สร้างความมั่นคงด้านน้ำตามรอยเท้า “พ่อ”

“น้ำ” นับเป็นปัจจัยพื้นฐานทางการเกษตร ปัจจุบัน ภาคการเกษตรทั่วโลกต่างกำลังเผชิญหน้ากับผลกระทบจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศเพิ่มสูงขึ้น ทั้งปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม พายุฝน และอากาศหนาวที่มาผิดฤดู ทำให้ปริมาณน้ำลดลง อากาศขาดความชุ่มชื้น ส่งผลกระทบทำให้พืชขาดน้ำ ชะงักการเจริญเติบโต ปริมาณผลผลิตลดลง และมีคุณภาพต่ำ เพื่อความอยู่รอด เกษตรกรจำเป็นต้องเรียนรู้และเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างดิน น้ำ และพืช เพื่อปรับปรุงแผนการใช้ทรัพยากรน้ำให้ สอดคล้องกับปริมาณความต้องการของพืชแต่ละชนิด เพื่อจะได้ผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพป้อนเข้าสู่ตลาดในอนาคต  

 

52 ปท. เข้าร่วมงาน ชลประทานโลก ครั้งที่ 2  

ประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ในฐานะเจ้าภาพการจัดประชุมชลประทานโลก ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 6-8 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 1,200 คน จาก 52 ประเทศ

ทุกประเทศที่เข้าร่วมประชุมได้ให้ความสำคัญในเรื่องการชลประทานและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ ตลอดจนการใช้น้ำอย่างคุ้มค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งจะช่วยให้เกิดความมั่นคงทางด้านอาหารและสามารถขจัดความยากจนได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในการประชุมระดับรัฐมนตรีนั้น ได้ทำให้เกิดเป็นปฏิญญาเชียงใหม่ที่แต่ละประเทศจะช่วยกันในการเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องชลประทานควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นคงในด้านอาหาร ตลอดจนการยกระดับเครือข่ายเชื่อมโยงการพัฒนาชนบท กับการพัฒนาเมือง สนับสนุนการมีส่วนร่วมการรวมกลุ่มของประชาชนและเพิ่มอำนาจในการต่อรองให้เกษตรกรมากขึ้น

คณะรัฐมนตรี 8 ประเทศ เข้าร่วมงานประชุมชลประทานโลก ที่จังหวัดเชียงใหม่
คณะรัฐมนตรี 8 ประเทศ เข้าร่วมงานประชุมชลประทานโลก ที่จังหวัดเชียงใหม่

สำหรับประเทศไทยได้นำเสนองานวิจัยการทำนาแบบใช้น้ำน้อยหรือการทำนาแบบเปียกสลับแห้งในการทำนาปรังในเขตชลประทานช่วงฤดูแล้ง ซึ่งช่วยลดการใช้น้ำลง 20-35% และยังช่วยลดต้นทุนการผลิต ในขณะที่ได้ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้น ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากประเทศที่เข้าร่วมประชุม จนได้รับรางวัล WatSave Awards 2016

คณะรัฐมนตรี ศึกษาดูงานศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
คณะรัฐมนตรี ศึกษาดูงานศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่

ยกย่องพระอัจริยภาพด้านการจัดการน้ำ

การประชุมในครั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและพระอัจฉริยภาพด้านการบริหารจัดการน้ำของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในรูปแบบการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้แก่

