ครูเมืองดอกบัว ผลิตและจำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับ สร้างรายได้ให้ดีเยี่ยม

ปัจจุบัน ไม้ดอกไม้ประดับมีความจำเป็นต่อชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์มากขึ้น ทั้งนี้ เพราะมนุษย์มิใช่มีความต้องการเฉพาะปัจจัยสี่เท่านั้น แต่ยังต้องการจัดสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้เกิดความร่มรื่น สวยงามน่าอยู่อีกด้วย เช่น มีการจัดสวน ตกแต่งอาคาร สถานที่ บ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน โรงเรียน และสถานที่ต่างๆ ให้เกิดความสวยงาม จะเห็นได้ว่า การผลิตไม้ดอกไม้ประดับเพื่อการค้า นับวันจะมีความสำคัญทางเศรษฐกิจและได้รับความสนใจมากขึ้น และมีมูลค่าของผลิตภัณฑ์สูงเท่าเทียมกับผลิตผลทางการเกษตรสาขาอื่นๆ จนสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้จำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับได้อย่างงดงาม

อาจารย์ราตรี สะดีวงศ์ หรือ อาจารย์หมวย อายุ 46 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 999 หมู่ที่ 2ตำบลไร่น้อย อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี มีอาชีพหลักคือ รับราชการ ในตำแหน่ง รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคพิบูลมังสาหาร อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ส่วนอาชีพเสริมคือ ผลิตและจำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับและต้นไม้ดัด รวมทั้งไม้ผลนานาชนิด จนสามารถสร้างรายได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท

คุณบุญเชิด และ อาจารย์ราตรี สะดีวงศ์
คุณบุญเชิด และ อาจารย์ราตรี สะดีวงศ์

อาจารย์ราตรี เล่าว่า เมื่อก่อนตนเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี (วิทยาลัยเกษตรกรรมหนองขอน) อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ต่อมาได้สอบเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้น โดยดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการ วิทยาลัยเทคนิคพิบูลมังสาหาร ในปี พ.ศ. 2558 จนถึงปัจจุบัน ในช่วงที่เป็นครูสายผู้สอนอยู่ที่ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี ก็ไม่เคยได้สอนเกี่ยวกับพวกพืชหรือพันธุ์พืชต่างๆ เลย แต่สอนวิชาสามัญ ดังนั้น ตนจึงไม่มีความรู้เรื่องพันธุ์ไม้ต่างๆ เลยก็ว่าได้ แต่เมื่อมาเห็นคนอื่นขายไม้ดอกไม้ประดับ และไม้ยืนต้นนานาชนิด จึงคิดจะขายบ้าง เพราะเห็นว่าเป็นงานที่สร้างรายได้อย่างดงามและเป็นงานที่อิสระ หลังจากคิดได้ จึงมาซื้อที่ดินประมาณ 5 ไร่ บนถนนสายอุบลราชธานี-ตระการพืชผล (อยู่ที่สี่แยกบ้านนาเมือง) ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานี ประมาณ 3 กิโลเมตร

จากนั้นได้ปรับสภาพที่ดินแล้วเริ่มหาพันธุ์ไม้ทุกชนิดมาวางขายครั้งแรกเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา โดยตั้งชื่อสวนว่า สวนเพชรประกาย โดยเริ่มแรกจะลงทุนซื้อพันธุ์ไม้และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ประมาณ 500,000 บาท พอเริ่มขายดี มีลูกค้ามาแวะซื้อกันเป็นจำนวนมาก จึงขยายสวนและสั่งพันธุ์ไม้เข้ามาเพิ่ม พร้อมทั้งให้ คุณบุญเชิด สะดีวงศ์ ผู้เป็นสามี และลูกจ้างทำหน้าที่ดูแลและจำหน่าย ส่วนตนจะมาช่วยขายหลังจากเลิกงาน นอกจากนี้ ยังให้สามีรับจัดสวนหย่อมหน้าบ้าน หรือหน้าสำนักงานส่วนราชการและเอกชน ทำให้มีรายได้บวกเข้ามาอีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งแต่ละเดือนเมื่อหักลบกลบหนี้ต้นทุนผลผลิตและค่าวัสดุ อุปกรณ์ ค่าแรงงานของคนงาน ก็จะพอมีกำไรขั้นต่ำเดือนละประมาณ 400,000 หรือ 500,000 บาท เป็นอย่างต่ำ และพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ ส่วนใหญ่จะซื้อมาจากสวนที่เขาเพาะพันธุ์ขาย โดยซื้อมาในราคาต่ำ แล้วนำมาขายได้กำไรเกือบเท่าตัว ต้นไม้บางชนิดอย่างต้นกันเกรา จะให้ราคางามถึงต้นละ 40,000 หรือ 50,000 บาท ก็เคยขายได้เงินมาแล้ว

