เหล็กด้ามหอก อาวุธคราวจวนตัว

สมัยเด็กๆ ได้ยินคำด่าบ่อยๆ ว่า ไอ้หอกหัก
ประสาเด็กก็ไม่เข้าใจหรอกว่า ถ้าหอกหักแล้วจะเป็นอย่างไร พอโตขึ้นมาจึงรู้ว่า คนถือหอกหักอยู่ในมือนั้นอันตรายอย่างยิ่ง ถ้าไม่มีไหวพริบพอ อาจไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้ เพราะเบื้องหน้าของคนถือหอกนั้นคือคู่ต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ก็ตาม

หอก เป็นอาวุธของคนมายาวนาน แรกๆ น่าจะทำมาจากไม้ทั้งหมด อาจเริ่มจากเที่ยวหาไม้หักๆ ในป่ามาใช้ก่อน หาพบแล้วก็นำมาใช้ส่วนที่แหลมล่าสัตว์หรือป้องกันตัวจากอันตรายจากสัตว์หรือคน จากนั้นค่อยเอาไม้มาใช้เป็นเครื่องมือเสี้ยมให้แหลมเพื่อใช้ล่าสัตว์

กว่าคนที่จีบกันหน้าถ้ำจะหาวิธีเสี้ยมไม้ให้แหลมคมตามใจต้องการได้ น่าจะต้องใช้เวลานับนานอยู่ เพราะมนุษย์ยุคแรกๆ ป่ายังอุดมสมบูรณ์ ของป่ายังหากินง่าย จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ บีบบังคับให้แสวงหาวิธีการพัฒนาเครื่องมือทำมาหากิน ครั้นเมื่อคนสามารถคิดค้นวิธีการทำขวานหินได้ ก็ใช้ขวานหินนั่นเองเสี้ยมไม้อันพอเหมาะมือมาใช้กัน

แน่นอนว่าเครื่องมือที่เราเรียกว่าหอกนั้น คนโบราณเรียกว่าอะไรเราไม่รู้ แต่รู้ว่ามีเครื่องมือที่คนสมัยนี้เรียกว่าหอกแน่ๆ

ในประวัติศาสตร์โลกไม่ได้บันทึกไว้ว่า ชนเผ่าไหนใช้หอกก่อน ถึงมีบันทึกไว้ก็คงไม่ค่อยมีใครเชื่อนัก เพราะความจำเป็นขั้นพื้นฐานที่จะหากินและป้องกันตัวเองมนุษย์ทุกเผ่าพันธุ์ย่อมมีเหมือนกัน และอาจเป็นไปได้ว่า แม้จะอยู่กันคนละซีกโลกก็คงคิดหาวิธีการเสี้ยมหอกมาใช้ได้

พอสิ้นยุคหิน มนุษย์สามารถคิดค้นเหล็กได้ บรรพบุรุษของเราก็ใช้มีดเสี้ยมปลายหอก และทำปลายหอกด้วยเหล็ก โดยตีเหล็กให้คม และให้มีรูสวมกับปลาย

หอกแต่ละอันมีตัวหอกที่มีส่วนแหลมอยู่ปลาย มีด้ามหอกสำหรับจับถือ และส่วนปลายด้ามหอกนั้น คนโบราณไม่ได้ทิ้งไว้แค่จับถือเฉยๆ แต่นำเหล็กแหลมคมมาติดไว้ที่ปลายด้าม

ส่วนแหลมที่ปลายด้ามนี้ เอาไว้สำหรับเมื่อต่อสู้กับใครก็ตาม ครั้นจวนตัวขึ้นมาและอยู่ในระยะประชิด ก็ตวัดด้ามหอกคมๆ นั้นใส่ศัตรู เป็นการใช้อาวุธเมื่อจวนตัว แต่เมื่อจวนตัวจริงๆ ใครจะมีสมาธิ มีสติพอจะแก้ไขสถานการณ์มากน้อยแค่ไหนนั้น ย่อมอยู่ที่ไหวพริบปฏิภาณและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของแต่ละคน

การทำปลายด้ามหอก หากเป็นชาวบ้านธรรมดาที่ตีเหล็กไม่เป็น ก็ต้องพึ่่งพาช่าง โดยนำแบบที่ต้องการไปให้ช่างช่วยตีให้ ลักษณะก็คือ เป็นเหล็กกลมปลายเรียวแหลม ในทรงกลมนั้นมีรู สำหรับนำปลายไม้ใส่เข้าไป

การใช้หอกของคนเรา มิใช่แต่นำไปประหัตถ์ประหารกันอย่างเดียว แต่นำไปล่าสัตว์ด้วย

การจะจับสัตว์มาปรุงอาหาร สัตว์แต่ละตัวรักตัวกลัวตายเหมือนกับคน มันไม่ได้เดินมาให้จับกินง่ายๆ อย่างแน่นอน เคยเห็นภาพการล่าสัตว์ในสมัยโบราณหลายอย่าง เป็นต้นว่าถ้าต้องการสัตว์ใหญ่ๆ ก็ขุดหลุมลึกๆ ลึกขนาดสัตว์ที่ล่านั้นขึ้นมาเองไม่ได้ จากนั้นก็คอยดูว่า สัตว์ตกลงไปหรือยัง เมื่อพบว่าสัตว์ตกลงไปแล้ว คนขุดหลุมดักสัตว์ก็จะพาพวกมา ใช้หอกแทงสัตว์ให้ตาย แล้วนำเอาไปแล่เนื้อ จ่ายแจกกันทำอาหาร

สำหรับการล่าสัตว์ชนิดตาต่อตาฟันต่อฟันยุคสมัยก่อนเก่าก็ต้องใช้หอก ชาวบ้านจะพากันไปเป็นกลุ่ม เมื่อพบสัตว์ก็ช่วยกันล่า ด้วยการพยายามล้อมสัตว์ป่าไว้ แล้วใช้หอกแทง แน่นอนว่า สัตว์จะต้องสู้ยิบตา กว่าจะได้เนื้อสัตว์มาแจกจ่ายกันทำอาหาร อาจมีบางคนถูกสัตว์ฆ่าตายเสียก่อน

ไม่ว่าสัตว์หรือคน ถ้าจวนตัวขึ้นมาก็ต้องสู้ยิบตาอยู่แล้ว ใครเล่าจะยอมตายโดยไม่มีการปกป้องชีวิต

การต่อสู้ของเจ้าของหอก ไม่ว่าจะสู้กับคนหรือสัตว์มีสิทธิ์หอกหักระหว่างการต่อสู้ได้ ช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ถ้าหอกเกิดหักขึ้นมา คู่ต่อสู้ย่อมได้เปรียบ เจ้าของหอกที่หักมีสิทธิ์ตายได้ง่ายๆ

ดังนั้น คำด่าที่ว่า ไอ้หอกหัก ก็อาจหมายถึง คนที่ถูกด่านั้นชะตาขาด หรือไม่ก็อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีนั่นเอง

หอกมีหลายชนิด พิพิธภัณฑ์อาวุธโบราณ และพิพิธภัณฑ์บางแห่งเก็บสะสมไว้ หากมีเวลาพิจารณาให้ดี จะพบว่าด้ามหอกจะมีส่วนปลายด้ามแหลมคม ส่วนนั้นเองเป็นที่รู้กันว่า เป็นส่วนทำเสริมขึ้นมาใช้ เมื่อเวลาจวนตัว

แต่เมื่อถึงเวลาจวนตัวแล้ว จะได้ใช้ส่วนเสริมนี้หรือไม่ ย่อมขึ้นอยู่กับสติของแต่ละคน