  1. นิทรรศการฝนหลวงแก้ปัญหาแล้ง เป็นการแสดงถึงพระอัจฉริยภาพที่สามารถกำหนดบังคับฝนให้ตกลงสู่พื้นที่เป้าหมายได้สำเร็จ ส่งผลให้พื้นที่การเกษตรและพื้นที่ป่าไม้ของประเทศไทยกว่า 173 ล้านไร่ ได้มีน้ำใช้ในการเพาะปลูกมาเป็นเวลากว่า 30 ปี
  2. นิทรรศการป่าต้นน้ำ/ระบบป่าเปียก เป็นการแสดงถึงพระอัจฉริยภาพในการพัฒนาป่าไม้โดยใช้การชลประทานเข้ามาช่วยในการสร้างความชุ่มชื้นให้ป่าไม้ เพื่อเป็นแนวป้องกันไฟไหม้ป่าในระยะยาว โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าต้นน้ำที่เป็นป่าธรรมชาติ
  3. นิทรรศการฝายต้นน้ำลำธาร หรือ Check dam คือ สิ่งก่อสร้างขวาง หรือกั้นทางเดินของน้ำ ซึ่งปกติมักจะกั้นลำห้วย ลำธารขนาดเล็กในบริเวณที่เป็นต้นน้ำหรือพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง ให้สามารถกักตะกอนอยู่ได้ และหากช่วงที่น้ำไหลแรงก็สามารถชะลอการไหลของน้ำให้ช้าลง และกักเก็บตะกอนไม่ให้ไหลลงไปทับถมลำน้ำตอนล่าง ซึ่งเป็นพระอัจฉริยภาพในการอนุรักษ์ดินและน้ำของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
  4. นิทรรศการหญ้าแฝก เป็นการแสดงพระอัจฉริยภาพในการใช้หญ้าแฝกในการอนุรักษ์ดินและน้ำ ป้องกันการพังทลายของดิน ทำให้แหล่งน้ำไม่ตื้นเขิน จะช่วยรักษาหน้าดิน ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ขึ้นอันจะเป็นการช่วยให้ป่าไม้ในบริเวณพื้นที่รับน้ำสมบูรณ์ขึ้นอย่างรวดเร็ว
  5. อ่างเก็บน้ำ/เขื่อน เป็นนิทรรศการที่แสดงให้เห็นว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ให้ความสำคัญกับการสร้างเขื่อน นอกจากนี้ พระองค์ยังใช้อ่างเก็บน้ำสร้างปิดกั้นระหว่างหุบเขาหรือเนินสูง เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำและน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ จะเห็นได้จากโครงการอ่างเก็บน้ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคอีกด้วย
  6. นิทรรศการฝายทดน้ำ/อาคารบังคับน้ำ/ประตูระบายน้ำ เป็นการจัดแสดงพระอัจฉริยภาพในการใช้อาคารชลประทานบริหารจัดการน้ำ โดยในพื้นที่ทำกินที่อยู่ระดับสูงกว่าลำห้วย ทรงเลือกใช้วิธีการก่อสร้างฝายหรือเขื่อนทดน้ำปิดขวางทางน้ำไหล เพื่อทดน้ำที่ไหลมาให้มีระดับสูงขึ้นจนสามารถผันเข้าไปตามคลองหรือคูส่งน้ำให้แก่พื้นที่เพาะปลูก ส่วนน้ำที่เหลือจะไหลข้ามสันฝายไปเอง
  7. นิทรรศการเครือข่ายอ่างเก็บน้ำ (อ่างพวง) เป็นรูปแบบการจัดการน้ำโดยใช้อ่างเก็บน้ำหลายอ่างเชื่อมเข้าหากัน โดยนำน้ำส่วนเกินจากอ่างหนึ่ง ผันไปเติมให้กับอ่างเก็บน้ำที่ขาดแคลนน้ำ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพระอัจฉริยภาพในการบริหารจัดการน้ำ
  8. นิทรรศการทฤษฎีใหม่ เป็นการแสดงให้เห็นถึงการทำการเกษตรที่ยั่งยืนตามพระราชดำรัส “ทฤษฎีใหม่” คือ การดำเนินการในพื้นที่ทำกินที่มีขนาดเล็ก ด้วยวิธีการจัดการทรัพยากรระดับไร่นาอย่างเหมาะสม โดยการจัดสรรการใช้ประโยชน์ในที่ดิน มีการจัดสร้างแหล่งน้ำในที่ดินสำหรับทำการเกษตรแบบผสมผสานอย่างได้ผล เพื่อให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ให้มีรายได้ไว้ใช้จ่ายและมีอาหารไว้บริโภคตลอดปี
  9. นิทรรศการแก้มลิง เป็นการแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพในการบริหารจัดการน้ำโดยใช้แก้มลิง ในการชะลอน้ำหรือพื้นที่เก็บกักน้ำ เพื่อลดปัญหาน้ำท่วมและชะลออัตราการไหลของน้ำผิวดินที่เกิดจากการไหลที่เพิ่มขึ้น โดยการใช้พื้นที่ระบายน้ำก่อนปล่อยให้ไหลลงสู่ระบบระบายน้ำสาธารณะ ซึ่งจะนำตัวอย่างแก้มลิงที่ดำเนินการประสบความสำเร็จมาแล้วจัดนิทรรศการ เช่น แก้มลิงคลองมหาชัย-คลองสนามชัย จังหวัดสมุทรสาคร แก้มลิงหนองใหญ่ จังหวัดชุมพร แก้มลิงหนองสมอใส เป็นต้น
  10. นิทรรศการระบบระบายน้ำ เป็นการแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ด้วยการการก่อสร้างทางผันน้ำ หรือขุดคลองลัด เชื่อมต่อกับแม่น้ำที่มีปัญหาน้ำท่วม โดยมีหลักการอยู่ว่า จะผันน้ำในส่วนที่ไหลล้นตลิ่งออกไปจากลำน้ำโดยตรง ปล่อยน้ำส่วนใหญ่ที่มีระดับไม่ล้นตลิ่งให้ไหลอยู่ลำน้ำเดิมตามปกติ เช่น การดำเนินโครงการคลองลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นต้น
  11. นิทรรศการระบบป้องกันน้ำเค็ม เป็นนิทรรศการแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพในการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการป้องกันน้ำเค็ม โดยการก่อสร้างประตูระบายน้ำเพื่อป้องกันการรุกล้ำของน้ำเค็ม ทำให้สามารถใช้น้ำจืดบริเวณด้านเหนือประตูระบายน้ำทำการเกษตรได้ เช่น การดำเนินโครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นต้น
  12. นิทรรศการเครื่องกลเติมอากาศ เป็นการแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพในการแก้ปัญหาคุณภาพน้ำ โดยเครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอย หรือ “กังหันน้ำชัยพัฒนา” ซึ่งมีใบพัดเคลื่อนน้ำและซองรับน้ำไปสาดกระจายเป็นฝอยเพื่อให้สัมผัสกับอากาศได้อย่างทั่วถึง เป็นผลให้ออกซิเจนในอากาศสามารถละลายเข้าไปในน้ำได้อย่างรวดเร็ว และในช่วงที่น้ำเสียถูกยกขึ้นมากระจายสัมผัสกับอากาศตกลงไปยังผิวน้ำ จะทำให้เกิดฟองอากาศจมตามลงไป ก่อให้เกิดการถ่ายเทออกซิเจนอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งกังหันน้ำชัยพัฒนาแบบนี้จะใช้ประโยชน์ได้ทั้งการเติมอากาศ การกวนแบบผสมผสาน และการทำให้เกิดการไหลตามทิศทางที่กำหนด
  13. นิทรรศการการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีทางธรรมชาติ เป็นนิทรรศการที่แสดงให้เห็นถึงการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม น้ำเสีย ขยะ ของพระองค์ท่านโดยใช้วิธีธรรมชาติ จากโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ใช้เทคโนโลยีที่เรียบง่ายมี 4 ระบบ คือ ระบบบ่อบำบัดน้ำเสีย ระบบพืชและหญ้ากรองน้ำเสีย ระบบพื้นที่ชุ่มน้ำเทียม และระบบแปลงพืชป่าชายเลน 
“กังหันน้ำชัยพัฒนา” ใช้แก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ
“กังหันน้ำชัยพัฒนา” ใช้แก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ

