บ้านไร่ธรรมโชติ ผลผลิตติดดิน ศูนย์รวมพืชออร์แกนิก

เรื่องสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการดำรงชีวิตของมนุษย์ การเลือกอาหารในการกินในชีวิตประวันจำวันให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการและเน้นเรื่องความปลอดภัย กลายเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว ที่ทำให้หลายๆ คนหันกลับมาดูแลตนเองกันมากขึ้น


เช่นเดียวกับ คุณประจักษ์ ธรรมโชติ แห่งบ้านไร่ธรรมโชติ ในพื้นที่บ้านหนองไผ่ หมู่ที่ 5 ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่เนรมิตผืนดินของตนเองให้มีมูลค่า เน้นวิถีอินทรีย์ ปลูกพืชมากมายหลายชนิด ทั้งผักสลัด ผักสวนครัว สับปะรด และของดีที่ดีห้ามพลาดคือ กาแฟโรบัสต้าแห่งบ้านไร่ธรรมโชติ ในพื้นที่กว่า 2 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าแรกในพื้นที่หัวหิน ด้วยรสชาติที่แตกต่าง หวานหอมละมุนลิ้น จึงกลายเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น หากใครได้ลิ้มลอง รับรองต้องกลับมาซ้ำอีกแน่นอน พร้อมทั้งการันตีรางวัลชนะลิศ สาขาเกษตรอินทรีย์ ประจำปี 2566

บ้านไร่ธรรมโชติ แหล่งรวมพืชเพื่อสุขภาพ
หากเล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นของการลงมือทำบ้านไร่ธรรมโชติ พี่ประจักษ์ เล่าให้เราฟังว่า เริ่มต้นจากการปลูกขนุนในพื้นที่ แต่แล้วก็ต้องถอนต้นขนุนทั้งหมดที่มีทิ้ง เพื่อทำการปลูกสับปะรดแทนตามการปลูกของเกษตรกรในพื้นที่รอบข้าง เมื่อเวลาผ่านไปก็ทำให้รู้ว่าการปลูกสับปะรดนั้นใช้ต้นทุนที่เยอะ แต่ได้ผลตอบรับน้อย ไม่คุ้มค่า จึงมองหาลู่ทางในการพัฒนา จึงเข้าร่วมกับกลุ่มสับปะรดหัวหิน จึงได้เรียนรู้การปลูกพืชใบ ผักสวนครัวชนิดต่างๆ และการปลูกสับปะรดแบบไม่ใช้สารเคมี ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ประกอบกับในช่วงปี 2557 ได้มีโอกาสไปดูการทำไร่กาแฟที่ป่าหมาก และได้เข้าไปช่วยในเรื่องของการทำการตลาด เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับกาแฟ โดยได้เจอกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านกาแฟอย่าง “คุณก้อง คอฟฟี่” จึงพูดคุยและได้ความรู้เกี่ยวกับการปลูก การแปรรูปให้กับกาแฟ ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่ท้าท้ายมากสำหรับพี่ประจักษ์ที่จะปลูกกาแฟในพื้นที่ของอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์


“ต้องเล่าก่อนว่าผมไม่ใช่คนพื้นที่ จนกระทั่งมีแฟนเป็นคนหัวหินครับ ก็เลยเริ่มทำจากการปลูกขนุน เห็นชาวบ้านรอบข้างเขาปลูกสับปะรด ก็เลยโละต้นขนุนที่มีทั้งหมดออกครับ และทำการปลูกสับปะรด จากนั้นประมาณ 4-5 ปี ก็ทำให้รู้ว่าการปลูกนั้นต้องใช้ต้นทุนที่ค่อนข้างเยอะ ผลตอบแทนน้อย จึงคิดเล่นๆ ว่า มีอย่างอื่นที่ลงมือทำแล้วได้รายได้มากกว่าสับปะรดหรือไม่ จึงไปเข้ากลุ่มสับปะรดของหัวหิน ก็เริ่มศึกษาเรื่องผักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งการปลูกพืชใบ ผักในครัวเรือน เริ่มปลูกในพื้นที่ประมาณครึ่งงาน จากนั้นก็เริ่มออกขายกับทางกลุ่ม จึงทำให้มีรายได้มากขึ้นครับ ก็เลยขยายเรื่องพืชใบ พร้อมกับการทำสับปะรดที่ไม่ใช้สารเคมี และตามด้วยการปลูกกาแฟโรบัสต้าในพื้นที่ครับ ส่วนเหตุผลที่เลือกปลูกแบบออร์แกนิกนั้น เป็นเพราะเคยไปกินถั่วฝักยาวที่ร้านแห่งหนึ่ง ที่มีการใช้สารเคมีในการปลูก ทำให้เกิดความเมา จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการที่จะลงมือปลูกพืชแบบออร์แกนิกครับ”