อาจารย์ราตรี บอกว่า ในขณะที่เริ่มขายใหม่ๆ ตนไม่มีความรู้ด้านพันธุ์พืชจำพวกไม้ดอกไม้ประดับเลย ต่อมาได้ทำการศึกษาหรือเรียนรู้ด้วยตนเอง เกี่ยวกับไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ผล ไม้ยืนต้นนานาชนิด จากหนังสือหรือนิตยสารต่างๆ รวมทั้งศึกษาจากเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อที่จะได้ดูแล บำรุงรักษาได้อย่างถูกวิธี และเพื่อแนะนำลูกค้า เพราะลูกค้าบางรายที่มาซื้อ จะไม่มีความรู้ในการปลูก ดูแลรักษา เราต้องอธิบายเพิ่มเติม ทั้งนี้ ภายในสวนของตนจะมีต้นไม้นานาพันธุ์ทั้งในและนอกประเทศ ให้ลูกค้าเลือกซื้อกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็นไม้ดอกไม้ประดับทุกชนิด กล้วยไม้ ไม้ในวรรณคดีไทย ไม้ผล ไม้เลื้อย ไม้ทั้งไม้เล็กจิ๋วอย่าง มอสส์ ไลเคน ไปจนถึงไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ อย่าง พญาสัตบรรณ จำพวกไม้ผลก็จะมี กล้วยหอม กล้วยนาก กล้วยไข่ มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงสายพันธุ์อื่นๆ และมะพร้าวน้ำหอม ชมพู่ม่าเหมี่ยว มะยงชิด กระท้อน ละมุด มะเฟือง ขนุน และไม้ผล ไม้ยืนต้น อื่นๆ อีกมากมายหลายชนิดหลายพันธุ์

เฟื่องฟ้ามีทุกสี ที่สวนเพชรประกายสำหรับราคาจำหน่ายที่สวนของเราจะเริ่มจากต้นละ 5 บาท ไปจนถึง 2,000 บาท หรือ 40,000บาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพันธุ์และประเภทไม้ ส่วนการจัดสวนก็มีราคาแตกต่างกันออกไป จะดูว่าเป็นสวนขนาดเล็กหรือใหญ่ โดยราคาการจัดสวนจะเริ่มต้นที่ 3,000 บาทขึ้นไป นอกจากนี้ ที่สวนของตนยังจำหน่าย อุปกรณ์ตกแต่งสวนหลากหลายชนิด กระถางดินเผา กระถางเซรามิก หินโรยสนาม แผ่นทางเดิน น้ำพุ ลูกกลิ้งเสริมฮวงจุ้ย และหญ้าสำหรับปูสนามหรือสวนหย่อม ตลอดจน ปุ๋ยและดินปลูกต้นไม้ที่ผลิตขึ้นมาเองคือ ดินลำมูล ดินคุณภาพดีที่ผลิตโดยสวนเพชรประกาย ของตนเอง เอาไว้จำหน่ายอย่างครบครัน ส่วนรายได้ต่อเดือน เมื่อหักต้นทุนทุกอย่างแล้ว จะเหลือเงินเก็บประมาณเดือนละ 500,000 บาท เป็นอย่างต่ำ

