เคล็บลับขาย “ต้นไม้” ตลาดออนไลน์

ปัจจุบัน การขายสินค้าออนไลน์นับเป็นช่องทางการขายสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงเพราะขายสินค้าโดยไม่เสียค่าเช่าพื้นที่หรือค่าจ้างพนักงานขาย ตลาดออนไลน์สามารถสินค้าได้ฟรี เพิ่มรูปถ่ายสินค้า ระบุรายละเอียดสินค้า ราคาขาย รวมทั้งจัดกิจกรรมโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดความสนใจลูกค้าได้อย่างไม่จำกัดจำนวน นับเป็นช่องทางการขายที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นทำธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่มีทุนทรัพย์น้อย

คุณกรกต มรรคสมุทร และ คุณวสันต์ แสงอินทร์ เป็นผู้ประกอบการรายย่อยที่มองเห็นโอกาสนี้และเริ่มต้นเปิดตลาดขายต้นไม้บนตลาดออนไลน์ตั้งแต่ปี 2553 จากการโพสต์ขายพืชกินแมลง เช่น หม้อข้าวหม้อแกงลิง, หยาดน้ำค้าง, พิงกุย, กาบหอยแครง, ซาราซีเนีย ฯลฯ ผ่านทางเว็บไซต์ขายพืชกินแมลง ซึ่งเปิดพื้นที่ให้ขายสินค้าได้ฟรีและยังคงเปิดขายจนถึงปัจจุบัน

สร้างธุรกิจจากงานอดิเรก

ช่วงแรกคุณกรกตปลูกพืชกินแมลงเท่านั้น เพราะความชอบส่วนตัว เนื่องจากรูปลักษณ์ที่แปลกตาของพืชกินแมลงและกลไกการกินของพืชชนิดนี้ที่มีความสามารถรดักจับแมลงและปล่อยสารออกมาย่อยเพื่อดูดซึมสารอาหารหล่อเลี้ยงต้น  พืชกินแมลง ดูแลง่ายเพียงแค่ให้น้ำ ไม่ต้องใส่ปุ๋ยเพราะพืชชนิดนี้จะหาธาตุอาหารเองจากการดักจับแมลงที่บินมาเกาะบนน้ำเมือก

ช่วงแรก คุณกรกตและคุณวสันต์เริ่มสะสมพืชกินแมลง กระบองเพชร และไม้ประดับต่างๆ เพิ่มมากขึ้น พร้อมขยายพันธุ์พืชด้วยการผสมเกสรดอกด้วยตัวเอง การเพาะเมล็ด การปักชำใบ และปักชำหน่อ ไม้ประดับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไม้ใบ เพราะชื่นชอบรูปทรงไม้ใบ ที่มีความสวยงามอยู่ตลอด ไม้ประดับส่วนใหญ่ที่ปลูก ได้แก่ ต้นผักเป็ดแดง, ต้นผักเป็ดเขียว, ต้นผักเป็ดสามสี, ต้นสายรุ้ง, ต้นแดงชาลี, ต้นฤาษีผสม, ต้นริบบิ้นชาลี, ต้น Variegated Chinese violet, กล้วยไม้ (พันธุ์สิงโตนักกล้าม), สับปะรดสี, ต้นพวงหยก, ต้นเกล็ดนาคี, ต้น Watercress, ต้นเฟิร์นชนิดต่างๆ, ต้นบีโกเนีย, หมากผู้หมากเมีย, กระบองเพชร, มะพร้าวทะเลทราย เป็นต้น

กาบหอยแครง

เมื่อสะสมพันธุ์ไม้ประดับเพิ่มมากขึ้น จนล้นโรงเรือน การให้น้ำจึงไม่ทั่วถึงต้นพืชทุกต้น จึงเกิดความคิดลดปริมาณต้นไม้ให้น้อยลงเพื่อดูแลได้อย่างทั่วถึง โดยแจกจ่ายพันธุ์ไม้ให้ญาติพี่น้องและเพื่อนๆ นำมาสู่การขายไม้ประดับออนไลน์ในที่สุดจนสามารถสร้างรายได้จากอาชีพเสริมได้จนถึงปัจจุบัน

