ชาวตำบลหินเหล็กไฟ ที่บุรีรัมย์ ปลูกมะลิด้วย “ปุ๋ยอินทรีย์ตรากุญแจ” ลดต้นทุน ผลผลิตดก ดอกใหญ่ ขายได้ราคาดี

“มะลิ” จัดเป็นไม้ดอกที่ยังมีความจำเป็นต่อการนำมาใช้ในกิจกรรมต่างๆ ไม่ใช่เฉพาะไหว้พระ แต่ยังมีความสำคัญกับเทศกาลหลายอย่างจนแทบไม่มีวันลดลง ขณะที่ต้นมะลิก็สามารถปลูกได้ง่าย อาศัยดูแลเรื่องปุ๋ยและน้ำตามความเหมาะสม ทั้งยังสามารถปลูกได้โดยไม่จำกัดพื้นที่ตามกำลัง จึงเป็นที่สนใจของชาวบ้านหลายแห่งที่จะปลูกมะลิเป็นรายได้หลักและรายได้เสริม

คุณวัชรินทร์ อายุยืน หรือ คุณแต๋น อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ที่ 1 ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ยึดอาชีพปลูกมะลิมาเป็นเวลาหลายปี โดยที่ผ่านมาจำนวนผลผลิตและคุณภาพดอกมะลิยังไม่ดีนัก เนื่องจากสภาพพื้นที่ปลูกเป็นดินทราย กระทั่งได้นำปุ๋ยอินทรีย์มาปรับปรุงจึงทำให้สภาพดินมีความสมบูรณ์มากขึ้น ส่งผลให้ต้นมะลิมีความแข็งแรง ให้ดอกที่สวยงาม มีขนาดใหญ่ เป็นที่ต้องการของตลาด ทำให้คุณแต๋นมีรายได้เพิ่มขึ้น

(จากซ้าย)คุณเรืองยศ หมื่นมา,คุณวัชรินทร์ อายุยืน(แต๋น) และคุณเอกรัฐ รัตนมงคล

พื้นที่ปลูกมะลิของคุณแต๋นมีขนาดประมาณ 2 ไร่ ยกร่องปลูกขึ้นมาเล็กน้อย แล้วปลูกเป็นแถวๆ ตอนเริ่มปลูกลงดินจะให้น้ำตามสมควรในทุก 15 วัน ให้ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 หลังจากนั้น 1 เดือนให้เปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เพราะในพื้นที่เป็นดินทรายทำให้มะลิเจริญเติบโตยากและไม่สมบูรณ์ ดังนั้น จึงนำปุ๋ยอินทรีย์มาเสริมสลับกับปุ๋ยสูตร

คุณแต๋น บอกว่า ยังไม่เคยใช้ปุ๋ยอินทรีย์มาก่อนเพราะขาดความเชื่อมั่นว่าจะช่วยให้ผลผลิตดีขึ้นได้ แต่หลังจากที่ได้ทดลองนำมาใช้ครั้งแรกพบว่าต้นมะลิให้ดอกดกกว่าเดิมมาก ก้านดอกมีขนาดใหญ่และแข็งแรงช่วยยึดดอกไม่ให้ร่วงง่าย นอกจากนั้น ปุ๋ยอินทรีย์ยังทำให้ต้นมะลิมีกิ่งก้านใบที่สมบูรณ์ แถมยังมีดอกขนาดใหญ่กว่าเดิมด้วย

สำหรับปุ๋ยอินทรีย์ที่เป็นผู้ช่วยสำคัญจนทำให้เธอประสบความสำเร็จคือปุ๋ยอินทรีย์ตรากุญแจ ที่ใช้มาแล้วจำนวน 2 รอบการผลิต โดยจำนวนที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ตรากุญแจในพื้นที่ปลูกต้นมะลิจำนวน 2 ไร่ ใช้ 4 กระสอบ

แม้จะพบโรคที่มักเจอในช่วงหน้าฝนเพราะมีความชื้นสูงอย่างเชื้อรา หรือในช่วงหน้าหนาวที่เจอไรแดง แต่หลังจากที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ตรากุญแจมาได้สักระยะหนึ่งพบว่าปัญหาจากโรค/แมลงเหล่านั้นกลับลดลงอย่างมาก จึงทำให้ได้ผลผลิตมีความสมบูรณ์มากขึ้น แล้วยังได้จำนวนเพิ่มขึ้นด้วย

คุณแต๋น บอกว่า มะลิที่ปลูกส่งขายให้กับตลาดในจังหวัดบุรีรัมย์และที่ขอนแก่น จะเก็บขายทุกวันได้ผลผลิตเฉลี่ยวันละ 5-6 กิโลกรัม จำหน่ายหน้าสวนในราคากิโลกรัมละ 400 บาท (18 ตุลาคม 2560) คุณแต๋น บอกว่า ในวันสำคัญอย่างวันแม่หรือเทศกาลปีใหม่จะขายได้ถึงกิโลกรัมละเป็นพันบาท

