มหัศจรรย์ดอกดิน

มีผืนดินมีของกิน เริ่มต้นแบบนี้อีกแล้ว เพื่อยืนยันอีกครั้ง เพราะดูเถิดไม่ว่าจะร้อนแล้งแห้งผากเพียงใดก็ตาม หรือฝนจะตกน้ำจะท่วม บนแผ่นดินเราก็มีของกิน และผู้คนก็หาวิธีจัดการทำกินได้สารพัด

ช่วงที่เริ่มเข้าฤดูแล้ง โดยเฉพาะภาคเหนือ จะมีดอกไม้สวยขึ้นจากดินเอามาทำกิน ฉันไม่รู้ว่าที่อื่นเรียกว่าอะไร แต่ที่บ้านท่าสองยาง จังหวัดตาก เรียกดอกดิน ดอกดินสีสวยมาก ขาวนวล ก้านดอกจะมีเหลือมีกลิ่นหอมอ่อนด้วย

“ดอกไม้กินได้”

“ดอกดินไม่ใช่ดอกไม้” เด็ก ๆ ยืนยัน และหัวเราะว่าป้าไม่รู้จักดอกดิน

“ดอกๆ สวยๆ ป้าก็เรียกดอกไม้หมดแหละ”

“นี่ดอกดิน” เด็กชายยืนยัน

“ดอกไม้ดอกดิน”

“ดอกดินเฉยๆ” เขายืนยัน

ในช่วงหน้าแล้งที่แห้งจัดมากๆ ดอกมันจะโผล่ขึ้นมาจากดินจึงเรียกว่าดอกดิน ไม่มีใบ มีแต่ก้านดอกสั้นๆ

“ทำอะไรกินได้บ้าง”

“ได้ทุกอย่างแหละป้า แกงส้ม ต้มจืด ต้มลวกจิ้มน้ำพริก”

เย็นต่อมาจึงมีแกงส้มดอกดินกับปลา น้ำแกงน้ำใสๆ แกงส้มของสถานพักพิงบ้านทัศนีย์  แกงรสอ่อนๆ ใส่พริกไม่มากเพราะให้เด็กๆ ได้กินด้วย ปลาสดเอามาทอดก่อนที่จะเอาไปแกง มีรุ่นพี่ทำกับข้าวให้น้องกิน

แนะนำสถานพักพิงบ้านทัศนีย์ก่อนนะคะ เป็นที่พักพิงของเด็กๆ มีเด็กกำพร้า เด็กครอบครัวแตกแยก เด็กที่พ่อแม่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ สถานพักพิงบ้านทัศนีย์ บ้านท่าสองยางอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ติดเขตขายแดนไทยพม่าตอนนี้มีเด็กๆ อยู่ 60 คน ทั้งน้องเล็กหนึ่งขวบถึงสี่ขวบและพี่ๆ วัยรุ่น พวกเขาอยู่กันที่บ้านพักพิง มีแม่คนเดียวกันคือ แม่ทัศนีย์ คีรีประณีต เธอเลี้ยงดูเด็กๆ มานานถึง 26 ปีแล้ว เด็กๆ ทุกคนได้เรียนหนังสือไปตามสภาพ รุ่นโตที่ออกไปจากแล้วเจ็ดคนพวกเขามีงานการทำและกลับมาเยี่ยมน้องๆ

ปีที่แห้งแล้งร้อนจัดมากๆ ไฟไหม้ป่า ตรงที่ไฟไหม้นั่นแหละดอกดินจะขึ้นมา เห็นไหมว่าไฟก็มีประโยชน์ต่อพืชบางอย่าง ดังนั้น จะตั้งหน้าตั้งตารังเกียจไฟได้อย่างไร  ไฟมีคุณอนันต์มันอยู่ที่ว่าเราจะจัดการอย่างไรให้พอเหมาะพอดี และต้องแก้ทั้งระบบ ทั้งควันจากไฟไหม้ป่า จากรถรายวดยานบนถนน จากโรงงานอุตสาหกรรม และจากขยะที่ซุกไว้ตามที่ต่างๆ และเกิดการไหม้ นั่นเป็นเรื่องที่ต้องแกไขจัดการกันต่อไป สำหรับเราๆ ชาวบ้านธรรมดาที่ทำได้ตอนนี้ก็คือดูแลเฉพาะส่วนตัว เท่าที่ทำได้โดยไม่ต้องสนใจว่าใครจะทำเริ่มที่ตัวเรา ไม่เผาขยะใดๆ ไม่ใช่รถสวนตัวช่วงนี้ ไม่กินอาหารปิ้งย่าง

กลับมาที่ดอกดินต่อว่าถึงความสวยแล้ว ดอกดินดู บอบบางอ่อนโยน สวยงามไม่แพ้ดอกไม้อื่นใด อีกทั้งเป็นอาหารตามฤดูกาลดอกดินสดจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ แต่เมื่อเอามาแกงกลิ่นจะเปลี่ยนไป ยามกัดกินจะมีกลิ่นขึ้นจมูกนิดๆ แบบสมุนไพรไทยๆ เข้าใจว่าน่าจะอยู่ในกลุ่มตระกูลเดียวกับหัวไพล หัวขิง

ดอกดินจะคู่กับไข่มดแดงด้วย เพราะนอกจากจะมีดอกดินก็จะมีไข่มดแดงซึ่งถือว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูงเอามาทำกินได้สารพัก เช่นแกงกับดอกดิน แกงกับผักหวาน ใส่ไข่เจียว แกงใส่วุ้นเส้น

ในระหว่างเดินทางกลับ เส้นทางท่าสองยางไปยังแม่สอด พบดอกดินวางขายข้างถนนตลอดสายบอกน้องคนขับว่า ขอหยุดถ่ายรูปหน่อย

คราวนี้หอบดอกดินกลับเชียงใหม่เลยกินดอกดินที่สถานพักพิงทัศนีย์มาสองมื้อแล้ว มื้อแรกเป็นแกงส้ม มื้อที่สองต้มจืดกับเต้าหู้แบบจืดเพราะเป็นของกินสำหรับเด็กที่นี่เอาเด็กเป็นหลักผู้ใหญ่ก็กินอาหารเด็กไป สำหรับคนกินอาหารรสจัดก็ไม่ค่อยอร่อยถูกปากแต่ดีกับสุขภาพมากในการกินผักกินจืดห้าวันที่อยู่กับเด็กๆ ความดันลดลง

มาถึงที่เชียงใหม่ ถามเพื่อนดูเขาทำแกงดอกดินกันอย่างไร เพื่อนบอกว่าทำแบบเมืองๆ แบบเหนือ ต้องมีมะเขือส้ม และชะอมด้วย

เริ่มจากเอาดอกดินมีล้าง ผ่าเป็นซีก น้ำพริกแกงก็มี พริกแห้งเผ็ดมากน้อยตามแต่ต้องการ หอมกระเทียม เกลือ ตะไคร้ตำให้ละเอียดใส่กะปิลงไป เพื่อนบอกว่าต้องแกงด้วยกระดูกหมูแต่บ้านเรามีพี่น้องมุสลิมด้วยจึงใช้ไก่แทน ใช้ไก่บ้านส่วนเนื้อติดกระดูก น้ำพริกแกงละลายน้ำเอาไก่ลงไปต้มกับน้ำพริกแกงก่อนแล้วจึงเอาดอกดินลงไป ตามด้วยชะอม มะเขือเทศลูกเล็กๆ ปรุงรสด้วยน้ำปลานิดหนึ่ง

กินกับข้าวสวยร้อนๆ เหมาะมาก แถมไข่เจียวอีกจานก็ได้