บัณฑิต มทร.สุวรรณภูมิ เพาะพันธุ์ปลามีคุณภาพ สร้างรายได้ดี

การเพาะพันธุ์ปลาเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สำคัญ เพราะเปรียบเสมือนต้นทางที่ช่วยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงมีสายพันธุ์ปลาที่ดีมีคุณภาพ เพราะถ้าการเลี้ยงปลาเชิงพาณิชย์มีลูกพันธุ์ อาหารปลา และแหล่งน้ำที่ดี ผลกำไรจากการสร้างรายได้จากสาขาการประมงก็สามารถเป็นอาชีพที่ยั่งยืน และส่งต่อกิจกรรมเหล่านี้เป็นธุรกิจที่เลี้ยงตัวเองให้กับลูกหลานต่อไป

คุณศราวุฒ กระจ่างศรี หรือ คุณไอซ์ เกษตรกรรุ่นที่ 2 เจ้าของสมชายพันธุ์ปลา ตั้งอยู่เลขที่ 127/1 หมู่ที่ 2 ตำบลนพรัตน์ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เขาได้รับช่วงต่อการทำฟาร์มเพาะพันธุ์ปลามาจากคุณพ่อ ซึ่งอาชีพนี้ได้เห็นครอบครัวทำมาตั้งแต่เขายังเด็ก จึงเกิดแรงบันดาลใจศึกษาต่อสาขาวิทยาศาสตร์การประมง คณะเทคโนโลยีเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เพื่อมาต่อยอดการทำธุรกิจให้มั่นคงยิ่งขึ้น

คุณศราวุฒ กระจ่างศรี หรือ คุณไอซ์

การเรียนรู้และนำมาปรับใช้ ช่วยให้ก้าวเดินได้อย่างมั่นคง

คุณไอซ์ เล่าว่า เห็นคุณพ่อขายพันธุ์ปลาแบบซื้อมาขายไปตั้งแต่เขายังเด็ก ต่อมาเมื่อความต้องการของตลาดเพิ่มขึ้น จึงได้เพาะพันธุ์เองเพื่อส่งขายให้กับลูกค้าที่มีอยู่ จากเหตุการณ์นี้ทำให้เขาอยากมีความรู้เพิ่มขึ้น เพื่อที่จะนำมาปรับใช้กับการผลิตลูกพันธุ์ปลาภายในฟาร์มให้มีคุณภาพ ทำให้ตัดสินใจเรียนต่อในมหาวิทยาลัยในสาขาเกี่ยวกับการประมง

ไข่ปลาที่รอฟักเป็นตัว

“หลังจากที่ได้เรียนมา ความรู้ที่เป็นวิชาการถือว่าช่วยผมได้มาก เพราะนำความรู้ที่ได้มาปรับเปลี่ยนการเพาะพันธุ์ปลาในฟาร์มปลาของผมเอง อย่างที่เห็นๆ ได้ชัดเลย ก็คือเรื่องของการเพาะพันธุ์ให้มีคุณภาพ โดยที่เราไม่ต้องไปเน้นในเรื่องของความหนาแน่นมากเกินไป ใช้พ่อแม่พันธุ์ที่พอดีในอัตราส่วนที่เหมาะสม ก็ทำให้เราได้ลูกพันธุ์ปลาที่ดี ปริมาณลูกปลาก็ไม่แตกต่างกันมากกับการที่เราเพาะเยอะๆ และที่เห็นได้ชัดเลย คือเรื่องของการใช้พ่อแม่พันธุ์ไม่ต้องหามามาก ทำให้เราประหยัดต้นทุนในเรื่องของการซื้อพ่อแม่พันธุ์ไปด้วยอีกทาง”

ปลาน้ำจืดที่เพาะพันธุ์ขายอยู่หลักๆ ภายในฟาร์ม จะมีอยู่ 3 ชนิดที่ขายดีคือ ปลาตะเพียน ปลายี่สก และปลาหมอ

การฉีดฮอร์โมนให้ปลา

ใช้เวลาอนุบาลลูกปลา อยู่ที่ 30 วัน จึงขาย

สำหรับการเพาะพันธุ์ปลาตะเพียนและปลายี่สก คุณไอซ์ บอกว่า จะหาปลาจากบ่อเกษตรกรที่เลี้ยงปลาเนื้อส่งขาย มาทำการคัดให้เป็นพ่อแม่พันธุ์ โดยเลือกปลาที่มีลักษณะดีสวยตามที่ต้องการ ซึ่งอายุที่เหมาะสมที่จะทำเป็นพ่อแม่พันธุ์นั้น ต้องมีอายุอย่างต่ำ 8 เดือนขึ้นไป ส่วนปลาหมอต้องมีอายุ 1 ปี

การฉีดฮอร์โมนเพื่อเพาะพันธุ์ปลาตะเพียนและยี่สก หลังจากได้พ่อแม่พันธุ์มาจากบ่อที่เลี้ยง จะเลือกปลาที่พร้อมวางไข่มาพักไว้ 1 คืน จากนั้นฉีดฮอร์โมนให้กับปลาตะเพียนประมาณ 15-20 ไมโครกรัมต่อน้ำหนักปลา 1 กิโลกรัม ส่วนปลายี่สกฉีดฮอร์โมนอยู่ที่ประมาณ 15-30 ไมโครกรัมต่อน้ำหนักปลา 1 กิโลกรัม ซึ่งการฉีดฮอร์โมนอัตราส่วนก็จะแตกต่างกันไปตามฤดูกาล

