2 โรงแรมดัง ขานรับการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ ยกทีมผู้บริหารตะลุยฟาร์มเกษตรกรเรียนรู้ต้นทางการผลิตร่วมส่งต่อคุณค่า “ออร์แกนิก”

พัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง กับการขับเคลื่อน Organic Tourism ที่ดำเนินการโดย แล็บอาหารยั่งยืน (ประเทศไทย) ภายใต้การสนับสนุนของ สสส. โรงแรมใหญ่ขานรับร่วมขับเคลื่อน หลังพาทีมผู้บริหารโรงแรมดังระดับ 5 ดาว ในกรุงเทพฯ สำรวจต้นทางการผลิตวัตถุดิบอินทรีย์จากเกษตรกรต้นแบบในพื้นที่เครือข่ายสามพรานโมเดล มั่นใจศักยภาพ โรงแรมส่งต่อความรู้กระตุ้นให้ลูกค้า นักท่องเที่ยวเห็นคุณค่าออร์แกนิก และการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ ที่ไม่เพียงดีต่อสุขภาพคนกินคนปลูก แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดีขึ้น และเกิดผลดีตลอดห่วงโซ่อาหาร

พาชมสวนเกษตรอินทรีย์ผสมผสาน พื้นที่15 ไร่ ณ ไร่รวงข้าวภูตะวัน
ป้าลำพึง ศรีสาหร่าย ให้ความรู้การทำแปลงปลูกและสอนวิธีการปลูกสตรอว์เบอรี่

นายอรุษ นวราช ผู้ร่วมก่อตั้ง แล็บอาหารยั่งยืน (ประเทศไทย) องค์กรขับเคลื่อน Organic Tourism หรือ การท่องเที่ยววิถีอินทรีย์สู่ระบบอาหารสมดุล ซึ่งดำเนินการมากว่า 7 เดือน เปิดเผยความคืบหน้าโครงการนี้ว่า ได้รับการตอบรับที่ดีมาก จากผู้ประกอบธุรกิจ โรงแรม ร้านอาหาร ชื่อดังกว่ายี่สิบแห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และ จ.เชียงใหม่ เข้ามาเป็นพันธมิตรร่วมขับเคลื่อน รวมถึงองค์กรใหญ่ๆ อย่าง ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล และโรงแรม เดอะ สุโกศล ซึ่งเป็นโรงแรมชื่อดังระดับ 5 ดาว ในกรุงเทพฯ ที่แต่ละปีมีลูกค้า และนักท่องเที่ยวผ่านเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ทางโครงการได้นำผู้บริหารโรงแรม เจ้าหน้าที่ระดับบริหารส่วนต่างๆ รวมถึงพนักงานที่เกี่ยวข้อง ของทั้ง 2 โรงแรม ไปรู้จักเกษตรกรเครือข่ายสามพรานโมเดล เรียนรู้วิถีการทำเกษตรอินทรีย์มาตรฐานสากลและระบบรับรองแบบมีส่วนร่วม PGS

ทดลองปลูกผัดสลัด
ทดลองดำนาในพื้นที่นาจริง

 

คุณชูเลง โก ผู้จัดการทั่วไป ดิ แอทธินี โฮเทลฯ ให้เหตุผลที่เข้าร่วมขับเคลื่อน Organic Tourism ว่าโรงแรมมีนโยบายในการนำเสนออาหารออร์แกนิกให้กับลูกค้ามาสักพักแล้ว เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 17 ข้อ ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งทางโรงแรมสนใจที่หาวิธีการซื้อผัก ผลไม้อินทรีย์ จากเกษตรกรโดยตรงในราคาเหมาะสม เพื่อนำไปบริการแก่ลูกค้า และการพาเจ้าหน้าที่ระดับบริหารทุกแผนกที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ไปเจอเกษตรกรก็เพื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงกระบวนการผลิต การแปรรูป และได้สัมผัสถึงความเหนื่อยยาก ความมุ่งมั่น ของเกษตรกรที่ต้องการผลิตอาหารปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค ทำให้เกิดความเชื่อมั่นใจสามารถนำความรู้กลับไปถ่ายทอด และสื่อสารต่อลูกค้าได้อย่างมั่นใจ และมีความภูมิใจ อีกทั้งยังช่วยให้เชฟเกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ บริการลูกค้า

