ไร้ข้อสรุป! อคส.หาทางซื้อน้ำมันปาล์มดิบเก็บสต๊อกแสนตัน 3,000ล้าน กก.ละ4.50บาท ยังไม่ได้

อคส. ถกรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเก็บสต๊อก 1 แสนตัน วงเงิน 3,000 ล้านบาท กก.ละ 4.50 บาทตกลงแนวทางรับซื้อไม่ได้ เตรียมให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเสนอใหม่สัปดาห์หน้า

พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (บอร์ดอคส.) เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน เพื่อหารือถึงหลักเกณฑ์และวิธีการซื้อน้ำมันปาล์มดิบมาเก็บสต๊อกตามมติของคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ที่มอบหมายให้อคส.เข้าไปรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเก็บสต๊อก 1 แสนตัน วงเงิน 3,000 ล้านบาท ในช่วงที่ราคาผลปาล์มสดมีราคาต่ำกว่ากก.ละ 4.50 บาท แต่ที่ประชุมยังไม่สามารถตกลงกันได้ถึงแนวทางปฏิบัติการรับซื้อ จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทบทวนเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเกษตรกรก่อนนำเสนอที่ประชุมใหม่ในสัปดาห์หน้า

“คชก.ได้จัดสรรงบประมาณ 3,000 ล้านบาท ให้ไปรับซื้อปาล์มน้ำมันเพื่อช่วยเกษตรกร ซึ่งเกษตรกรที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ คือ เกษตรกรรายย่อยมีพื้นที่เพาะปลูกไม่เกิน 70 ไร่ ผลผลิตไม่เกิน 3 ตัน/ไร่/ปี แต่ในที่ประชุมยังไม่สามารถตกลงกันได้ถึงแนวทางปฎิบัติจริง จึงจะกลับไปทบทวนและนำมาเสนอใหม่” พล.ต.ท.ไกรบุญ กล่าว

สำหรับข้อกังวลในที่ประชุม ซึ่งยังไม่ไม่สามารถตกลงได้ เนื่องจากภาครัฐจะรับซื้อผลปาล์มสดจากเกษตรกรโดยตรง เพื่อนำส่งให้โรงสกัดภายหลัง โดยประเด็นดังกล่าวทำให้โรงสกัดวิตกว่าอาจมีปาล์มน้ำมันที่มีเปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำกว่าที่กำหนดไว้ปะปน ทำให้ปริมาณน้ำมันที่สกัดได้ไม่ได้คุณภาพ รวมทั้งภาครัฐยังไม่มีความพร้อมในการดำเนินการ เพราะต้องลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร โรงสกัด และลานเท

อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่าจะพิจารณาการใช้มาตรการเดิมที่เคยดำเนินการไว้เมื่อปี 2558 โดยรัฐบาลขณะนั้นได้ช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มรับซื้อผลผลิตปาล์มสด และให้โรงกลั่นน้ำมันปาล์ม โรงงานผลิตไบโอดีเซล และผู้รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบทั่วไปรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงงานสกัด แต่หากจะใช้แนวทางดงกล่าวจะต้องเสนอเข้าที่ประชุมคชก.อีกครั้ง และจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการดำเนินการใหม่ เพราะในปี 2558 ไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากเอกชนสามารถรับซื้อได้เพียง 2,600 ตันเท่านั้น เพราะเกิดจากความล่าช้าจากการตรวจรับรองพื้นที่เกษตรกรผู้ปลูกน้ำมันปาล์ม รวมทั้งเอกชนบางส่วนก็ขาดสภาพคล่องในการนำเงินไปรับซื้อผลปาล์มสดจากเกษตรกร

สำหรับหน่วยงานทร่เข้าร่วมประชุม ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมการค้าภายในสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมโรงงานอุตสาหกรรม สมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาลม์ สมาคมปาล์มน้ำมันและน้ำปาล์มแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สภาเกษตรจังหวัดกระบี่ สภาเกษตรจังหวัดชุมพรสภาเกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ก่อนหน้านี้ได้มีมติคชก.กำหนดให้อคส.รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเก็บสต๊อก 1 แสนตัน ในช่วงที่ผลปาล์มน้ำมันมีราคาระดับต่ำกว่ากก.ละ 4.50 บาท ที่อัตราน้ำมัน 18% โดยราคาน้ำมันปาล์มดิบจะอยู่ที่กก.ละ 26.20 บาท ใช้เงินรับซื้อประมาณ 3,000 ล้านบาท กำหนดระยะเวลารับซื้อเดือนมิ.ย.-ธ.ค. 2560 และทยอยระบายไปจนถึงเดือนเม.ย. 2561