วางแผนการผลิต

การจัดการของระบบการให้น้ำ การใส่ปุ๋ย และการเปลี่ยนย้ายกระถางนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะพืชแต่ละชนิดนั้นมีความต้องการน้ำและปุ๋ยที่แตกต่างกัน คุณกรกตได้เรียนรู้เทคนิคการดูแลพันธุ์ไม้จากประสบการณ์ตรงในการปลูกพืช โดยใช้วิธีการสังเกต จึงรู้ว่าพืชแต่ละชนิดต้องการปุ๋ยน้ำเท่าไร

ยกตัวอย่างเช่น ผักเป็ดและต้นแดงชาลี ต้องการน้ำมากกว่าพืชชนิดอื่น ควรรดน้ำ 2 รอบ ต้นสายรุ้งและต้นกระบองเพชร ต้องการน้ำน้อย ควรรดน้ำ 3 วันต่อครั้ง หรือวันละ 1 ครั้ง หากมีแดดและลมแรง

กลุ่มเฟิร์น ไม่ต้องการปุ๋ยมากนัก หากใส่ปุ๋ยมากเกินไปจะทำให้ต้นโทรม ใบไหม้และตายได้ การเปลี่ยนย้ายกระถาง ช่วยทำให้ต้นพืชสามารถเจริญเติบโตได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากข้อจำกัดในการหาน้ำและอาหารของรากภายในกระถางที่มีอย่างจำกัดนั่นเอง

เล็บครุฑด่าง

ทิศทางของแสง

ทิศทางของแสงก็มีความสำคัญมาก พืชกลุ่มเฟิร์น, กล้วยไม้ (สิงโตนักกล้าม), เคราฤาษี, กลุ่มพืชกินแมลง, ต้นพวงหยก, ต้นเกล็ดนาคี ต้องจัดอยู่โซนไม้ร่มรำไร ส่วนผักเป็ด, สับปะรดสี, แดงชาลี, กล้วยไม้ (เพชรหึง) จัดอยู่ในกลุ่มไม้แดด จัดทำเลให้เหมาะสมกับพืช จะช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ล้วนเกิดจากการประสบการณ์ตรงจากการสังเกตการเปลี่ยนแปลงของพืช ตลอดจนการลองผิดลองถูก จนเรียนรู้ข้อมูลความต้องการของพืชแต่ละชนิดในที่สุด

คุณกรกตมีงานประจำจึงไม่มีเวลาในการให้น้ำมากนัก ภายในโรงเรือนปลูกพืชจึงติดตั้งระบบการให้น้ำแบบสปริงเกลอร์ชนิดตั้งเวลา ช่วงเช้าให้น้ำเวลา 08.00 น. และช่วงเย็นเวลา 17.00 น. วิธีนี้ทำให้สะดวกต่อการควบคุมปริมาณการให้น้ำและการให้น้ำแบบสปริงเกลอร์ยังช่วยประหยัดน้ำได้ด้วย

ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ คุณกรกตใช้เวลาตัดแต่งไม้ประดับ ปักชำต้น ปักชำหน่อ เพื่อเพิ่มปริมาณจำนวนกระถาง พร้อมตรวจสภาพแมลงศัตรูพืช โรคพืช รวมทั้งสภาพต้นจากสภาพแวดล้อมต่างๆ

โดยแบ่งชุดการปักชำชุดที่ 1 เมื่อปักชำ รอเกิดรากเป็นเวลา 7 วัน รอสร้างฟอร์มต้นอีก 7 วัน รวมเป็น 14 วัน สินค้าจึงพร้อมขาย คุณกรกตทำการปักชำพืชทุกๆ 7 วัน ทำให้มีต้นไม้พร้อมขายในทุกๆ สัปดาห์ และมีฟอร์มต้นที่สมบูรณ์แข็งแรง