บ่อดินสำหรับอนุบาล

“หลังจากฉีดฮอร์โมนให้พ่อแม่พันธุ์ปลาแล้ว จะนำปลาไปปล่อยลงในบ่อปูนขนาด 3×2 เมตร ที่มีความลึกอยู่ที่ 1.20 เมตร ถ้าเป็นปลายี่สกจะปล่อยที่ 4 คู่ต่อบ่อ ส่วนปลาตะเพียนใส่ในอ่างอยู่ที่ 20 คู่ต่อบ่อ หลังจากผ่านไป 7-8 ชั่วโมงเมื่อเห็นว่าปลาวางไข่แล้ว ก็จะนำพ่อแม่พันธุ์ออกจากบ่อ รอลูกปลาฟักออกมาประมาณ 24 ชั่วโมง จากนั้นปล่อยเลี้ยงไว้ในบ่อปูนอีกประมาณ 2-3 วัน เมื่อเห็นถุงไข่แดงหน้าท้องยุบแล้ว จึงนำลูกปลาทั้งหมดลงไปอนุบาลในบ่อดินต่อไป”

ลูกพันธุ์ส่งขายให้ลูกค้า

ลูกปลาตะเพียนและปลายี่สกที่นำมาอนุบาลในบ่อดิน จะแยกชนิดกันอนุบาล โดยปล่อยในบ่อดินขนาด 2 ไร่ อาหารที่ให้ลูกปลากินในระยะนี้เป็นรำผสมกับปลาป่นให้กินวันละ 2 มื้อ ในช่วงเช้าและเย็น อยู่ประมาณ 14 วัน เมื่อครบกำหนดจะเปลี่ยนอาหารเป็นรำผสมกับอาหารเม็ดที่มีโปรตีนอยู่ที่ 28 เปอร์เซ็นต์นำมาแช่น้ำก่อนให้ปลากิน เลี้ยงด้วยสูตรนี้ต่อไปอีก 14 วัน ลูกปลาตะเพียนและปลายี่สกจะได้ไซซ์ขนาดพร้อมที่จะส่งขายได้

พ่อแม่พันธุ์ปลาหมอ

สำหรับโรคที่เกิดจากการเพาะพันธุ์ปลา คุณไอซ์ บอกว่า ยังไม่เกิดปัญหาหรือพบโรคมากนัก เพราะการเพาะพันธุ์ปลาและการอนุบาลใช้ระยะเวลาเพียงสั้นๆ จึงทำให้การสะสมโรคไม่ค่อยมี จนทำให้ลูกปลาเสียหายหรือตาย

ส่วนการเพาะพันธุ์ปลาหมอและการอนุบาลจะใช้วิธีที่คล้ายๆ กัน เหมือนปลาตะเพียน ปลายี่สก และใช้เวลาอนุบาลอยู่ที่ประมาณ 30 วันเช่นกัน

ลูกพันธุ์ปลาหมอ

ส่งขายให้ลูกค้าทั่วประเทศ

การทำตลาดเพื่อส่งลูกปลาที่เพาะพันธุ์ คุณไอซ์ บอกว่า ตลาดหลักๆ ที่ผลิตส่งก็จะเป็นกลุ่มลูกค้าเดิมที่ซื้อขายกันมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อ ต่อมาเมื่อเขามารับช่วงต่อมีการหาตลาดเพิ่มขึ้น จึงทำให้การขายส่วนใหญ่ไม่ได้ตายตัว สามารถส่งขายให้กับลูกค้าได้ทั่วประเทศ

ลูกพันธุ์ปลาตะเพียน

โดยปลาตะเพียนและยี่สก ลูกค้าส่วนใหญ่จะซื้อไปเลี้ยงในบ่อรวมกัน หรือที่เรียกว่าการเลี้ยงเป็นแบบปลาเบญจพรรณ จะต้องมีปลาเหล่านี้เลี้ยงรวมกันอยู่ภายในบ่อ ซึ่งปลายี่สกขนาดไซซ์ 1.5-2 นิ้ว ราคาขายตัวละ 20 สตางค์ ปลาตะเพียนขนาดไซซ์ 2-3 เซนติเมตร ขายตัวละ 15 สตางค์ และปลาหมอขนาดไซซ์ 2-3 เซนติเมตร ราคาตัวละ 60 สตางค์

ลูกพันธุ์ปลายี่สก

“ตั้งแต่เพาะพันธุ์ปลา ตลาดก็ถือว่ายังไปได้เรื่อยๆ ครับ เพราะผมเองก็รับช่วงต่อจากพ่อ ก็ถือว่าเป็นอาชีพที่มั่นคงได้ สำหรับคนที่สนใจอยากจะเลี้ยงปลา ก็อยากจะให้ศึกษาก่อนว่า อยากจะเลี้ยงปลาอะไร ถ้าเลี้ยงเพื่อบริโภคเองในครอบครัว ก็เลี้ยงในบ่อผ้าใบได้ เพราะช่วยในเรื่องของการประหยัดต้นทุนและถ่ายน้ำง่าย แต่ถ้าจะเลี้ยงเป็นเชิงพาณิชย์ ต้องดูพื้นที่ว่าสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะแหล่งนี้ถือว่าสำคัญมาก ต้องอย่าให้น้ำขาดหรือท่วมในบ่อที่เลี้ยง จนเกิดความเสียหาย”

สำหรับท่านใดที่สนใจลูกพันธุ์ปลาหรือหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณศราวุฒ กระจ่างศรี หรือ คุณไอซ์ หมายเลขโทรศัพท์ 081-565-2906 และ 087-597-3965