ห้องเรียนเขียวสุดในโลก ความจริงมันเป็นอย่างนี้

อ่านเจอข่าวห้องเรียนเขียวที่สุดในโลก World Greenest Classroom ในเว็บไซต์หนึ่ง บอกว่า ห้องเรียนของโรงเรียน The Perkins School ที่เมืองซีแอตเติ้ล รัฐวอชิงตัน ของอเมริกา เป็นห้องเรียนเขียว หรือห้องเรียนอนุรักษ์ธรรมชาติที่สุดของโลก

พอดีเคยเห็นโรงเรียนที่ว่านี่ เป็นโรงเรียนเอกชนระดับประถมต้น รับนักเรียนตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงเกรดห้า ท่าทางแพงเอาการอยู่ เพราะมีนักเรียนไม่ถึงร้อยคน และอยู่ในย่านผู้ลากมากดี เคยผ่านหลายครั้ง เกือบสิบปีก่อนมีข่าววุ่นวายหน่อย เพราะครูลาออกบ่อย ผู้ปกครองโวยวายรัวๆ จนเขาแก้ปัญหาได้ โดยหาครูใหญ่คนใหม่มาบริหาร จากนั้นก็ราบรื่นดี เสียงโวยเงียบไป

พอเห็นข่าวว่า เขาทำห้องเรียนอนุรักษ์ธรรมชาติที่สุดได้ เลยสนใจไปเสาะหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ถ้าจริงก็ตื่นเต้นนะ เรารู้จักโรงเรียนที่ว่านี่ แต่ไม่ยักรู้ว่าทำอะไรเท่ๆ แบบนี้ได้แฮะ

พบว่าห้องเรียนที่ว่านี่มีจริง เป็นห้องขนาด 28 คูณ 32 ฟุต ก็ใหญ่เอาการอยู่ เขาออกแบบและสร้างด้วยวัสดุธรรมชาติทั้งหมด ฝาเป็นไม้อัดที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี ไม่ทาสี บุด้วยโฟมที่ทำจากซังข้าวโพด ส่วนไหนที่จำเป็นต้องทาสีก็ใช้สีที่ไม่มีตะกั่ว อุปกรณ์ที่ใช้ภายในปลอดสารพิษทั้งหมด หลังคามีแผงผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ น้ำที่ใช้ในห้องเรียนมาจากน้ำฝนเท่านั้น มีถังเก็บน้ำฝนขนาดใหญ่อยู่ด้านนอก ส่งท่อเข้ามาในเครื่องกรองน้ำภายใน ห้องน้ำเป็นระบบแห้งคือไม่ใช้น้ำเลย

ที่ว่าห้องเรียนอนุรักษ์ธรรมชาติก็คือ เขาจะไม่ใช้พลังงานจากที่อื่นนอกเสียจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ผลิตเองได้ ห้องเรียนออกแบบให้แสงธรรมชาติเข้ามามากจนไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวัน กำแพงด้านหนึ่งเป็นสวนแนวตั้ง ปลูกผักต่างๆ ไว้โดยใช้น้ำที่มาจากน้ำฝนเช่นกัน

ส่วนน้ำเสียหรือของเสียจากห้องเรียน จะผ่านระบบกำจัดของเสีย น้ำนำกลับมาใช้ใหม่ จนไม่เหลือของเสียออกไปสู่บรรยากาศแม้แต่น้อย

ห้องเรียนที่ว่านี้เป็นห้องเรียนวิทยาศาสตร์ไปด้วย โดยใช้อุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นมาเป็นห้องเรียนนั่นเองเป็นอุปกรณ์การสอน เช่น ระบบกรองน้ำ ระบบบำบัดของเสีย ระบบผลิตพลังงานไฟฟ้า การปลูกพืชผักแนวตั้งโดยใช้น้ำอย่างประหยัดที่สุด สอนด้วยการเห็นจริงปฏิบัติจริง ซึ่งเด็กก็ชอบ

และที่สำคัญที่สุดห้องเรียนนี้ไม่มีขยะเล็ดลอดออกมาสู่ธรรมชาติ เรียกว่าไม่เบียดเบียนธรรมชาติแม้แต่น้อย แนวคิดนี้เขาเรียก The Sustainable Education Every Day (SEED) ส่วนห้องเรียนที่ว่านี่ เขาก็เรียก SEED Classroom