นอกจากนี้ ยังใส่ปุ๋ยบำรุงต้นสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยใส่ปุ๋ยสูตรเสมอผสมกับปุ๋ย B1 ในอัตราส่วน 1 : 1 โดยคนส่วนผสมให้เข้ากัน ให้ปุ๋ยพร้อมให้น้ำด้วยบัวรดน้ำ ช่วยให้พืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารเข้าทางปากใบได้ดี

เมื่อมีเวลาว่าง คุณกรกตและคุณวสันต์มักศึกษาข้อมูลไม้ประดับชนิดอื่นๆ ที่สนใจ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและการตลาด รวมทั้งหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้าไม้ประดับด้วยการปรับเปลี่ยนกระถางปลูกที่สวยงามและตกแต่งกระถางต้นไม้ด้วยกระดาษห่อ ริบบิ้นสีต่างๆ เชือกป่าน เป็นต้น ช่วยเพิ่มความน่าสนใจของสินค้าและเพิ่มกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ที่ต้องการซื้อต้นไม้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึก ของชำร่วยในงานต่างๆ ได้

ผีเสื้อไพริน

คุณกรกตยังใช้ช่วงหลังเลิกงานขายต้นไม้ตามงานต่างๆ เช่น งานเกษตรแฟร์ โดยนำไม้ขนาดกลางและขนาดเล็ก เช่น สับปะรดสี หม้อข้าวหม้อแกงลิง หมากผู้หมากเมีย ฯลฯ เนื่องจากงานเกษตรแฟร์ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าวัยทำงานที่มีความประสงค์มาเพื่อซื้อโดยตรง มักจะต้องการไม้เพื่อไปเป็นประดับหรือมาซื้อเพื่อขายต่อ เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อได้สูงกว่ากลุ่มวัยรุ่น

นอกจากนี้ ยังนำสินค้าออกขายที่ถนนคนเดินลาดกระบังที่จัดในทุกวันพฤหัสบดี ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มนักศึกษา รองลงมาเป็นกลุ่มวัยทำงาน คุณกรกตนำไม้ขนาดเล็กและไม้ที่มีลักษณะแปลกตา ราคาไม่แพงมาวางขาย เพราะกลุ่มวัยรุ่นหรือนักศึกษานั้นส่วนใหญ่พักอาศัยอยู่หอพักจึงมีพื้นที่ไม่มาก ไม้กระถางขนาดเล็กสามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถวางไว้ในห้องได้ ทำให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นและพืชยังสามารถดูดซับรังสีที่มีจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย

สถานที่ที่ขายสินค้า ควรเลือกสินค้าให้เหมาะสมกับกลุ่มคน คุณกรกตมักนำไม้ประดับออกขายในตลาดแต่ละแห่ง แต่ละสัปดาห์ เพื่อทดสอบตลาดและเพิ่มความน่าสนใจ วิธีนี้ทำให้ผู้ขายสามารถตอบข้อซักถามลูกค้าได้โดยตรงแล้วยังสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อได้ ช่วยกำหนดแผนการขายสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น

นอกจากนี้ ยังทดลองความต้องการตลาดโดยตกแต่งกระถางหรืองานประดิษฐ์ตกแต่งต้นไม้ เพื่อศึกษาความพึงพอใจของลูกค้าเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขต่อไป วิธีนี้ช่วยขยายตลาดเพิ่มยอดขายจากหลักร้อยเป็นหลักแสนได้ไม่ยาก ขอเพียงมองเป้าหมายให้ชัดเจนและลงมือทำอย่างต่อเนื่อง

ธุรกิจออนไลน์ยังสามารถเติบโตขึ้นได้อีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าทางการเกษตร หากมีการจัดการวางแผนเรื่องการขนส่งและบรรจุผลิตภัณฑ์ที่ดี สามารถส่งลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยแล้ว ก็สามารถตอบโจทย์และตรงตามความต้องการตลาดได้ไม่ยาก

……………………………..

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ.2560

Update 03/09/2021