บ้านเก้ากลิ่น เครื่องหอมจากดอกไม้ไทย 9 ชนิด

เก้ากลิ่น ได้เริ่มต้นจากการคัดสรรดอกไม้คุณภาพ 9 ชนิดมาปรุงแต่ง จนเป็นกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อนำมาปรุงผลิตภัณฑ์สมุนไพรต่างๆ ภายใต้ แบรนด์เก้ากลิ่น ให้มีกลิ่นหอมและสรรพคุณที่มีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัย วัตถุดิบธรรมชาติคุณภาพคัดพิเศษจากแหล่งธรรมชาติ และผ่านกระบวนการผลิตสมัยใหม่ที่มีคุณภาพและมาตรฐานรับรองเพื่อให้ผู้บริโภควางใจถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการใช้งาน

คุณจันทนา วิชัย เจ้าของแบรนด์เก้ากลิ่น เล่าว่า อดีตเป็นอาจารย์สอนทางด้านเครื่องหอมที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาพระนครศรีอยุธยา มีความสามารถในการทำน้ำอบไทย น้ำปรุง แป้งร่ำ ชุดเครื่องหอมราชสำนักกรุงเก่า และเป็นผู้คิดค้นปรับปรุงสูตรน้ำปรุง น้ำอบไทยต่างๆ เพื่อพัฒนางานภูมิปัญญาไทยให้มีคุณภาพ ปัจจุบันได้รับการจดอนุสิทธิบัตร เรื่องน้ำหอมจากมะกรูดไทย โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา วัตถุดิบที่เลือกใช้ในผลิตภัณฑ์เก้ากลิ่นเป็นเกรดพรีเมียมที่ได้รับการรับรองเท่านั้น เพราะเชื่อว่าวัตถุดิบที่ดีจะนำมาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ

ตำนานเครื่องหอมเก้ากลิ่นอยุธยา เป็นสิ่งที่นำมาประกอบกันทำให้เกิดกลิ่นหอม โดยนำเอารากไม้ ยางไม้ ดอก เปลือก เมล็ด ใบของพืช รวมทั้งไขมันนำเอามารวมกัน ซึ่งจะทำให้เกิดกลิ่นหอม รัญจวนใจ ในอดีตชาววังในราชสำนักกรุงศรีอยุธยานิยมปรุงเครื่องหอม เพื่อเสริมเสน่ห์ เพิ่มความหอมให้ตนเอง

หลังจากเกษียณได้เริ่มทำเป็นงานอดิเรกสร้างแบรนด์เก้ากลิ่นขึ้นมา เป็นการทำเครื่องหอมในสมัยโบราณ เป็นการสืบสานวัฒนธรรมไทยแล้วนำสมุนไพรไทย ดอกไม้ไทยมาปรุงแต่งให้เกิดกลิ่นหอมต่างๆ ในสมัยก่อนเขาจะให้เครื่องหอมกันเป็นเครื่องราชบรรณาการกับกษัตริย์ผู้มาเยือนด้วยความเคารพอันสูงสุด เป็นการผสมผสานระหว่างความรู้ในสมัยอยุธยา กับความรู้ในปัจจุบัน ทำให้เกิดความสืบทอดแล้วก็มีความภาคภูมิใจ ในความเป็นไทยมากยิ่งขึ้น 

แบรนด์เก้ากลิ่นได้พัฒนาขึ้นมาเป็นน้ำหอมสากลมากขึ้นอีกหลายๆ กลิ่น เช่น กลิ่นดอกไม้ไทย ซึ่งจะเน้นมากว่า เราก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก ทั้งมะลิ กุหลาบ ชมนาด พิกุล จันทน์กะพ้อ กล้วยไม้ สุโขทัยลับแล ซึ่งพวกนี้เป็นเปลือกไม้ ในการออกแบบกลิ่นให้เหมาะสมกับอากาศเมืองไทย สิ่งที่พิเศษสุดกว่านั้นคือ น้ำปรุงอโยธยา ถ้าได้ดมกลิ่นได้เกิดการย้อนไปถึงสมัยกรุงศรีอโยธยาเพราะว่ากลิ่นนี้ทำให้อารมณ์สงบ ผ่อนคลายเหมาะกับการนั่งสมาธิอย่างมาก

