หนุ่มลำพูน เลี้ยงหนูพุก ทำตลาดออนไลน์ มีรายได้หลักหมื่นต่อเดือน

ปัจจุบันธุรกิจเพาะเลี้ยงหนูกำลังได้รับความนิยม เนื่องจากหนูในแหล่งธรรมชาติเริ่มมีจำนวนลดลง แต่ความต้องการบริโภคนั้นยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ในหลายพื้นที่มีผู้ทำรายได้จากการเลี้ยงหนูต่อเดือนไม่ธรรมดาทีเดียว อย่างเช่น คุณประมาย วงหาริมาตร หรือ คุณเป็ด ที่ชื่นชอบการจับหนูมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เขารู้สึกชื่นชอบและอยากจะเลี้ยง จึงได้เรียนรู้และทดลองเลี้ยงหนูพุกใหญ่ เพราะหนูชนิดนี้ เลี้ยงง่าย และใช้ระยะเวลาเลี้ยงไม่นาน สามารถให้อัตราการแลกเนื้อได้เร็ว

คุณประมาย วงหาริมาตร หรือ คุณเป็ด

มองว่าการเลี้ยงหนู

สามารถเสริมรายได้ดี

คุณเป็ด เล่าให้ฟังว่า นิสัยเขาตั้งแต่สมัยเด็กชอบหาหนูจับหนูตามทุ่งนา เมื่อมีโอกาสได้ย้ายงานมาอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด จึงทำให้ความชอบนี้ก็ยังไม่หายไป เมื่อว่างจากงานประจำที่ทำอยู่ก็จะหาจับหนูมาทดลองเลี้ยง เพราะได้มองถึงอนาคตว่าน่าจะทำเป็นอาชีพเสริมรายได้ให้กับเขาได้ ทำให้ได้ศึกษาการเลี้ยงจากสื่อโซเชียลต่างๆ รวมไปถึงการเข้าไปดูการเลี้ยงจากฟาร์มอื่นๆ ที่เลี้ยงประสบผลสำเร็จด้วย

“ช่วงแรกๆ ดักหาสายพันธุ์จากธรรมชาติมาก่อน พอมาเพาะพันธุ์แล้วลูกหนูที่ได้ก็จะค่อยๆ ไม่มีความดุร้าย เพราะเราจะเลี้ยงแบบเชิงให้เป็นหนูฟาร์ม แต่การเพาะลูกที่ออกมาถือว่าได้ไม่ค่อยดีมากนัก ให้ลูกพันธุ์ออกมาไม่ดี ผมก็เลยตัดสินใจหาซื้อพ่อแม่พันธุ์จากที่อื่นมาเลี้ยง เพราะหนูพวกนี้เริ่มที่จะเป็นหนูฟาร์มแล้ว และสามารถผลิตลูกให้กับเราได้ดีกว่าการที่เราจะไปพัฒนาสายพันธุ์มาจากธรรมชาติเอง” คุณเป็ด บอก

พื้นที่ภายในฟาร์ม

หนูกินน้อย โตไว

ใช้เวลาเลี้ยงไม่นาน

ในเรื่องของการเลี้ยงหนูให้ประสบผลสำเร็จนั้น คุณเป็ด บอกว่า การจัดการพื้นที่เลี้ยงถือว่าสำคัญมาก เพราะจะต้องดูแลในเรื่องของความสะอาดให้ดี โดยเฉพาะในเรื่องของการให้น้ำ พื้นที่เลี้ยงต้องไม่แฉะหรือชื้นจนเกินไป โดยเมื่อหนูขับถ่ายของเสียออกมา ต้องระบายออกง่ายและไม่สะสมของเสียไว้ภายในบ่อเลี้ยง โดยบ่อซีเมนต์ที่ใช้เลี้ยงจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 60 กับ 80 เซนติเมตร วางซ้อนกันอย่างต่ำ 2 วงบ่อเป็นอย่างน้อย

ปล่อยอัตราส่วนตัวผู้ 1 ตัวต่อตัวเมีย 2 ตัว

โดยบ่อซีเมนต์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 60 เซนติเมตร จะปล่อยพ่อแม่พันธุ์เลี้ยงอยู่ที่ตัวผู้ 1 ตัวต่อตัวเมีย 1 ตัว แต่ถ้าเป็นบ่อซีเมนต์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 80 เซนติเมตร จะปล่อยตัวผู้ 1 ตัวต่อตัวเมีย 2 ตัว ซึ่งอาหารที่ใช้เลี้ยงหลักๆ จะเป็นหญ้าขนให้กิน 1-2 วันครั้ง ส่วนอาหารที่เป็นธัญพืชก็จะมีเมล็ดข้าวโพดให้กินสลับกับอาหารหมูที่มีโปรตีนตั้งแต่ 16-18 เปอร์เซ็นต์ นำอาหารให้กินในช่วงเย็นเวลาเดียว ปริมาณต่อตัวประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ

เตรียมส่งลูกค้า

“แม่พันธุ์ก็จะเลือกตัวเมียที่มีอายุตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป ส่วนตัวผู้ที่เป็นพ่อพันธุ์อายุต้องไม่ต่ำกว่า 3 เดือน หลังจากผสมพันธุ์แล้ว รอประมาณ 21-23 วัน แม่พันธุ์ก็จะคลอดลูกออกมา หลังจากคลอดแล้ว แม่พันธุ์ก็สามารถผสมพันธุ์ต่อได้เลย โดยลูกที่ออกมาใหม่ๆ ก็จะปล่อยให้อยู่กับแม่หนูไปประมาณ 30-45 วัน หลังจากช่วงนี้แล้ว ลูกหนูก็จะหย่านมพอดี เราก็จะแยกเพศเพื่อนำไปเลี้ยงขุนต่ออีก 1 เดือนครึ่งก็ขายได้ ส่วนตัวที่มีทรงดีและแข็งแรงก็จะเลี้ยงเป็นพ่อแม่พันธุ์ไว้ใช้ทดแทนภายในฟาร์ม” คุณเป็ด บอก

ส่วนในเรื่องของโรคของหนูและความสะอาดภายในฟาร์มนั้น คุณเป็ด เล่าว่า ตั้งแต่เลี้ยงมามากกว่า 5 ปี หนูถือว่าเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างแข็งแรงยังไม่เกิดโรคให้เห็น ส่วนความสะอาดภายในฟาร์มจะทำอยู่เป็นประจำ จึงทำให้การสะสมของโรคยังไม่ทำให้หนูเกิดการตายจนเสียหาย

ลูกหนูที่กำลังขุนต่อ

ทำตลาดออนไลน์เป็นหลัก

ลูกค้าสั่งซื้อจากทั่วประเทศ

การทำตลาดเพื่อขายหนูภายในฟาร์ม คุณเป็ด บอกว่า หนูที่เลี้ยงหลังจากครบเวลาเลี้ยงแล้ว น้ำหนักต่อตัวจะอยู่ที่ 800 กรัม ไปจนถึง 1 กิโลกรัม ซึ่งระยะเวลาเลี้ยงจะไม่ให้เกินนี้ เพราะสายพันธุ์หนูพุกใหญ่ที่เลี้ยงจะให้อัตราการแลกเนื้อที่ไวกว่าหนูพุกเล็ก เมื่อเลี้ยงด้วยระยะเวลาเท่ากัน ซึ่งตลาดที่ทำส่งขายหลักๆ จะเน้นทำตลาดออนไลน์ โดยที่เขาไม่ต้องนำหนูที่เลี้ยงไปออกร้านที่ไหน

การบรรจุแบบสุญญากาศ

โดยหนูที่ทำส่งขายจะเน้นเป็นเนื้อหนู สำหรับพร้อมส่งไปให้ลูกค้าประกอบอาหารได้ทันที เฉลี่ยต่อเดือนขายได้อยู่ที่ 100 กิโลกรัม เพราะทำงานประจำไปด้วย จึงมองว่าการขายเพียงจำนวนเท่านี้เหมาะสมกับการเสริมรายได้ของเขา ซึ่งหนูที่ชำแหละเรียบร้อยแล้ว พร้อมนำไปประกอบอาหาร ราคาขายส่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 200 บาท และราคาขายปลีกอยู่ที่ 250 ต่อกิโลกรัม ส่วนลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดจะมีขนส่งที่เป็นรถห้องเย็นไปส่งถึงที่ เพียงแต่ลูกค้าต้องออกค่าขนส่งเอง

การบรรจุแบบสุญญากาศ

“การขายออนไลน์ ก็ถือว่าทำตลาดได้ดีสำหรับผม เพราะลูกค้าที่สั่งเข้ามา ทำให้เรารู้จำนวนแน่นอน ว่าแต่ละรอบเราจะต้องผลิตจำนวนเท่าไรส่งลูกค้า และเรามีการอัพเดทกิจกรรมฟาร์มอยู่เสมอ ก็จะช่วยให้ลูกค้าเชื่อใจ และมองว่าฟาร์มเรามีตัวตนจริง ใครที่สนใจเลี้ยงก็อยากจะบอกว่า ตลาดหนูยังสามารถขายได้เรื่อยๆ การทำเป็นอาชีพให้สำเร็จ สิ่งแรกก็ต้องมีใจรักก่อน จากนั้นเรียนรู้ไปเรื่อยๆ สิ่งที่ชอบจะทำให้มีรายได้ไม่ยากครับ”

สำหรับท่านใดที่สนใจในเรื่องของการเลี้ยงหนู หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณประมาย วงหาริมาตร หรือ คุณเป็ด ฟาร์มตั้งอยู่ที่ 303 หมู่ที่ 14 ตำบลป่าสัก อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ทางเพจเฟซบุ๊ก มีตังค์ฟาร์มหนูนา และหมายเลขโทรศัพท์ 065-527-2576