อาจารย์ราตรี ยังได้ให้คำแนะนำและข้อคิดเกี่ยวกับการที่จะมาเป็นเจ้าของสวนไม้ดอกไม้ประดับว่า ก่อนที่เราจะเปิดสวนขายต้นไม้ พันธุ์ไม้ อันดับแรกเราต้องเลือกทำเล คือต้องเป็นจุดมีรถหรือคนผ่านเยอะๆ อยู่ใกล้หรือเป็นทางผ่านหมู่บ้านจัดสรร หรือเป็นแหล่งชุมชนหนาแน่น และการลงทุนควรจะลงทุนกับต้นไม้ขนาดเล็กๆ ราคาไม่แพง เช่น คุณนายตื่นสาย ต้นหลิว ต้นโกสน ฤๅษีผสม ต้นไม้บางชนิดเราสามารถเพาะชำได้จากที่เราซื้อมา เช่น ต้นคุณนายตื่นสาย หรือฤๅษีผสม โดยการเด็ดยอดมาชำในวัสดุชำ การขายต้นไม้ควรขายปุ๋ย ดินปลูกต้นไม้ควบคู่ไปด้วย ที่สำคัญอีกประการคือ การตกแต่งร้านให้น่ามอง

กิ่งพันธุ์ไม้ผลโดยการนำต้นไม้สีสันสดใส ดอกสวยๆ มาวางไว้หน้าร้าน โดยเรียงจากต้นเล็กๆ ไล่มาจนถึงต้นใหญ่ๆ และอีกประการหนึ่งคือ เราควรต้องรู้ว่าเราจะต้องหาซื้อต้นไม้ พันธุ์ไม้ราคาถูกได้จากสวนไหน อยู่ที่ใด เป็นต้น อย่าลืมว่าการที่เราจะทำธุรกิจอะไร ต้องมีความรู้และต้องเก่งด้วย สามารถให้คำตอบและแนะนำลูกค้าได้ ดังนั้น ก่อนลงมือทำหรือพอเริ่มทำกิจการนี้ใหม่ๆ ต้องรีบค้นคว้าหาความรู้ใส่ตัวให้มากๆ ลูกค้าถามอะไร ต้องตอบได้อย่างคล่องตัว และสุดท้าย อย่าลืมดูแลเอาใจใส่ต้นไม้ให้สวยงาม สีสันสดสวยอยู่เสมอ และใช้เวลาว่างขยายพันธุ์ต้นไม้เองเท่าที่จะทำได้ หากขยายพันธุ์ได้มาก เราก็มีกำไรมาก เพราะจะลดต้นทุนในการซื้อมาจากสวนมือหนึ่ง การบริการลูกค้าและกำหนดราคาต้นไม้ก็เป็นเรื่องสำคัญมาก หากเราแนะนำดี มีรอยยิ้ม พูดจาไพเราะ ขายไม่แพงเกินไปนัก ลูกค้าก็จะติดใจ ทำให้มีการบอกต่อ สุดท้ายจะมีลูกค้าขาจร พากันมาซื้อเพิ่มมากขึ้น และแน่นอน รายได้ก็ต้องเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

สำหรับท่านที่ต้องการซื้อพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ดัด ไม้ผล ไม้ยืนต้น นานาชนิด หรืออยากจะปรึกษาเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ ดอกไม้ ก็ขอเชิญตรงไปที่ สวนเพชรประกาย ได้ทุกวัน รับประกัน อาจารย์หมวย หรือ อาจารย์ราตรี สะดีวงศ์ และ คุณบุญเชิด สะดีวงศ์ ผู้เป็นสามี ไม่สร้างความผิดหวังให้กับท่านอย่างแน่นอน โดยทั้งสองการันตีมาว่า จะต้อนรับทุกท่านด้วยไมตรีจิตอันแสนจะอบอุ่นดุจญาติมิตร และพร้อมที่จะให้คำปรึกษา ถ้าจะให้ดี โทร. ไปนัดหมายล่วงหน้าก่อนที่ (085) 860-1740 และ (085) 015-3228