เกษตรกรเมืองช้าง เลี้ยงไก่โรดไทย แข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศ หากินเก่ง เก็บไข่ขายสร้างรายได้เสริมทุกวัน

ปัจจุบันคนรักสุขภาพกันมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำเกษตรอินทรีย์ พืช ผัก ผลไม้ ของเกษตรกรที่กำลังปรับเปลี่ยนให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น การทำเกษตรอินทรีย์นี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะ พืช ผัก เพียงเท่านั้น แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่าการเลี้ยงไก่ไข่นั้นสามารถเลี้ยงแบบอินทรีย์ได้แล้ว ปลอดภัยทั้งคนเลี้ยง ทั้งสัตว์และผู้บริโภคด้วย บางคนบริโภคอาหารโดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องของสุขภาพให้เหตุผลว่าไม่มีเวลาดูแลตัวเอง งานเยอะไม่มีแม้แต่เวลาเลือกซื้ออาหาร จึงบริโภคสิ่งที่ไม่ค่อยให้สารอาหารแก่ร่างกายมากนัก แถมยังพักผ่อนไม่เพียงพอ เครียดเรื่องงานยังต้องมาเครียดเรื่องรถติดทั้งเช้าเย็น เทคโนโลยีชาวบ้านอยากที่จะชวนให้ทุกคนเลือกอาหารที่ปลอดภัย ให้สารอาหารแก่ร่างกาย ปลอดภัยต่อตัวเราและคนรอบข้าง จึงหยิบเอาเรื่องของการเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์มาฝาก ว่าจะมีความแตกต่างหรือมีประโยชน์มากน้อยเพียงใด

คุณศรัณยา กำจัดภัย เจ้าพนักงานสัตวบาลอาวุโส ศูนย์วิจัยและพัฒนากระบือ จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ไก่โรดไทยที่ศูนย์รับมาจากจังหวัดเชียงใหม่นานแล้ว ไก่โรดไทยนั้นเป็นไก่ที่แข็งแรง ทนทานต่อสภาพบ้านเรามาก หากินเก่ง คุ้ยเขี่ยหาอาหารกินตามบริเวณทั่วไป แต่ไม่ฟักลูก ทางศูนย์จึงนำมาพัฒนาเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพบ้านเรา โดยการเลี้ยงแบบปล่อยให้หากิน ให้เป็นแม่พันธุ์ที่แข็งแรง ทนทานต่อสภาพแวดล้อม แม่ไก่จะต้องไข่ไม่เกิน 260-280 ฟอง ต่อปี

 

ไก่ไข่อินทรีย์ ที่เมืองช้าง

คุณพิมพ์จันทร์ ประทุมทอง อยู่บ้านเลขที่ 6/1 หมู่ที่ 12 ตำบลเฉนียง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เล่าว่า เมื่อก่อนเป็นพนักงานโรงงาน ได้ลาออกกลับมาอยู่บ้านเกิด กลับมาบ้านก็ต้องหารายได้เสริมให้กับครอบครัว ตอนแรกไม่ได้คิดจริงจังอะไรกับการเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ตรงนี้เพราะอาชีพหลักก็ทำนาอยู่แล้ว  จึงมองบริเวณรอบบ้านว่าเหมาะที่จะเลี้ยงปศุสัตว์ได้หรือไม่ จึงตัดสินใจที่จะทำ

ช่วงแรกเลี้ยงหมูก่อนก็มีปัญหามากมาย จึงทำเป็นหมูหลุมเพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น เรื่องกลิ่น แมลงวัน และก็ไม่มีพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ เลยเข้าไปเป็นเครือข่ายที่ศูนย์วิจัยและพัฒนากระบือจังหวัดสุรินทร์ โดยการซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ผ่านการทดสอบมาแล้ว มาผสมพันธุ์ออกมาเป็นหมู 2 สายด้วยกัน มีแม่พันธุ์และหมูขุน ทำในลักษณะแบบกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหมูหลุมบ้านกระทง ให้สมาชิกได้แม่พันธุ์และลูกพันธุ์ที่ดี สามารถนำขึ้นเขียงเอง ดังนั้น จึงต้องมีแม่พันธุ์ที่ดีก่อนและนำมาปรับปรุงพันธุ์ให้เหมาะสมกับการเลี้ยงบำรุงของเรา เหมาะกับอาหารที่ผสมเอง และมีการเจริญเติบโตที่ดี เฉลี่ยภายใน 4 เดือนที่เลี้ยงมีน้ำหนักประมาณ 95-100 กิโลกรัมขึ้นไป

คุณพิมพ์จันทร์ ประทุมทอง

คุณพิมพ์จันทร์ บอกว่า พอเลี้ยงหมูเสร็จอยากที่จะมีรายได้เพิ่ม มองพื้นที่จึงสร้างคอกเลี้ยงไก่ไข่ เพราะว่าไก่ไข่สามารถเก็บได้ทุกวัน ไก่ไข่ก็ไปซื้อลูกไก่จากที่ศูนย์วิจัยและพัฒนากระบือเหมือนกัน มีการคัดตัวเมียไว้เป็นแม่ไก่ เมื่อก่อนเคยเลี้ยงไก่ไข่ทั่วไป เลี้ยงแบบปล่อย ให้อาหารเม็ด ช่วงหลังมาเริ่มปรับให้เป็นการเลี้ยงแบบอินทรีย์ ให้อาหารที่เป็นอินทรีย์ เพื่อเป็นมาตรฐานของกรมปศุสัตว์