ทีนี้มาฟังเรื่องที่ไปหาถามมาจากคนที่รู้เรื่องและคนแถวนั้น

อันแรกเลย ห้องเรียนที่ว่านี่เขาออกแบบและขายกันเป็นเรื่องเป็นราวมาพักใหญ่ละ มีบริษัทรับสร้างแล้วขาย เป็นห้องสำเร็จรูปมาเลย และเน้นขายให้โรงเรียน พอดี The Perkins School เป็นโรงเรียนเอกชนพอมีสะตุ้งสตังค์เลยซื้อมา ซื้อสำเร็จแล้วยกมาวางไว้ที่จอดรถเมื่อ 5 ปีก่อนละ และทำสถิติเป็นโรงเรียนแรกที่มีห้องเรียนที่ไม่สร้างผลกระทบต่อธรรมชาติเลยห้องเรียนแรกของโลก

ซึ่งอันนี้ฉันก็เถียงนะ คือตั้งแต่รู้ว่าต้องเอารถยกยกข้ามเมืองมา ฉันก็ว่ามันไม่อนุรักษ์ละ

การซื้อห้องเรียนนี้แล้วยกมาตั้งในที่จอดรถ โรงเรียนใช้เงิน 8.5 ล้านบาท ในจำนวนนี้ประมาณครึ่งหนึ่งขอรับบริจาคจากผู้ปกครอง

เป็นความเขียวราคาแพงระยับ

ฉันสงสัยว่า เราจะอธิบายให้เด็กตัวน้อยฟังเรื่องอนุรักษ์ธรรมชาติได้ยังไง ถ้าการอนุรักษ์นั้นมันต้องซื้อมาราคาแพงขนาดนี้ และกว่าจะได้เงินขนาดนี้มาจ่ายค่าห้องเรียนแบบนี้ เราต้องไปอะไรกับธรรมชาติมากขนาดไหนหนอ

นอกจากนั้น สิ่งที่ไม่พูดกันให้ถ่องแท้คือ ห้องเรียนที่ว่านี่เป็นแค่ห้องเรียนทดลอง เป็นห้องโชว์ ที่ใครต่อใครจะพากันมาดูงาน ไม่ได้ใช้เป็นห้องเรียนประจำทั้งวัน คือเขามาเรียนวิทยาศาสตร์วันละชั่วโมงหรือสองชั่วโมง จากนั้นก็กลับไปใช้ห้องเรียนปกติ

เพราะฉะนั้นที่ว่าใช้น้ำฝนประการเดียวนี่ก็คือ ใช้เฉพาะในการทดลองวิทยาศาสตร์ น้ำที่ใช้แล้วก็เอามารดผัก ซึ่งก็เป็นผักที่ต้องการน้ำน้อย ไม่ได้เน้นเอาไปกินจริงจัง ส่วนน้ำดื่มนั้นนักเรียนดื่มน้ำก๊อกปกติ น้ำล้างมือใช้น้ำก๊อกปกติ

ห้องน้ำที่ว่าเป็นระบบแห้ง ก็ใช้แนวทดลอง คือเขาจะให้นักเรียนเข้าห้องน้ำปกติก่อนจะมาใช้ห้องเรียนนี้ ห้องน้ำมีไว้ทดลอง และอวด

คือมันไม่ใช่การใช้ในการเรียนแบบปกติ แต่เป็นการทดลอง เพราะฉะนั้นที่เอามาอ้างว่าเป็นห้องเรียนเขียวที่สุดในโลกนี่ อ้างเกินจริง

ถ้าจะประกาศแบบนั้นจริงๆ เราต้องใช้ห้องเรียนนี้ในการเรียนการสอนอย่างแท้จริงเท่านั้น

อะไรที่อ้างเกินจริง เช่น ใช้น้ำที่หามาเองร้อยเปอร์เซ็นต์ ใช้พลังงานของตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์ มีขยะเป็นศูนย์เหล่านี้ ก็ไม่ควรจะอ้าง เพราะอ้างแล้วคือ ศรีธนญชัย

แต่เอาน่า เขาคิดดีทำดี ปรบมือให้ แม้จะเสียดายเงินใจจะขาดก็ตาม