เรื่องม้าไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ที่ไร่เหมือนฝัน

สวัสดีครับ ช่วงนี้ผมห่างหายจากคอกวัวเพราะไปค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อมารับใช้ท่านผู้อ่านกันครับ ฉบับนี้ขอพาท่านไปพบ พูดคุย ทำความรู้จักกับการเลี้ยงสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่คนไทยอาจจะคุ้นมานานแต่ยังไม่รู้ถึงประโยชน์และการเลี้ยงในแง่ธุรกิจต่างๆ

สัตว์ที่ผมว่าก็คือ ม้า นั่นเองครับ ผมจะพาท่านไปพบธุรกิจเกี่ยวกับม้าที่เกิดขึ้นมาจากความรักของเจ้าของ จนปัจจุบันสามารถสร้างให้เป็นธุรกิจเล็กๆ ที่น่าสนใจได้ จะมีแง่คิดอะไร น่าสนใจขนาดไหน ตามไปชมกันเลยครับ

ไร่เหมือนฝัน เริ่มต้นจากความใฝ่ฝัน

นำท่านมาที่ไร่เหมือนฝัน ตำบลเกาะสำโรง อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ในพื้นที่ที่กว้างใหญ่พอสมควร ไร่เหมือนฝันมีพร้อมทุกอย่างสำหรับม้าและคนรักม้า

คุณอาทิตย์ พุฒสวย เจ้าของไร่เหมือนฝันเล่าให้ฟังว่า ไร่เหมือนฝันก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2553 ตอนนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 7 แล้ว จุดเริ่มต้นของไร่เหมือนฝันมาจากการที่คุณอาทิตย์เป็นคนที่ชอบขี่ม้า อยากมีม้าเป็นของตัวเอง จึงเป็นแรงผลักดันให้เริ่มมองหาที่ดินสำหรับทำฟาร์มม้า จนมาได้พื้นที่ตรงนี้ซึ่งเป็นพื้นที่โล่งโปร่งและไม่รบกวนเพื่อนบ้าน

คุณอาทิตย์จึงเริ่มลงหลักปักฐานให้กับไร่เหมือนฝัน จากวันที่เริ่มต้นจนถึงวันนี้ ไร่เหมือนฝันได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับม้าหลายๆ อย่างจนเรียกได้ว่าครบวงจร มีทั้ง รับฝากม้า รับฝึกสอนม้า รับผสมพันธุ์ม้า รับตอกเกือกเปลี่ยนเกือกม้า

และที่สำคัญคือ การรับฝึกสอนขี่ม้า โดยไร่เหมือนฝันได้รับการรับรองจากสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทยให้เป็นโรงเรียนฝึกสอนขี่ม้ามาตรฐานและได้รับการรับรองให้เป็นคอกม้ามาตรฐานอีกด้วย

ทำความรู้จักกับพันธุ์ม้า

พันธุ์ม้าทั่วโลกมีอยู่ประมาณ 170 พันธุ์ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ม้า และโพนี่ โดยใช้ความสูงเป็นตัวแบ่ง ถ้าสูงกว่า 14.2 แฮนด์ เรียกว่า ม้า (แฮนด์ เป็นมาตรฐานวัดความสูงของม้า โดยวัดส่วนที่สูงที่สุดของตะโหงกตรงหัวไหล่จนถึงพื้นดิน 1 แฮนด์ = 4 นิ้วฟุต) ส่วนที่ต่ำกว่า 14.2 แฮนด์ เรียกว่า โพนี่

กลุ่มที่เรียกว่าม้ายังแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ม้างานและม้าขี่ ม้างาน (Draft Horse) เป็นม้าที่ใช้ในการทำงานในไร่นาและคอกปศุสัตว์ในต่างประเทศ ใช้ในงานเทียมเกวียนลากของหนัก บางครั้งอาจใช้ขี่

ม้างานมีหลายพันธุ์ เช่น พันธุ์ไชร์ (Shir) ม้าพันธุ์ไคลเดสเดล (Clydesdale) ม้าพันธุ์ซัฟโฟล์ค (Suf-Folk) เป็นต้น ม้างานเป็นม้าที่มีขนาดใหญ่ (Heavy Horses) สูงประมาณ 15-17 แฮนด์ เมื่อโตเต็มที่มีน้ำหนัก 614-1,000 กิโลกรัม

