สหกรณ์ฯ เซกา หนุนเลี้ยงสุกร 3 สายพันธุ์

“แก้จน พ้นหนี้ วิถีคนเซกา” สโลแกนเด่นของสหกรณ์การเกษตรเซกา จำกัด อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ ภายใต้โครงการส่งเสริมอาชีพแก้หนี้แก้จนของคนสหกรณ์ ถือเป็นสหกรณ์ต้นแบบในการดูแลส่งเสริมอาชีพให้กับสมาชิก จนสามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับเกษตรกรในพื้นที่ได้
จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้ได้รับคัดเลือกจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ให้เป็นผลงานดีเด่นเพื่อเสนอเข้ารับรางวัลการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) ปี 2565 ประเภทร่วมใจแก้จนอีกด้วย


คุณนิ่มนวล ศรีรักษา ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเซกา จำกัด เปิดเผยว่า แต่ก่อนสหกรณ์ได้ดำเนินธุรกิจปล่อยเงินกู้ให้กับสมาชิกเพียงอย่างเดียว ส่งผลให้เกิดภาวะหนี้ค้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากสมาชิกไม่มีเงินส่งคืนสหกรณ์ แต่หลังจากมีโครงการนี้ขึ้นมา ทำให้สหกรณ์มีภาวะหนี้ค้างลดลง จากเดิมที่มีหนี้ค้างจำนวน 58 ล้านบาท ขณะนี้คงเหลือยอดหนี้ค้างเพียง 20 ล้านบาท ทั้งนี้ การเกิดหนี้ค้างดังกล่าวเป็นผลมาจากการเกิดวิกฤตราคายางพาราตกต่ำเมื่อปี 2559 ทำให้สมาชิกไม่สามารถชำระเงินคืนได้ จึงเป็นที่มาของโครงการดังกล่าว
“ชาวเซกาส่วนใหญ่มีอาชีพหลักคือทำสวนยางพารา แต่พอมีปัญหาเรื่องราคาตกต่ำ ทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ สหกรณ์จึงทำโครงการส่งเสริมอาชีพ “แก้จน พ้นหนี้ วิถีคนเซกา” โดยการสนับสนุนของกรมส่งเสริมสหกรณ์และสำนักงานสหกรณ์จังหวัดบึงกาฬ เป็นการกระตุ้นให้สมาชิกสหกรณ์ฯ เซกาหันมาประกอบอาชีพเสริมเพิ่มรายได้มากขึ้นไม่ต้องพึงพารายได้จากยางพาราเพียงอย่างเดียว”


ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเซกา จำกัด เผยต่อว่า หลังจากเปิดรับสมาชิกเข้าร่วมโครงการในปี 2560 จากนั้นได้จัดทำสมาชิกเป็นหมวดหมู่ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่และความสมัครใจของแต่ละราย อาทิ กลุ่มนาเฮาผลิตข้าวอินทรีย์ กลุ่มคนเลี้ยงสุกร กลุ่มเกษตรผสมสาน เป็นต้น จากนั้นทางเจ้าหน้าที่สหกรณ์ก็จะเข้าไปส่งเสริมอาชีพสมาชิกแต่ละรายในแต่ละกลุ่ม
“ที่เราส่งเสริมอาชีพก็คือจะดูวัตถุประสงค์พื้นเพของสมาชิกจริงๆ ว่าเขาทำอาชีพอะไร ไม่ได้ยัดเยียดให้ อย่างกลุ่มคนเลี้ยงสุกร เราก็ไม่สามารถส่งเสริมให้ได้ทุกราย เพราะด้วยสภาพพื้นที่และกลิ่นต้องไม่รบกวนชาวบ้านด้วย”


