิดมาสร้างมูลค่า ลดต้นทุนด้วยการผลิตฮอร์โมนหน่อกล้วยจากต้นกล้วยน้ำว้าที่ปลูกไว้ รวมถึงฮอร์โมนไข่ โดยใช้ไข่จากไก่ที่เลี้ยง มีไก่พันธุ์โรดไทย จำนวน 100 ตัว พันธุ์โรดไอแลนด์กับพันธุ์อื่นอีก รวมแล้วกว่า 130 ตัว

“เมื่อฟักไม่เป็นตัวก็เก็บมาใช้ แล้วยังผลิตนมหมักไว้ใช้จำนวนเล็กน้อย เนื่องจากต้องสั่งซื้อ สิ่งเหล่านี้ช่วยทำให้ต้นไม้และพืชต่างๆ ที่ปลูกไว้เจริญเติบโตสมบูรณ์อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญทำให้ประหยัดต้นทุนค่าปุ๋ยและอาหารเสริมได้อย่างมหาศาล

ไก่หลายสายพันธุ์ที่ขายไข่และขายเนื้อ

ดังนั้น ทุกสิ่งที่กล่าวมา เมื่อนำมาใช้ผสมร่วมกันจะเป็นอาหารที่มีประโยชน์อย่างสูงต่อพืช หรือเปรียบเป็นอาหารจานด่วนที่พืชได้รับอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ สตรอเบอรี่ ที่ปลูกไว้มีความสมบูรณ์มาก ให้ผลผลิตดก มีขนาดผลใหญ่ รสหวาน จนหลายคนที่ได้ลิ้มลองต่างตกใจ ทำให้มีรายได้ดีจากการขายอีกด้วย”

ในส่วนพืชไม้ผลที่คุณหมอปลูกไว้ ได้แก่ สตรอเบอรี่ กล้วย อะโวกาโด มะคาเดเมีย ฝรั่ง มะละกอ มะม่วง โดยไม้ผลเหล่านี้ปลูกไว้กินเอง แล้วบางส่วนยังนำไปขายเป็นรายได้ที่ตลาดกรีน ซึ่งเป็นตลาดสุขภาพแห่งใหญ่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ นอกจากนั้น บริเวณรอบที่ดินจะปลูกไม้ยืนต้นเศรษฐกิจอย่าง พะยูง และต้นมะขามหวาน ไว้เป็นกำแพงธรรมชาติเพื่อช่วยกลั่นกรองมลภาวะที่เป็นพิษจากสิ่งต่างๆ

ความสำเร็จของหมอวินัยสร้างความสนใจให้แก่ชาวบ้านในชุมชน แล้วได้เข้าร่วมทำกิจกรรมเกษตรผสมผสานแนวอินทรีย์ ในชื่อ “ริมสีม่วง ออร์แกนิควิลเลจ” ซึ่งมีสมาชิกถึงตอนนี้ ประมาณ 30 ราย ทั้งนี้สมาชิกแต่ละรายจะทำกิจกรรมทางการเกษตรที่ตนเองถนัด ต้องการจะทำแบบรวมทุกอย่างหรืออย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ แต่มีข้อตกลงว่าทุกอย่างที่ทำต้องเป็นอินทรีย์ด้วยความจริงใจและซื่อสัตย์เท่านั้น

โดยสมาชิกจะมีโอกาสนำผลผลิตอินทรีย์ไปจำหน่ายที่ตลาดกรีน รวมถึงตลาดอินทรีย์อีกหลายแห่งในจังหวัด ซึ่งจะทำให้สมาชิกได้สิทธิพิเศษการขายสินค้าในราคาสูงกว่านำไปขายยังตลาดทั่วไป คุณหมอ เผยว่า ที่ผ่านมาสมาชิกกลุ่มพอใจกับกิจกรรมเหล่านี้ รวมถึงรายได้ตอบแทนด้วย เพราะทุกคนมองว่าเป็นความยุติธรรมกับระบบการผลิตและจำหน่าย

ไผ่กิมซุง

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสร้างความเข้มแข็ง ตลอดจนเป็นที่ยอมรับในสังคมเกษตรอินทรีย์ จึงได้ดำเนินการขอรับรองทำเกษตรอินทรีย์ จาก PGS (Participation Good System) หรือเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม โดยสมาชิกทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบ

หมอวินัย บอกว่า สิ่งที่ไม่ค่อยพอใจนักเป็นเรื่องคุณภาพผลผลิต เพราะยังไม่ถึงตามเป้าหมายที่ต้องการ แต่ถ้าถามเรื่องความปลอดภัยต่อสุขภาพ อันนี้การรันตีเต็มที่ เพราะรูปลักษณ์ภายนอกอาจไม่สวย ขนาดบางอย่างอาจยังไม่ได้มาตรฐาน คงต้องใช้เวลาปรับปรุงกันตลอด ฉะนั้น อีกไม่นานคงจะได้เห็นผลผลิตที่มีทั้งคุณภาพมาตรฐาน ส่วนเรื่องรสชาติคงไม่ต้องห่วง เพราะชิมแล้วได้ตามที่ต้องการ

ทุเรียน

“แท้จริงของเป้าหมายคือ ต้องการสร้างสภาพแวดล้อมในพื้นที่ตัวเอง และพื้นที่ของสมาชิกให้มีความสมดุลทางธรรมชาติโดยปลอดสารเคมี เพื่อจะได้นำไปสู่การเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์ จะส่งผลให้เกิดความปลอดภัยต่อสุขภาพ ห่างไกลจากโรคภัย ไม่สร้างปัญหาต่อตนเองและภาระคนรอบข้าง

เมื่อพื้นที่ขนาดใหญ่มีคุณภาพ แล้วกลับสู่ความสมดุลทางธรรมชาติที่ปลอดสารเคมีแล้ว จากนั้นจึงเริ่มพัฒนาพื้นที่ทั้งหมดของสมาชิกทุกรายสร้างเป็นแหล่งเรียนรู้ แล้วเชิญชวนผู้คนที่สนใจแนวอินทรีย์เข้ามาดูงาน มาเที่ยว หรือเข้ามาพักแรมก็ได้” คุณหมอวินัย กล่าวในตอนท้าย

การอยู่บนเส้นทางอาชีพรักษาคนไข้ ทำให้หมอวินัยมองว่าชีวิตที่สมบูรณ์ควรจะเริ่มจากต้นทาง คือความปลอดภัยจากน้ำ อากาศ อาหาร ด้วยเหตุนี้จึงเห็นว่าการได้อยู่กับสภาพทางธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่ดี ช่วยให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ

ทริปท่องเที่ยวคราวต่อไป ชวนท่านผู้อ่านปักหมุดไปเที่ยวเขาค้อ เพราะมีความเป็นธรรมชาติได้สัมผัสทั้งต้นไม้ ภูเขา แม่น้ำ แต่อย่าลืมแวะไปเยี่ยมเยียนสวน “บ้านไร่ธรรมชาติ” ของคุณหมอวินัย ได้ที่โทรศัพท์ (084) 623-8807 เผลอๆ ท่านอาจโชคดีมีผลิตภัณฑ์อินทรีย์ติดมือกลับบ้านด้วย…

ไผ่หวานกินดิบ

ผลผลิตสตอรว์เบอร์รี่อินทรีย์