มันสำปะหลัง พืชปลูกง่าย กำไรงาม

มันสำปะหลัง คือพืชหัวชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นไม้พุ่มยืนต้น มีอายุอยู่ได้หลายปี และยังสามารถเลือกใช้ประโยชน์จากมันสำปะหลังได้หลายอย่าง

มันสำปะหลัง ที่ประเทศไทยสามารถปลูกได้นั้น มีเพียง 2 ชนิด คือชนิดหวานและชนิดขม

มันสำปะหลังชนิดหวาน จะเป็นมันที่มีกรดไฮโดรไซยานิกต่ำ มีทั้งชนิดเนื้อที่มีความเหนียวและนุ่ม เนื่องจากมันสำปะหลังชนิดนี้ มีไว้สำหรับการบริโภคของมนุษย์ ส่วนชนิดที่มีความขม เกิดจากการที่มันสำปะหลังมีกรดไฮโดรไซยานิกสูง เป็นพิษ และมีรสขม ไม่เหมาะสำหรับการบริโภคของมนุษย์ หรือแม้กระทั่งการนำเอาหัวมันสดๆ ไปเลี้ยงสัตว์ แต่มันสำปะหลังประเภทนี้ จะเหมาะใช้สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น เพื่อการแปรรูปในรูปแบบต่างๆ เช่น แป้งมัน มันอัดเม็ด และแอลกอฮอล์ เป็นต้น เนื่องจากมีปริมาณแป้งสูง มันสำปะหลังที่ปลูกในประเทศไทยส่วนใหญ่จึงนิยมใช้มันสำปะหลังชนิดขมในอุตสาหกรรมเท่านั้น

ต้นมันสำปะหลัง เติบโตใกล้สมบูรณ์
ต้นมันสำปะหลัง เติบโตใกล้สมบูรณ์

ในประเทศไทยมีหลายจังหวัดที่ปลูกมันสำปะหลัง เช่น นครราชสีมา ชลบุรี ระยอง ฯลฯ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีจังหวัดกาญจนบุรีรวมอยู่ด้วย พื้นที่ส่วนใหญ่จะต้องเป็นที่ราบ ที่เหมาะแก่การปลูกมันสำปะหลัง โดยเฉพาะในอำเภอด่านมะขามเตี้ย จะมีพื้นที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยดงอ้อยและไร่มันสำปะหลังที่มีให้เห็นแทบทุกซอกทุกมุมของอำเภอ

 

สารวัตรกำนันหัวใจเกษตร

คุณเทียน พิมพ์แจ่ม สารวัตรกำนันของหมู่บ้านท่าพุ ตำบลด่านมะขามเตี้ย อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้ใช้เวลาว่างจากงานหลักมาสร้างอาชีพเสริม ด้วยการปลูกมันสำปะหลัง

คุณเทียน พิมพ์แจ่ม เจ้าของไร่มันสำปะหลัง
คุณเทียน พิมพ์แจ่ม เจ้าของไร่มันสำปะหลัง

คุณเทียน มีความคิดจะปลูกมันสำปะหลังเพื่อสร้างรายได้อีกทาง เพราะเห็นว่าชาวบ้านในพื้นที่ละแวกอำเภอด่านมะขามเตี้ย ใช้พื้นที่ส่วนใหญ่ในการสร้างอาชีพเกษตรกรรม โดยพืชที่ปลูกจะอยู่ในกลุ่มพืชไร่ อาทิ อ้อย มันสำปะหลัง อาจมีกลุ่มผักบ้าง เช่น ต้นหอม และหน่อไม้ฝรั่ง ซึ่งอย่างหลังถือได้ว่าเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่ขึ้นชื่อที่สุดในอำเภอด่านมะขามเตี้ยของจังหวัดกาญจนบุรี

เนื่องจากคุณเทียนมีพื้นที่ว่างเปล่าอยู่บริเวณนั้น คุณเทียนจึงตัดสินใจพัฒนาพื้นที่ว่างเปล่าให้เป็นไร่มันสำปะหลัง พร้อมกับเช่าพื้นที่เพิ่มเพื่อปลูกอ้อย โดยเป็นการแบ่งพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง ทั้งหมด 13 ไร่ และปลูกอ้อยอีกจำนวน 10 ไร่ ซึ่งคุณเทียนได้อาศัยเวลาส่วนที่ว่างเว้นจากการทำงานในอาชีพหลักมาปลูกและดูแลไร่มันสำปะหลังของตนเอง

 

ขั้นตอนการปลูก ในแบบของคุณเทียน

คุณเทียน เผยถึงวิธีการปลูกมันสำปะหลังที่เหมาะสมว่า สิ่งที่ควรทำขั้นแรกคือ การเตรียมความพร้อมของสภาพพื้นดินที่ต้องใช้ในการเพาะปลูก โดยต้องสังเกตที่ดินก่อนเสมอ หากดินในพื้นที่นั้นเพาะปลูกติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี ควรที่จะปรับปรุงดิน เพื่อเป็นการรักษาระดับผลผลิตในช่วงระยะยาว ด้วยการใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเปลือกมันชนิดเก่าค้างปี ที่สามารถหาได้จากโรงแป้งในท้องถิ่นทั่วไป หรือจะปลูกพืชตระกูลถั่ว เพื่อหมุนเวียนบำรุงดิน ในกรณีที่พื้นที่เป็นประเภทหญ้าคา สามารถใช้ยาฆ่าหญ้าในแบบทั่วไป หรือจะเลือกใช้วิธีการกำจัดวัชพืชแบบไร้สารเคมีก็ได้ ซึ่งควรฉีดกำจัดก่อนเริ่มการไถ

