นอร์เวย์ ดินแดนแห่งตะวันหลับดึก (ตอนที่ 2)

คนนอร์เวย์บอกเราแต่แรกแล้วว่ารถที่นี่เขาจะหยุดให้คนข้ามถนน เพียงแค่เห็นคนยืนริมทางตั้งท่าข้ามถนนเขาจะหยุดรถทันที กระนั้นชาวไทยอย่างเราก็ยังคุ้นชินกับการจราจรแบบบ้านเมืองเราที่ไม่เคยเกรงใจคนข้ามถนน เรารีรอทุกครั้งที่จะข้ามถนนและสะดุ้งเมื่อรถจอดให้โดยดี

แต่รถราที่แบรเก้นไม่ได้คับคั่งอย่างกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่อื่นๆ ของเมืองไทย ส่วนใหญ่ผู้คนจะชอบเดินไปไหนมาไหนถ้าไม่ไกลเกิน ภูมิประเทศที่เป็นภูเขาบ้านเรือนปลูกเป็นหย่อมสูงต่ำไปตามเนินเขา ดูสวยงามแปลกตาสำหรับชาวต่างถิ่น โดยเฉพาะในย่านที่พวกเราพำนัก ถนนปูลาดด้วยก้อนหินแบบเดิมไม่ใช่สวยและมีเสน่ห์น่าเหยียบย่าง เพียงแต่ต้องระวังในยามฝนตกเปียกลื่น แต่รองเท้าของคนที่นี่ก็ผลิตขึ้นอย่างเหมาะกับพื้นที่ของเขา กันเปียก รัดกุมพื้นเกาะถนนอย่างดี ศิลปินสาวไทยที่อยู่นอร์เวย์มานานให้ฉันยืมรองเท้าของเธอ ทำให้เดินบนพื้นหินได้อย่างมาดมั่น

รถขายซุป

ฉันกับเพื่อนร่วมทางบินจากกรุงเทพฯ มาต่อเครื่องที่ดูไบ จากนั้นผ่านออสโลเมืองหลวงของนอร์เวย์มาลงที่แบรเก้น แม้เราจะไม่ได้สัมผัสเมืองหลวง ทว่าก็คุ้มค่าที่ได้มาแบรเก้นซึ่งนับว่าเป็นเมืองหลวงฝั่งนอร์เวย์ตะวันตก เป็นเมืองใหญ่อันดับสองที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน มีประชากรแค่ประมาณสี่แสนกว่าคน อากาศและสิ่งแวดล้อมดีเยี่ยม ประเทศนอร์เวย์จัดว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างดีเลิศ

แม้แบรเก้นจะเป็นเมืองท่าแห่งหนึ่งที่จัดว่าใหญ่ที่สุดของยุโรป กระนั้นเขาก็ยังคงวัฒนธรรมดั้งเดิมเอาไว้ รักษาดูแลอาคารเก่าแก่นับร้อยปีไว้ ถนนยังปูลาดด้วยก้อนหินแบบเดิม เป็นเมืองที่เติบโตไปกับสิ่งแวดล้อม ไม่ได้ล้ำหน้าทางเทคโนโลยีแบบทำลายสิ่งแวดล้อม แบรเก้นจึงได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในเก้าของเมืองที่เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมที่สำคัญของยุโรป

ลานน้ำพุ

แบรเก้นมีธุรกิจประมงและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เกษตรใต้น้ำ และการเดินเรือขนาดใหญ่ สถาบันวิจัยสมุทรศาสตร์ของแบรเก้นใหญ่เป็นอันดับสองของยุโรป

ที่พักของเราอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ ซึ่งเปรียบได้ว่าบริเวณนี้เป็นแหล่งรวมทุกสิ่งอย่างที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือน โชคดีจึงเป็นของเราที่อยากมาแถวนี้เมื่อไรก็เพียงแต่ก้าวขาออกมาจากห้องพัก เดินลัดเลาะลงมาตามถนนปูหิน   ซึ่งมีหลายเส้นทางให้เลือกเดิน สองข้างทางเราเพลิดเพลินกับบ้านเรือนสไตล์ยุโรปสวยงาม เมืองนี้เขามีกฎบัญญัติว่าผู้คนสามารถเดินผ่านหลังบ้านหน้าบ้านกันได้โดยไม่เดียดฉันท์กัน แต่แม้จะมีคนเดินผ่านไปมาฉันยังรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวของบ้านแต่ละหลัง ไม่มีใครละเมิดรบกวน