คุณนิ่มนวล กล่าวถึงกลุ่มคนเลี้ยงสุกรว่า สมาชิกจะต้องมีความสนใจและมีวินัยมากกว่ากลุ่มอื่นๆ เนื่องจากเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงสูง ส่วนการส่งเสริมจะดำเนินการแบบครบวงจร ตั้งแต่เริ่มแรกการสร้างคอกโดยให้สมาชิกกู้รายละไม่เกิน 3 หมื่นบาทปลอดดอกเบี้ย จากนั้นก็สนับสนุนลูกสุกรขุนให้สมาชิกรายละ 10 ตัว จากพ่อแม่พันธุ์สุกรสายพันธุ์สวนยาง พร้อมกับหัวอาหาร โดยสหกรณ์ร่วมกับบริษัทผลิตอาหารสูตรเฉพาะสำหรับสุกรสายพันธุ์ดังกล่าวให้กับทางสหกรณ์โดยตรงโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
“เรื่องตลาดก็จะมีคณะกรรมการฯ ดูแล พ่อค้ารายไหนให้ราคาแพงที่สุดเราก็จะให้รายนั้นจับในเดือนนั้น แต่สิ่งที่อยากจะต่อยอดต่อไปก็คือการตั้งกลุ่มแปรรูปสุกร บางครั้งเราไม่สามารถส่งออกนอกได้ ปกติสุกรของสมาชิกจะส่งไปนครพนม สปป.ลาว และเวียดนาม พอเกิดวิกฤตโควิด-19 เมื่อเราไม่สามารถเคลื่อนย้ายสุกร ตัวเป็นๆ ได้ ก็อยากจะตั้งกลุ่มเพื่อแปรรูปเนื้อสุกรขึ้นมา เช่น การสไลซ์เนื้อ การทำกุนเชียง เป็นต้น” ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเซกา จำกัด กล่าว


คุณสมัคร พิมพิลา อายุ 46 ปี เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์การเกษตรเซกา จำกัด อดีตเด็กช่างยนต์ที่หันมาเอาดีด้านอาชีพการเลี้ยงสุกร 3 สายพันธุ์ ปัจจุบันรั้งตำแหน่งประธานกลุ่มคนเลี้ยงสุกร ของสหกรณ์การเกษตรเซกา จำกัด ปัจจุบันมีสมาชิกอยู่จำนวน 52 ราย เล่าว่า เริ่มเลี้ยงสุกรอย่างเต็มตัวมาตั้งแต่ปี 2558 หลังจากลาออกจากงานที่วิทยาลัยการอาชีพเซกา เริ่มแรกทำเป็นอาชีพเสริม เพราะต้องการมูลสุกรมาผลิตปุ๋ยชีวภาพใส่สวนยางพาราเพื่อลดต้นทุนการผลิตจากวิกฤตราคาปุ๋ยเคมีแพง หลังเลี้ยงมาระยะหนึ่งเห็นว่าสร้างรายได้ดี ทำให้เขามีความคิดต่อยอดปรับปรุงพัฒนามาเป็นอาชีพหลัก จึงทำให้มีการศึกษาวิธีการเลี้ยงสุกรอย่างจริงจัง โดยเริ่มต้นซื้อพ่อแม่พันธุ์ดูร๊อค ลาธุ์จไวร์ และแลนด์เรซ จากฟาร์มสุกรในจังหวัดบุรีรัมย์และราชบุรีจำนวน 10 ตัวเพื่อนำมาพัฒนาเป็นสุกร 3 สายพันธุ์เลือดนิ่ง ถึงวันนี้มีสุกรขุน 3 สายพันธุ์ที่เลี้ยงไว้ในฟาร์มพร้อมจำหน่ายจำนวน 160 ตัว นอกจากนี้ ยังผลิตน้ำเชื้อสุกรจำหน่ายให้กับสมาชิกกับเกษตรกรที่สนใจทุกวันเฉลี่ยวันละ 5-10 หลอด สนนในราคาหลอดละ 200-300 บาท ส่วนสุกรโตเต็มวัยสนนในราคากิโลกรัมละ 98-100 บาท เฉลี่ยตัวละ 100-110 บาทต่อกิโลกรัม ระยะการเลี้ยงใช้เวลา 100-120 วันหรือประมาณ 4 เดือนก็สามารถจับจำหน่ายได้
“รายได้ตอนนี้มาจากการขายน้ำเชื้อ ส่วนหมูโตก็จะขายให้กับทางสหกรณ์และสมาชิกที่มีเขียงประจำ ส่วนยางพารามีอยู่ 9 ไร่และปาล์มน้ำมันอีก 1 ไร่ และกำลังทำแปลงปลูกเพิ่ม แต่รายได้หลักตอนนี้กลายเป็นว่ามาจากการเลี้ยงหมู” ประธานกลุ่มคนเลี้ยงสุกรคนเดิมกล่าว
สำหรับสหกรณ์การเกษตรเซกา จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2520 ปัจจุบันมีสมาชิก จำนวน 2,087 ราย มีทุนดำเนินงานกว่า 43 ล้านบาท ธุรกิจหลักของสหกรณ์ ได้แก่ ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย และธุรกิจรับฝากเงิน สมาชิกสหกรณ์ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำการเกษตร โดยมีพืชหลักที่สำคัญได้แก่ ยางพารา ข้าว ปาล์มน้ำมัน และมันสำปะหลัง