สำหรับ ดิ แอทธินี โฮเทลฯ มีการลงพื้นที่มาแล้วถึง 2 ครั้ง โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับบริหารทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ เชฟจากทุกครัว ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายบริการลูกค้า ฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด ฝ่ายอบรม ฝ่ายการเงิน และส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ไปเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ไปรู้จักกับเกษตรกรต้นแบบ ตามกลุ่มต่างๆ อาทิ ศึกษาการทำสวนเกษตรอินทรีย์ผสมผสาน ปลูกผัก ปลูกอ้อย ทำนา เพาะเห็ด เลี้ยงไก่ แปรรูปผลิตภัณฑ์ ของวิสาหกิจชุมชนเกษตรทฤษฎีใหม่หัวใจอินทรีย์ ดูการทำสวนฝรั่งอินทรีย์ ของกลุ่มเกษตรอินทรีย์ บางช้าง ใน จ.นครปฐม ไปเรียนรู้การปลูกผัก และผลไม้อินทรีย์ ที่ไร่รวงข้าวภูตะวัน

และสัมผัสวิถีการเลี้ยงหมูหลุม ที่ฟาร์มหมูหลุมดอนแร่ ใน จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ มีหมูกว่า 800 ตัว โดยจุดเด่นคือ เลี้ยงแบบธรรมชาติโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่มีกลิ่น และไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ หรือสารเร่งเนื้อแดงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค

และอีกจุดที่ทุกคนได้เยี่ยมชมคือ ตลาดสุขใจ ซึ่งเป็นตลาดทางเลือกของคนรักสุขภาพ จำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ประเภทข้าว ผัก ผลไม้ และผลิตภัณฑ์แปรรูปหลากหลายชนิด ของเกษตรกรเครือข่ายสามพรานโมเดล เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 8 ปี มีร้านค้ากว่า 60 ร้าน จุดเด่นของตลาดแห่งนี้นอกจาก เกษตรกรปลูกเองขายเองยังเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมคนกินได้พบกับคนปลูกเพื่อส่งมอบสุขภาพที่ดีแก่กัน

ชมแปลงผักอินทรีย์ ไร่รวงข้าวภูตะวัน

 

เก็บบรรยาากศในแปลงแครอท

 

ทว่า สิ่งที่ได้จากการลงพื้นที่นอกจากความรู้ติดตัวกลับไป หลายคนยังเก็บความประทับใจบางสิ่งที่ได้สัมผัสกลับไปด้วย เพื่อเป็นแรงบันดาลส่งต่อคุณค่าออร์แกนิก โดยเฉพาะเรื่องราวชีวิตของเกษตรกร ผู้มีความมุ่งมั่นเปลี่ยนวิถีจากเคมีสู่เกษตรอินทรีย์ อย่าง คุณอรุณี พุทธรักษา หัวหน้ากลุ่มวิสาหกิจเกษตรทฤษฎีใหม่หัวใจอินทรีย์ ที่หันมาเกษตรอินทรีย์ เพราะแม่ป่วยจากการใช้ยาฆ่าแมลง ครอบครัวเป็นหนี้ ธ.ก.ส. จากการใช้ปุ๋ยเคมี

หรือ คุณประหยัด ปานเจริญ หัวหน้ากลุ่มเกษตรอินทรีย์บางช้าง จ.นครปฐม ที่หักดิบเคมีมาทำสวนผลไม้อินทรีย์ ขณะที่หนี้สินท่วมตัว ต้องเอาที่ดินไปจำนอง เพราะสามีโดนสารเคมีเล่นงานจนต้องตัดปอดทิ้ง แต่หลังจากพบสามพรานโมเดลทำให้มีความรู้ มีตลาด จนสามารถปลดหนี้ได้ และได้ที่ดินคืน

Organic Tourism เป็นการขับเคลื่อนทางสังคม ที่ริเริ่ม โดย ดร.อุดม หงส์ชาติกุล และ คุณอรุษ นวราช ผู้ร่วมก่อตั้ง แล็บอาหารยั่งยืน (ประเทศไทย) ภายใต้การสนับสนุนของ สสส. เป้าหมายเพื่อสร้างระบบอาหารสมดุลและยั่งยืน ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร หรือเกษตรกร และทุกภาคส่วนที่อยู่บนห่วงโซ่อาหาร สามารถเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนสู่ระบบอาหารสมดุล ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมตามได้ที่ organictourismthailand.com โทร. 034-225-203