ส่วนม้าขี่ (Riding Horse) เป็นม้าที่ใช้สำหรับขี่เดินทาง ม้าแข่ง ม้าสำหรับกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ม้าสำหรับขี่แข่งกีฬาโปโล ม้าขี่สำหรับเดินสวนสนาม

ม้าขี่มีหลายพันธุ์ด้วยกัน เช่น พันธุ์อเมริกันแซดเดิล (American Saddle Horse) พันธุ์อัพพาลูซา (Appaloosa) พันธุ์อาหรับ (Arabian) พันธุ์พาโลมิโน (Palomino) พันธุ์เทอร์รับเบร็ด (Thoroughbred) เป็นต้น ม้าขี่เป็นม้าที่มีขนาดสูงประมาณ 14-17 แฮนด์ เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดน้ำหนัก 364-591 กิโลกรัม

ม้าโพนี่ (Pony Horse) เป็นม้าสำหรับการขี่ของเด็กๆ หรือเทียมรถลากขนาดเล็ก มีส่วนสูงประมาณ 11-14 แฮนด์ และเมื่อเติบโตเต็มที่มีน้ำหนักประมาณ 180-386 กิโลกรัม

ชนิดกีฬาขี่ม้า

กีฬาขี่ม้านั้นมีค่อนข้างหลากหลาย แต่ที่คนไทยเรารู้จักกันดีก็คือ การบังคับม้าและลีลาที่งดงาม (Dressage) การขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง (Jumping) และกีฬาขี่ม้าอีเวนติ้ง (Eventing) ซึ่งเป็นกีฬาที่ต้องทำการแข่งขันกันถึง 3 ชนิดของกีฬาขี่ม้า คือ ศิลปะการบังคับม้า (Dressage) ตามมาด้วยกีฬาขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวางในภูมิประเทศ (Cross country) และสุดท้ายจบด้วยกีฬาขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง (Show jumping) ผู้ที่ได้คะแนนรวม 3 ชนิดกีฬามากที่สุดจะเป็นผู้ชนะเลิศ

ส่วนกีฬาการขี่ม้าเอ็นดูแรนซ์ (Endurance) หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อ การขี่ม้ามาราธอน เป็นกีฬาขี่ม้าที่ไม่ได้วัดที่ความเร็วแต่ตัดสินกันที่ “สภาพ” ของม้า เป็นการแข่งขันบังคับม้าระยะทางไกล ตั้งแต่ 40 กิโลเมตร จนถึง 160 กิโลเมตร

ดังนั้น กีฬาเอ็นดูแรนซ์นอกจากต้องมีทักษะในการบังคับม้าแล้วยังต้องสามารถ “บริหาร” การวิ่งของม้าให้วิ่งได้จนจบการแข่งขันโดยที่ม้ายังอยู่ในสภาพปกติอีกด้วย

สำหรับกติกาการตัดสิน สัตวแพทย์กำหนดว่าในการหยุดนำม้าเข้ารับการตรวจจากสัตวแพทย์ระหว่างการแข่งขันทุกช่วงนั้น ม้าจะต้องไม่บาดเจ็บและอัตราการเต้นของหัวใจต้องไม่เกิน 56 ครั้ง ต่อนาที และยังอยู่ในสภาพที่จะสามารถวิ่งต่อไปได้

เมื่อเข้าเส้นชัยแล้วต้องตรวจสภาพม้าอีกครั้งหลังจากที่เข้าเส้นชัยแล้ว 20-30 นาที หากไม่ผ่านทั้งนักกีฬาและม้าจะถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขันทันที

นอกจากนี้ เอ็นดูแรนซ์สามารถออกตัวเมื่อใดก็ได้ และสามารถลงจากหลังม้าระหว่างการแข่งขันได้หากต้องการ โดยกฎบังคับว่าต้องอยู่บนหลังม้าในช่วงผ่านจุดออกตัวและผ่านเข้าเส้นชัยเท่านั้น ที่ไร่เหมือนฝันมีม้าที่ได้รับรางวัล Best of The Year 2012 ในประเภทเอ็นดูแรนซ์ด้วย ก็คือม้าที่ชื่อ ขุนพล