เป็นระยะเวลากว่า 6 ปี ที่บ้านไร่ธรรมโชติมุ่งมั่นที่จะปลูกพืชและพัฒนาผลผลิต เพื่อให้ถึงมือลูกค้าอย่างมีคุณภาพ โดยคำนึงถึงเรื่องสุขภาพของผู้บริโภคเป็นหลัก ทั้งการปลูกผักสลัดอินทรีย์ สับปะรดอินทรีย์ รวมถึงกาแฟ ที่ถือว่าเป็นไฮไลต์เด็ด ที่ใครๆ ต่างต้องเดินทางมาลิ้มลองรสชาติ ต้องกระซิบบอกว่าต้องห้ามพลาดเลยทีเดียว

เจ้าแรกในหัวหิน นำปลูกกาแฟโรบัสต้า
การปลูกกาแฟในพื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกใหม่พอสมควร เพราะพื้นที่ สภาพอากาศ และปัจจัยหลายๆ อย่าง ภายใต้ความคิดที่ว่าเมื่อปลูกพืชชนิดใดในพื้นที่ก็ได้ผลผลิตดี เพราะฉะนั้นการปลูกกาแฟคงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป พี่ประจักษ์จึงถือว่าเป็นเจ้าแรกที่นำกาแฟโรบัสต้ามาปลูกในพื้นที่ ซึ่งกาแฟที่นำมาปลูกคือสายพันธุ์โรบัสต้า


เมื่อนำผลผลิตของกาแฟที่ปลูกนำออกขายสู่ตลาด ได้รับผลตอบรับที่ดีเกินความคาดหมายเป็นอย่างมาก เพราะกาแฟโรบัสต้ายังคงเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าไทยและกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติเพราะด้วยกลิ่นหอมและรสชาติเฉพาะตัว จึงทำให้เป็นที่ดึงดูดกลุ่มลูกค้าต่างชาติได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะลูกค้าชาวเยอรมนี

ปลูกพืชหมุนเวียน เพิ่มผลผลิต
ภายในบ้านไร่ธรรมโชตินั้น จะมีการปลูกพืชหมุนเวียนกันไป มีการวางแผนการปลูกพืชตลอดปี เพื่อให้มีช่องทางการเข้ามาของรายได้ รวมถึงเน้นการปลูกพืชโดยการใช้สารชีวภาพในการกำจัดศัตรูพืชที่เกิดขึ้นในพืชต่างๆ ที่ปลูกภายในไร่


“ระหว่างที่รอกาแฟโต เราก็จะเก็บสับปะรดเป็นทุนไว้ทำอย่างอื่นต่อได้ ก็เห็นว่าสับปะรดก็ได้ผล ผักใบก็ได้ผล กาแฟจึงกลายเป็นแผนระยะกลาง 2 ปีขึ้นไปก็จะมีลูก สามารถเก็บเกี่ยวเพื่อจำหน่ายได้”
สำหรับท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับผลผลิตแบบออร์แกนิกแท้ๆ สามารถติดต่อ คุณประจักษ์ ธรรมโชติ ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก : บ้านไร่ธรรมโชติ Banrai Thummachot หรือเบอร์โทร. 081-378-0585 คุณประจักษ์ยินดีต้อนรับทุกท่านที่ต้องการนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดและพัฒนาค่ะ