ผลของการนำปุ๋ยอินทรีย์ตรากุญแจมาใช้จนทำให้ทุกวันนี้ มะลิที่คุณแต๋นปลูกไม่พอขาย อีกทั้งเธอยังไม่คิดจะขยายพื้นที่หรือเพิ่มกำลังการผลิต เนื่องจากต้องการทำตามกำลังก็เพียงพอ กับมีรายได้เป็นที่น่าพอใจแล้ว แต่อยากจะชักชวนให้ชาวบ้านคนอื่นทั้งในพื้นที่เดียวกันหรือต่างพื้นที่ลองปลูกมะลิเพื่อสร้างรายได้กัน อาจเป็นรายได้เสริมหรือเป็นรายได้หลักถ้ามีทุนทรัพย์เพียงพอ

“สำหรับคนที่สนใจปลูกมะลิ ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่มากก็ปลูกได้ อาจใช้พื้นที่บริเวณรอบบ้าน หรือข้างบ้านมาปรับให้เป็นแปลงปลูกมะลิ เพราะอย่างน้อยคุณก็มีรายได้เสริมวันละ 200-300 บาท เพื่อเป็นค่าอาหารแล้ว” คุณแต๋น กล่าว

ขณะที่ คุณเรืองยศ หมื่นมา นักวิชาการและการตลาด กับ คุณเอกรัฐ รัตนมงคล ผู้จัดการสำนักงานและการตลาด บริษัท ปุ๋ยตรากุญแจ จำกัด ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแล้วสอบถามปัญหาการปลูกมะลิของคุณแต๋น

โดยคุณเรืองยศ กล่าวว่า ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดนี้มีมาตรฐานตามที่กรมวิชาการเกษตรกำหนด อีกทั้งยังมีความเข้มข้นสูงมาก รวมถึงยังมีธาตุอาหารหลัก/รองและอาหารเสริมอย่างครบถ้วน ช่วยทำให้พืชเจริญเติบโตงอกงามอย่างรวดเร็วแข็งแรง ให้ผลผลิตสูง อีกทั้งยังช่วยทำให้คุณภาพดินมีความร่วนซุย มีความสมบูรณ์ของธาตุอาหาร จึงช่วยทำให้พืชสามารถปรุงอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

คุณเรืองยศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปุ๋ยอินทรีย์เปรียบเสมือนตู้เย็นที่สามารถเก็บธาตุอาหารสำคัญไว้ได้จำนวนมาก แล้วจะค่อยๆ ปลดปล่อยให้แก่พืชนำไปใช้ทีละน้อยตามความจำเป็น จึงทำให้พืชได้รับธาตุอาหารตลอดเวลาในปริมาณที่พอเหมาะกับการเจริญเติบโต จึงนับเป็นข้อดีของปุ๋ยอินทรีย์เพื่อจะช่วยให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนได้ในระยะยาว

“สำหรับต้นมะลิแล้วควรใช้ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อปรับสภาพดินก่อน ขณะเดียวกัน อาจใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมีในอัตราเพียงเล็กน้อยในระยะแรก จากนั้นจึงค่อยๆ ปรับมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ล้วนเพียงอย่างเดียวในเวลาต่อมา”

นอกจากนั้น ปุ๋ยอินทรีย์ตรากุญแจยังช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค/แมลง ที่จะมาสร้างปัญหาให้แก่ต้นมะลิ เนื่องจากเป็นปุ๋ยที่มีธาตุอาหารรอง/เสริมที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ต้นมะลิในอันที่จะต้องต่อสู้กับโรคและแมลง ขณะเดียวกัน ด้วยคุณสมบัติของฟิลเตอร์เค้กหรือกากน้ำตาลในปุ๋ยอินทรีย์จะเป็นอาหารอย่างดีให้แก่จุลินทรีย์ที่จะเกิดขึ้นในดินจำนวนเท่าทวีคูณภายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์

จึงทำให้เศษใบไม้ เศษพืชที่อยู่ในดินย่อยสลายได้ง่ายและรวดเร็ว สามารถกลับมาเป็นปุ๋ยที่มีประโยชน์กับต้นมะลิอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้จึงนับเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยทำให้เกษตรกรลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีได้กว่า 50 เปอร์เซ็นต์

ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยตรากุญแจมีด้วยกัน 2 ชนิด คือ แบบเม็ด และแบบผง โดยแบบชนิดผงเหมาะกับการใช้กับพืชประเภทพืชสวน ไม้ดอกไม้ประดับ หรือไม้ผล ส่วนชนิดเม็ดเหมาะกับพืชประเภทพืชไร่ทุกชนิด

สำหรับท่านที่สนใจต้องการนำปุ๋ยตรากุญแจไปใช้กับงานเกษตรติดต่อได้ที่ บริษัท ปุ๋ยตรากุญแจ จำกัด โทรศัพท์ (097) 338-1367 หรือที่ คุณเรืองยศ หมื่นมา โทรศัพท์ (061) 998-2555