ลูกไก่ไข่ที่นำมานั้นอายุประมาณ 3 วัน แล้วจึงนำมากกเอง การกกใช้หลอดไฟธรรมดา แต่ต้องดูด้วยว่านำมากี่ตัว หากเอามา 50 ตัว ก็ใช้ 1 หลอด ถ้า 100 ตัว ก็ใช้ 2 หลอด ส่วนอาหารช่วงแรกจะให้เป็นอาหารไก่เนื้อประมาณ 1 เดือน หลังจาก 1 เดือนขึ้นไปก็นำมาใส่คอกเลี้ยง ไก่มาตรฐานอยู่ที่ 4-5 ตัว ต่อตารางเมตร ถ้าข้างนอกก็ 4 ตารางเมตร ต่อตัว โรงเรือนก็สร้างให้เหมาะกับไก่ที่มี ให้มีพื้นที่ได้คุ้ยเขี่ยบ้าง การให้อาหารไก่ไข่ก็จะเป็นปลายข้าวและรำละเอียดที่ได้มาจากโรงสีที่ศูนย์วิจัย จะมีส่วนผสมของอินทรีย์อยู่ 80 เปอร์เซ็นต์ อีก 20 เปอร์เซ็นต์เป็นเปลือกหอยที่เพิ่มแคลเซียม โปรตีนจากผักป่น ไก่หนึ่งตัวตัวก็จะกินอยู่ประมาณวันละขีดครึ่ง ประมาณ 6-7 เดือนถึงจะเริ่มให้ไข่

โรคก็จะมียาที่เป็นอินทรีย์ เช่น บอระเพ็ดหมักทิ้งไว้ วัคซีนก็ทำมาตั้งแต่เล็กๆ พอโตก็ให้เป็นสมุนไพรแทน การขายสู่ตลาดไม่ได้ไปขายเองจะฝากสมาชิกไปขายของที่ตลาด มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้อินทรีย์ต่างๆ พยายามที่จะขยายตลาดให้มากขึ้น ราคาไข่ก็จะขึ้นอยู่กับว่าขายที่ตลาดไหน ราคาไม่เหมือนกัน เพราะสมาชิกแต่ละคนก็เริ่มที่จะเลี้ยงในระบบนี้มากกว่าเดิม มีการรวบรวมและส่งไปขายที่กรุงเทพฯ

 

ควรมีระเบียบอย่างไร ในการเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์

อันดับแรกคือพื้นที่ในการเลี้ยงจะต้องได้รับการผ่านเกษตรอินทรีย์มาตรฐาน และเรื่องของการสร้างโรงเรือน 4-5 ตัว ต่อตารางเมตร มีพื้นที่ให้เขาเดิน ส่วนสำคัญอาหารที่ใช้จะต้องมาจากเกษตรอินทรีย์อย่างน้อย 80 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ปัจจุบันนี้เลี้ยงไก่ไข่ 200 ตัว เฉลี่ยการให้ไข่อยู่ 50 เปอร์เซ็นต์ สามารถเก็บได้ทุกวัน

 

การเลี้ยงไก่ไข่แบบอินทรีย์ รู้สึกอย่างไร

จริงๆ ทำเกษตรอินทรีย์อยู่แล้ว แค่ปรับมาเป็นการเลี้ยงปศุสัตว์อินทรีย์ไปด้วยแค่นั้นเอง ทำให้ไม่ต้องไปยุ่งกับเคมีทั้งหลาย ไก่แข็งแรงไม่ป่วยบ่อย ไม่ต้องกังวลว่าจะหายาอะไรมารักษา ให้อาหารอินทรีย์เช้า-เย็น แค่นั้นเอง ภูมิใจที่ได้กินอาหารที่ปลอดภัยและให้คนอื่นกินของที่ปลอดภัยด้วย สำหรับคนที่ยังไม่กล้าที่จะปรับเปลี่ยนมาทำเกษตรอินทรีย์ตรงนี้มองว่าอยู่ที่ใจของคน หากใจเราเปลี่ยนก็สามารถที่จะเปลี่ยนได้เลย ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ใจคนและยังสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ นำมาบริโภคเองในครัวเรือน เหลือก็แบ่งปันให้คนอื่นๆ นอกนั้นก็จำหน่ายเป็นรายได้เพิ่มให้กับครอบครัว

ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมหรือซื้อผลผลิตอินทรีย์ ถามได้ที่ โทรศัพท์ 081-709-6664

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2561


สำหรับแฟนๆ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน หากต้องการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปักษ์ ส่งตรงถึงบ้าน รวดเร็วทันใจอ่านได้ในทุกๆ 15 วัน สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ คลิกลิ้ง https://shorturl.asia/0zJwQ 📲- Line: @matichonbook หรือ สำนักพิมพ์มติชน เลขที่ 12 ถนนเทศบาลนฤมาล หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ติดต่อฝ่ายขาย 02-589-0020 ต่อ 3354