กลุ่มยางใต้เคลื่อนทัพตลาดกลางยางเมืองคอน รอ ผู้ว่า กยท.มารับหนังสือ

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช นายมนัส บุญพัฒน์ นายกสมาคมคนกรีดยางและชาวสวนยางรายย่อย เปิดเผยว่า ในเวลา 13.00 น.วันนี้ กลุ่มองค์กรยางใต้ทุกองค์กรประกอบด้วย 1.สมาคมคนกรีดยางและชาวสวนยางรายย่อย 2.กลุ่มผู้แปรรูปยางพารารมควันลุ่มน้ำตาปี 3.กลุ่มวิสาหกิจผู้ประกอบกิจการยาง 4.กลุ่มรับซื้อน้ำยางจากเกษตรกร 5.กลุ่มผู้ค้ายางรายย่อย 6.กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง 7.กลุ่มเกษตรกรผู้แปรรูปยาง 8.ภาคีเครือข่ายยางและปาล์ม รวมตัวกันที่สำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดนครศรีธรรมราช ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เข้าร่วมหารือเพื่อแจ้งความต้องการ และประสานงานให้ผู้มีอำนาจมารับทราบปัญหาและวิธีการแก้ปัญหาเรื่องราคายางตกต่ำในขณะนี้โดยด่วน

“ ขอช่องทางให้มีการพูดคุยระหว่างผู้มีอำนาจตัดสินใจได้ กับ ตัวแทนเกษตรกรและผู้แปรรูปรายย่อย เนื่องจากในเวลานี้มีผู้ประสบกับความเดือดร้อนจากวิกฤติ “ต้มยำยาง” ไม่ว่าจะเป็นชาวสวน ผู้รับซื้อน้ำยาง-เศษยาง ผู้แปรรูปยางแผ่นดิบ-แผ่นรม หรือแม้แต่กลุ่มสหกรณ์โรงรม ต่างฝ่ายต่างก็มีบริบทความเดือดร้อนไม่น้อยไปกว่ากัน ภายหลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้มีการประชุม 9 องค์กรเครือข่ายยางใต้โดยยึดถือมติว่า รอดูแนวโน้มราคาในวันพุธ/หัส/ศุกร์ ที่ผ่านมา เมื่อสถานการณ์ราคาเริ่มเป็นบวก เราก็จะเดินหน้าด้วยการเข้าหารือตามมติที่ประชุม

ต่อข้อถามราคายางตกต่ำเกิดจากความผันผวนของราคาน้ำมันหรือไม่ว่า เรื่องราคายาง เรื่องของปากท้ององคาพยพยางพาราทั้งประเทศ อย่าเอาค่าเงินบาท อย่าเอาเรื่องราคาน้ำมันมา มะโน จะมาช่วยด้วยการเพิ่มหนี้จากหลานโครงการของรัฐบาล พอกพูนปัญหารุงรัง ช่วยด้วยการโปรยเงินอวยยัดใส่ปากเป็นกลุ่มเป็นก้อน ทำได้แค่นี้ล่ะหรือ คิดสิคับคิด ใช้สมอง อย่าฟังแต่เสียงคนข้างๆที่ประจบสอพลอ จะเสียคนเอาง่ายๆ

ขณะนายอมร ขาวทอง ตัวแทนเกษตรการชาวสวนยาง กล่าวว่า วันนี้เราหวังพึ่งใคร เพราะยางรมควันจะมีการผลิตในภาคใต้เพียงที่เดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นเราคนใต้ก็จะต้องแก้ปัญหานี้ ถ้ายังปล่อยให้ กยท.กับพ่อค้าเล่นปาหี่อยู่แบบนี้รับรองตายกันหมดทั้งภาคใต้ ผมว่าถึงเวลาแล้วที่พวกเราทุกกลุ่มทุกองค์กรลุกขึ้นมาพร้อมๆแล้วเดินไปข้างหน้าต่อสู้กับคนกลุ่มนี้ บอกว่าเราไม่ยอมให้บุคคลกลุ่มนี้โกงอีกต่อไป พอกันทีกับความชั่วที่บุคคลกลุ่มนี้ทำกับชาวสวนยาง ถ้าเราพร้อมกันจริงเราทำได้ ผมเชื่อไม่มีอำนาจใดๆที่จะสู้พลังของประชาชนได้ ถามใจตัวเองก่อนว่าพี่น้องชาวสวนยางพร้อมแล้วยังสำหรับตัวผมเองพร้อมแล้ว

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า เครือข่ายผู้ผลิตยางรมควันลุ่มน้ำตาปี ซึ่งมีสมาชิกอยู่ในสามจังหวัดภาคใต้ตอนบนและตอนกลาง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และกระบี่ เข้าประชุมโดยเร่งด่วนเพื่อกำหนดท่าทีหลังจากสถานราคาการยางพาราผันผวนหนักเพื่อกำหนดท่าทีหลังจากราคาแกว่งตัวลงอย่างมีเงือนงำ โดยกำหนดท่าทีดังนี้

1. กลุ่มผู้ผลิตยางรมควันลุ่มน้ำตาปี หยุดผลิตยางแผ่นรมควันชั่วคราว จนกว่าสภาวะตลาดกลับมาเป็นปกติ 2. ให้ทาง กยท.คืนเงินทดรองจ่ายค่ายาง กลับมาให้ทั้ง 6 ตลาด ได้บริหารจัดการทดรองจ่ายค่ายาง ให้สมาชิกที่นำยางเข้ามาประมูลกับตลาดกลางยางพาราเหมือนเดิม 3. ให้หน่วย BU พัฒนาต่อยอดโรงงานสามที่มีอยู่ เพื่อนำยางส่วนหนึ่งแปรรูปเป็นยางอัดแท่ง ขายต่อภายในประเทศหรือต่างประเทศ และบางครั้งเก็บเข้าสต๊อก เพื่อเป็นสต๊อกแก้มลิง ชลอยางออกสู่ตลาดไว้ส่วนหนึ่ง 4. ให้ กยท.เร่งสำรวจเกษตรกรรายย่อยที่ผลิตยางแผ่นรมควัน ให้ขึ้นทะเบียนตาม พรบ.49(3) โดยเร็ว เพื่อเข้าร่วมพัฒนาตลาดกับหน่วย BU โดยเร็ว

5.ให้หน่วย BU เร่งหาผู้ร่วมโครงการแปรรูปยางพาราเป็นผลิตภัณฑ์ ทั้งสถาบันเกษตรกรและเกษตรกรรายย่อยไปพร้อมๆกัน 6. ให้ กยท.เร่งตั้งสภาเกษตรกรชาวสวนยางที่มีเกษตรกรชาวสวนยางได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยางไว้กับ กยท.เป็นสมาชิกได้ทุกคน 7. ให้หน่วย BU กำหนดราคากลางยางพาราประจำวัน ก่อน 09.00 น.พร้อมให้ผู้เข้าร่วมยื่นซองประมูล เสนอราคาก่อน 09.00 น. ทั้งนี้ได้มีการแชร์ข้อมูลดังกล่าวทางโลกโซเชี่ยลเพื่อให้กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางที่กำลังเดินทางไปยังสำนักงานตลาดกลางยางพาราในแต่ละจังหวัด

ขณะที่ราคาตลาดยางพาราท้องถิ่น ราคายางแผ่นดิบ 51.30 บาท/กก. ราคาน้ำยางสด 49.20 บาท/กก. ปรับตัวลดลง 0.40 บาท/กก.