บริเวณท่าเรือมีตลาดปลาจำหน่ายกุ้งหอยปูปลา อาหารทะลเสดๆ มีเมนูให้เลือกหลากหลาย แน่ล่ะที่ราคาค่อนข้างแพงสำหรับเงินในกระเป๋าของชาวไทยเรา ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนต่ำกว่าเขาหลายช่วงตัว อีกทั้งประเทศนอร์เวย์จัดเป็นประเทศหนึ่งในแถบสแกนดิเนเวียที่ค่าครองชีพสูงลิบลิ่ว อย่างไรก็ตามเราก็อดไม่ได้ที่จะลองชิมรสชาตินอร์เวย์ มื้อแรกระหว่างเดินเล่นท่ามกลางอากาศหนาวชื้นฝนพรำ เราลองลิ้มซุปที่ขายในรถ สิ่งที่ดึงดูดให้เราแวะไปชิมคือรถที่ตกแต่งสวยงาม เมื่อได้เห็นถ้วยซุปก็ยิ่งชอบ เพราะเขาทำจากกาบไม้ชนิดหนึ่ง คล้ายกาบหมากบ้านเรา

ตรอกซอกซอยเมืองแบรเก้น

ช่วงหนึ่งในทางเดินผ่าน เราพบตึกเก่าที่เหลือแต่ซากอิฐหินให้เห็น เขาสร้างเรือนกระจกครอบไว้คล้ายเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ชม เห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงบ้านเมืองเรา นอกจากไม่เก็บรักษายังรื้อทำลายทิ้ง อนิจจา

จากท่าเรือเราเดินเล่นไปเรื่อยเปื่อย อากาศเย็นๆ นั้นช่วยให้เดินเพลินไม่เหนื่อยง่าย มาถึงย่านพลุกพล่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร รายรอบลานกว้างที่มีคนมาเดินเล่นนั่งเล่น นอกจากเก็บรักษาของเดิมเขายังสร้างสิ่งใหม่ไว้ให้ประชาชนคนที่เดินไปมาได้เพลิดเพลินเจริญใจ ดังเช่นงานศิลปะที่ก่อเป็นรางปล่อยให้น้ำไหลผ่าน แลดูสดชื่นเย็นสบาย ฉันไม่รู้ที่มาแต่คาดเดาว่าน่าจะเป็นงานศิลปะจัดวางถาวรชิ้นหนึ่ง

ซากอาคารเก่า

เมียงมองตามร้านประดามีทั้งรองเท้าเสื้อผ้าล้วนน่าใช้ แต่ราคานั้นไม่น่าหยิบจับเป็นเจ้าของนักหรอก เมื่อเทียบกับค่าเงินไทย เอาไว้ซื้อของบ้านเราดีกว่า แม้ว่าจะชื่นชมหลายสิ่งอย่างที่รัฐจัดไว้ให้ประชาชนของเขา แต่ฉันก็ยังรักบ้านเมืองตัวเองและอบอุ่นใจในแผ่นดินเกิด

เราชวนกันเดินไกลจนมาถึงลานน้ำพุกว้าง ตรงนี้เป็นสถานที่หนึ่งซึ่งเราจะมีการแสดงสดกลุ่มร่วมกับศิลปินอื่นๆ ผู้จัดบอกว่าอาจจะมีศิลปินมาร่วมหลายสิบชีวิต เพราะเป็นพื้นที่เปิดใครสนใจก็เข้าร่วมได้ นกพิราบฝูงใหญ่บินว่อนจิกกินอาหารที่คนโปรยให้ เห็นนกแล้วนึกถึงเสรีภาพ พอนึกถึงเสรีภาพใจก็บินไปถึงประเทศตัวเองที่ร้างไร้เสรีภาพมานานปี อดไม่ได้ที่คิดจะทำแสดงสดเรื่องบ้านเมืองตัวเอง

มีเวลาว่างหลายวันก่อนถึงการแสดงงานศิลปะ เราเดินเล่นกันวันละนิดละหน่อยพอเป็นกระสาย ฉันหมายใจจะดูงานศิลปะในมิวเซียม โดยเฉพาะที่มีงานของเอดเวิร์ด มุ้งค์ ศิลปินคนโปรด แต่พอดูเวลาแล้วก็เกรงว่าจะเดินดูไม่ทั่ว จึงอดใจไว้รอศิลปินสาวอีกสองคนที่จะตามมาสมทบ ไว้ดูพร้อมกันใช้เวลาละเลียดให้นานๆ

ผู้คนคับคั่งย่านกลางเมือง

เราเดินกลับที่พักขณะที่ฝนโปรยเม็ดบางๆ สวมหมวกกระชับเสื้อโค้ชกันฝนที่เขาให้ยืมใส่ เพียงพอที่จะเดินต่อไปโดยไม่ต้องพัก สังเกตดูว่าคนที่นี่ไม่ค่อยกลัวฝน นั่นอาจเป็นเพราะเขาเตรียมเสื้อผ้ากันเปียกกันหนาวมาเพียงพอ ด้วยสภาพอากาศในฤดูนี้ที่ยังหนาวชื้นได้ตลอดเวลา

ชาวนอร์เวย์เขามีคำกล่าวว่า อากาศแบบไหนไม่ใช่ปัญหา อยู่ที่ว่าเตรียมเสื้อผ้าไว้พร้อมหรือไม่ต่างหาก