น้ำปรุงอโยธยาเป็นกลิ่นที่คิดค้นขึ้นมาจากสมัยอยุธยาตอนกลาง ในสมัยพระสุริโยทัย ซึ่งมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ มีการค้าขายในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช คนอยุธยาก็มีความคิดสร้างสรรค์ที่จะเอาใบเตย เอาการอบร่ำสมัยก่อนมาผสมผสานจนเป็นน้ำปรุง ซึ่งน้ำปรุงมีคุณสมบัติในเรื่องของการนั่งสมาธิ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ถ้าเติมกระดังงาก็จะช่วยเรื่องของสุขภาพ เช่น การนอนหลับ ช่วยให้หลับลึกมากขึ้น และมีการใช้เทคโนโลยีในสมัยใหม่เข้ามาสกัดน้ำมันหอมต่างๆ 

✨วิธีทำน้ำอบไทย

  1. เริ่มแรกให้นำน้ำสะอาดต้ม โดยใส่ไม้ชะลูด แก่นจันทน์ และใบเตยลงต้มพร้อมกัน เมื่อได้สีเหลืองออกเขียวตามต้องการแล้วกรองด้วยผ้าขาวบางเหลือเพียงน้ำใสๆ ทิ้งไว้ให้เย็น
  2. นำดอกไม้กลิ่นหอม เช่น มะลิ กุหลาบ จำปี เป็นต้น ใส่จานลอยลงบนน้ำอบ โดยปิดฝาครอบไว้ (อย่านำดอกไม้หอมลอยน้ำโดยตรงเพราะไม่อย่างนั้นกลีบดอกจะช้ำ) สำหรับเวลาที่เริ่มลอยเริ่มตั้งแต่หัวค่ำไปจนกระทั่งถึงประมาณตี 5  อย่าลอยนานเกินไปไม่อย่างนั้นกลิ่นจะเปลี่ยน
  3. จากนั้นนำดอกไม้ออก ใส่กำยานลงอบ 9 ครั้ง ต่อด้วยเทียนอบ 9 ครั้ง วิธีการลอยเหมือนกับลอยดอกไม้หอม เสร็จแล้วกรองด้วยผ้าขาวบางโดยซ้อนทับ 8 ชั้น
  4. จากนั้นมาสู่ขั้นตอนร่ำแป้ง โดยการใช้แป้งหินบด ใส่กลิ่นของดอกไม้ 9 ชนิด คือ มะลิ กุหลาบ ลำเจียก จันทน์กะพ้อ ชมนาด กระดังงา พิกุล แก้ว พุทธชาด และค่อยๆ บดแป้งทีละน้อย แล้วผสมด้วยกลิ่นของดอกไม้และน้ำของน้ำอบ ใส่ชะมดเช็ด บดจนกระทั่งแป้งไม่มีมัน
  5. นำไปกวนกับน้ำที่อบร่ำไว้แล้ว โดยคนไปทางเดียวกันให้เป็นแพ
  6. กรองด้วยผ้าขาวบาง 8 ชั้น อีกครั้ง เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำน้ำอบไทย

📌หากใครสนใจซื้อเป็นของชำร่วยหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติ่มสามารถติดต่อได้ที่ 095-545-5639 หรือแอดไลน์ @kaoklin ดูข้อมูลเพิ่มเติ่มได้ที่เพจเฟซบุ๊ก : Kaoklin เป็นการต่อยอดที่สร้างมูลค่าความเป็นเอกลักษณ์ในความเป็นไทย

ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติม : เก้ากลิ่น Kaoklin

#เทคโนโลยีชาวบ้าน #technologychaoban #เก้ากลิ่น #kaoklin #เครื่องหอม #บ้านเก้ากลิ่น