ม้าชื่อขุนพล ของไร่เหมือนฝัน ได้รับรางวัล Best of The Year 2012 ในประเภทเอ็นดูแรนซ์

เรียนขี่ม้ากับครูฝึกสอนที่มีประสบการณ์

นอกจากไร่เหมือนฝันจะเป็นคอกม้ามาตรฐานและเป็นเป็นโรงเรียนฝึกสอนขี่ม้ามาตรฐานแล้ว สิ่งสำคัญที่ทำให้ไร่เหมือนฝันมีวันนี้ได้ก็เพราะมีครูฝึกสอนขี่ม้าที่ดีและมีประสบการณ์สูงอย่าง คุณครูนิศากร หาญกล้า หรือ ครูโอ๋ ที่มีใบอนุญาตสอนการขี่ม้าให้แก่บุคคลทั่วไป

ครูโอ๋มีประสบการณ์สอนขี่ม้ามากกว่า 10 ปี ครูโอ๋บอกว่า กีฬาขี่ม้าที่ผ่านมาถือได้ว่ายังอยู่ในวงแคบ มีคนเล่นคนเรียนน้อย แต่ในปัจจุบันนี้กีฬาขี่ม้าได้ขยายวงกว้างขึ้น คนทั่วไปรู้จักกีฬาชนิดนี้ดีขึ้นกว่าเดิม สำหรับคนที่สนใจจะเรียนขี่ม้าครูโอ๋บอกว่า กีฬาขี่ม้าสามารถเรียนกันได้ทุกเพศทุกวัย ที่ผ่านมาเคยมีนักเรียนอายุตั้งแต่ 6-7 ขวบ ไปจนถึงอายุเลย 60 ปีที่มาเรียนขี่ม้ากับครูโอ๋

การเรียนขี่ม้าของเด็กๆ ใช้ม้าโพนี่

เสน่ห์ของกีฬาขี่ม้า

บางคนบอกว่าขี่ม้าก็แค่นั่งเฉยๆ ไม่ได้ออกกำลังอะไร แต่จริงๆ แล้วครูโอ๋บอกว่า กีฬาขี่ม้านั้นมีข้อดีมากมาย ครูโอ๋ยืนยันว่า การขี่ม้าที่ถูกวิธีนั้นถือเป็นการพัฒนากล้ามเนื้อที่ดี เพราะคนขี่ต้องใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนในการขี่ม้าและควบคุมม้า

นอกจากนั้น การเรียนขี่ม้าในเด็กจะสามารถสร้างบุคลิก เพราะการขี่ม้าต้องอาศัยการทรงตัว การควบคุมร่างกายคนขี่ให้ถูกท่า คือหลังตรง หน้าตรงมองไปข้างหน้า และที่สำคัญการขี่ม้ายังเป็นการฝึกสติเพราะต้องใช้การทรงตัวที่ดีบนหลังม้า ใช้สติควบคุมตัวเองและควบคุมม้าที่ขี่

ดังนั้น กีฬาขี่ม้าจึงเป็นการพัฒนาร่างกายและพัฒนาบุคลิกภาพไปพร้อมๆ กัน สำหรับเด็กที่สนใจจะเรียนขี่ม้าต้องมีอายุ 7 ปีขึ้นไป ต้องมีวินัย ขยัน และอดทน ใช้เวลาเรียนประมาณ 20 ชั่วโมง ก็สามารถพัฒนาการขี่ม้าให้ดีขึ้นได้ เสน่ห์ของกีฬาขี่ม้าจึงอยู่ที่การควบคุมตัวเองและการควบคุมม้า รวมทั้งการได้ออกไปสัมผัสกับธรรมชาติบนหลังม้า การได้พบมุมมองใหม่ที่หาไม่ได้จากชีวิตทั่วไป