เยี่ยมชม ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ

คุณทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน และ คุณสุรัช ธนูศิลป์ ผู้อำนวยการ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้การต้อนรับ คณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากนานาประเทศที่เข้าร่วมงานประชุมชลประทานโลก ครั้งที่ 2 เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่

“ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” เกิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2525 โดยเริ่มต้นจากการศึกษาพัฒนาป่าไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง คือ ไม้ใช้สอย ไม้ผล ไม้เชื้อเพลิง ซึ่งจะอำนวยประโยชน์ในการอนุรักษ์ดินและน้ำ กรมชลประทานได้ช่วยพัฒนาพื้นที่ต้นน้ำลำธารโดยการจัดทำฝายต้นน้ำ สำหรับเก็บกักน้ำไว้ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของพื้นดินในฤดูแล้ง และทำระบบกระจายน้ำแบบก้างปลา เพื่อกระจายน้ำออกไปเพิ่มความชุ่มชื้นในดิน เพื่อประโยชน์ในการปลูกป่าและเป็นแนวป้องกันไฟป่าเปียกและน้ำที่ไหลมาเบื้องล่าง จะทำอ่างเก็บน้ำไว้ ใช้ประโยชน์ในการสนับสนุนกิจกรรมการเพาะปลูก การเลี้ยงสัตว์ การประมง