ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค 14 จังหวัดภาคใต้ “ลดลง” เหตุราคายาง-ปาล์มผันผวน

วันที่ 1 ก.ค. ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ สำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน มิ.ย.60 จากประชาชนภาคครัวเรือน ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ 420 ตัวอย่าง พบว่าปรับตัวลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือน พ.ค.มาจากผลผลิตทางการเกษตร ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ที่ราคาปรับตัวลดลงและผันผวนต่อเนื่อง

ผศ.ดร.วิวัฒน์เปิดเผยว่าที่มีการปรับตัวลดลงได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รายได้จากการทำงาน โอกาสในการหางานทำ/ได้งานใหม่ รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า เนื่องมาจากความผันผวนของราคาปาล์มน้ำมัน และยางพารา ที่ราคาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคายางพาราเดือนมิ.ย. ที่ปรับตัวลดลง 14 บาท น้ำยางสดมีราคา 51 บาท ส่งผลให้รายได้ของประชาชนส่วนใหญ่ลดลง ทำให้การจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภค บริโภคต่างชะลอตัวและลดลง

ผศ.ดร.วิวัฒน์เปิดเผยว่ารายจ่ายด้านการท่องเที่ยว และรายจ่ายที่เกี่ยวข้องด้านอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากการเดินทางท่องเที่ยวและกลับบ้านของประชาชนอิสลามในเทศกาลฮารีรายอ และการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในช่วงฮารีรายอของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์

ผศ.ดร.วิฒน์เปิดเผยว่าผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.70 รายได้จากการทำงานเพิ่มขึ้น 32.80 ส่วนความเชื่อมั่นต่อรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว จะเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 33.40 ความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจ จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยจากราคาสินค้าเกษตร ยางพารา และปาล์มน้ำมัน

“ปัจจัยมีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมากที่สุด คือ ค่าครองชีพ คิดเป็นร้อยละ 29.50 หนี้สินครัวเรือนร้อยละ 24.20 และราคาสินค้าร้อยละ14.80 ปัญหาเร่งด่วนที่ประชาชนรัฐบาลควรให้ความช่วยเหลือเป็นอันดับแรกค่าครองชีพ หนี้สินครัวเรือน และราคาสินค้า