ธุรกิจเกี่ยวกับม้า ที่ไร่เหมือนฝัน

การดูแลม้าที่ไร่เหมือนฝันในทุกๆ วันช่วงเช้าจะให้อาหารข้นประมาณ 15 กิโลกรัม ต่อตัว รวมทั้งให้หญ้าสดด้วย หลังจากนั้น จะปล่อยม้าลงแปลงให้แทะเล็มหญ้าอย่างอิสระ ในตอนเย็นจะต้อนเข้าคอกพร้อมให้อาหารข้นและหญ้าหรือต้นข้าวโพด รวมทั้งมีหญ้าแพงโกล่าแห้งอัดก้อนให้กินด้วย

คุณอาทิตย์ บอกว่า เราเลี้ยงม้าพันธุ์ลูกผสมเพราะมีข้อดีคือดูแลง่าย ตอนนี้ไร่เหมือนฝัน มีม้าทั้งหมด 8 ตัว เป็นม้าพ่อพันธุ์ 2 ตัว ลูกผสมพันธุ์อาหรับ (Arabian) ซึ่งรับผสมกับแม่ม้าทั่วไปในราคามิตรภาพ

นอกจากนั้น ที่ไร่เหมือนฝันยังรับฝึกม้าสำหรับใช้ขี่ โดยใช้เวลาฝึกประมาณ 1 ปี ครูโอ๋บอกว่า โดยทั่วไปลูกม้าจะเริ่มฝึกจากการฝึกจับจูงเมื่อม้าอายุประมาณ 6 เดือน ขึ้นขี่ได้เมื่ออายุประมาณ 3 ปี การฝึกม้ากับไร่เหมือนฝันมีค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนให้กับทางไร่

งานสำคัญอีกอย่างของม้าขี่คือการเปลี่ยนเกือกม้าที่จะต้องทำทุกเดือน ที่ไร่เหมือนฝันก็รับตอกเกือกเปลี่ยนเกือกม้าให้ได้ คุณอาทิตย์บอกว่า ตอนนี้ทางไร่เหมือนฝันสามารถรับฝึกม้าได้เต็มที่ 5 ตัว นอกจากนั้น ยังรับฝากม้าสำหรับผู้ที่รักจะเลี้ยงม้าแต่ไม่มีเวลาหรือสถานที่ไม่เอื้ออำนวยก็สามารถนำม้ามาฝากเลี้ยงที่ไร่เหมือนฝันได้อีกด้วย

ก่อนจากกันครูโอ๋ฝากบอกถึงเด็กๆ ที่สนใจในกีฬาขี่ม้าว่า การขี่ม้าต้องใช้ใจรัก ใจชอบ ครูจะไม่มีการบังคับ หากเด็กคนใดสนใจมาเรียนอย่างจริงจัง ขยันและอดทนก็จะได้รับสิ่งที่ดีมากมายทั้งประสบการณ์ดีๆ ร่างกายแข็งแรง และบุคลิกดีไปพร้อมๆ กัน ใครสนใจอยากเรียนขี่ม้าหรืออยากฝากม้า ฝึกม้า ติดต่อได้ที่ ครูโอ๋ โทร. (081) 384-4826 หรือ คุณอาทิตย์ โทร. (092) 635-4149 ครับ

“เลือกทำงานที่เรารักแล้วชีวิตคุณจะเหมือนไม่ได้ทำงาน” ผมไม่รู้ว่าเป็นคำพูดของใครกันแน่แต่ผมเป็นคนหนึ่งที่เห็นด้วยกับคำพูดนี้และพยายามหาสิ่งที่รักทำไปในทุกวันอย่างเช่นการเขียนข่าวมาเสนอท่านผู้อ่านก็เป็นงานที่ผมรักเช่นกัน พบกันใหม่ฉบับหน้า ลากันไปก่อน สวัสดีครับ

เอกสารอ้างอิง
http://www.vrhorseman.com/content/knowledge/
http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=19&chap=4&page=t19-4-infodetail08.html
http://www.vpathai.org/private_folder/EVPT/Jan.pdf
http://horsemovethailand.blogspot.com/2011/05/horse-festival.html
http://www.perfectcompanion.com/?p=2940&lng=En