“การไถครั้งแรก ควรเป็นการไถเพื่อกลบวัชพืชก่อนการปลูก โดยจะไถให้ลึก ประมาณ 20-30 เซนติเมตร แล้วทิ้งดินที่ถูกไถไว้ ประมาณ 1 เดือน หรือน้อยกว่านั้น เพื่อหมักวัชพืชเป็นปุ๋ยในดินต่อไป ต่อจากนั้นไถพรวนด้วยผาลอีก 1-2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และจากนั้นเราก็ต้องรีบปลูกโดยเร็ว ในขณะที่ดินยังอมความชุ่มชื้นไว้ในพื้นดินอยู่”

หลังจากเตรียมดินเรียบร้อย สิ่งที่ควรทำต่อจากนี้คือ การหาท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง โดยท่อนพันธุ์ที่ใช้ต้องมีความสดและมีอายุประมาณ 10-12 เดือน ต้องตัดไว้ไม่เกิน 15 วัน โดยตัดให้มีความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร ในส่วนของท่อนพันธุ์มันจะต้องมีตาไม่น้อยกว่า 5 ตา เพื่อป้องกันเชื้อราและศัตรูพืชต่างๆ ควรจุ่มท่อนพันธุ์ในยากำจัดศัตรูพืช 1.6 ขีด (160 กรัม) ผสมร่วมกับมาลาไธออนหรือสารกำจัดแมลง 20 ซีซี ในน้ำ ต่อ 1 ลิตร ประมาณ 5 นาที ก่อนเริ่มต้นการปลูก

ch-4

จากนั้นปลูกแบบขั้นตอนตามปกติ ปักท่อนพันธุ์มันเป็นแถวแนวตรง เพื่อความสะดวกในการบำรุงรักษาและกำจัดวัชพืชในช่วงที่ดูแล โดยใช้ระยะระหว่างแถว 1.30 เมตร ระยะระหว่างต้น 70 เซนติเมตร และปักท่อนพันธุ์ให้ตั้งตรงลึกในดินประมาณ 10 เซนติเมตร

“หลังจากที่เราปลูกมันสำปะหลังไปแล้ว ในช่วงฤดูฝนเป็นช่วงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะด้วยสภาพดินที่กำลังชื้นเนี่ย อาจทำให้หญ้าขึ้นรบกวนการเติบโตของต้นมัน เราจึงต้องใช้ยากำจัดพวกหญ้าเหล่านี้ โดยเราใช้ยาไดยูรอน ซึ่งจะฉีดทันทีหลังจากการปลูกไม่เกิน 3 วัน หรือก่อนที่ต้นมันจะงอก เพราะถ้าฉีดหลังจากที่ต้นมันงอกหรือโตมาแล้ว ต้นมันของเราอาจจะสร้างความเสียหายได้” คุณเทียน กล่าว

 

ดูแลไร่ ด้วยการใส่ปุ๋ย

จะสังเกตได้ว่า อุปสรรคที่สำคัญของการปลูกมันสำปะหลังก็คือ เหล่าวัชพืชที่คอยก่อกวนและสร้างความเสียหายให้กับผลผลิตอยู่ตลอดเวลา

การดูแลด้วยการใส่ปุ๋ยให้กับมันสำปะหลัง ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพืชที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูงมาก เมื่อเทียบกับพืชประเภทอื่นๆ ดังนั้น จึงต้องการธาตุอาหารจากดินเป็นจำนวนมาก เมื่อมีการปลูกมันสำปะหลังติดต่อกันหลายปีในพื้นที่เดิม ก็จะทำให้ธาตุอาหารในดินเกิดลดลงตามลำดับ จึงเป็นผลให้ผลผลิตของมันสำปะหลังลดลงตามไปด้วย ดังนั้น การปลูกมันสำปะหลังจึงจำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเพื่อเพิ่มผลผลิตและรักษาระดับความอุดมสมบูรณ์ของดิน

คุณเทียน เผยถึงวิธีการกำจัดวัชพืชและการดูแลไร่มันสำปะหลังว่า เขาได้กำจัดวัชพืช 1 ครั้ง ในรอบ 30-40 วัน นับจากวันที่ปลูก โดยใช้รถไถคันเล็กเดินตาม หรือจานพรวนกำจัดวัชพืช ซึ่งจะติดอยู่บริเวณท้ายรถแทรกเตอร์ พร้อมทั้งใส่ปุ๋ย สูตร 15-15-15 ในอัตรา 25-50 กิโลกรัม ต่อไร่ โดยจะใส่ปุ๋ยให้ห่างจากต้นมัน 1 คืบ หรือประมาณ 20 เซนติเมตร

ต่อจากนั้นจึงใช้จอบกำจัดวัชพืชส่วนที่เหลือ พร้อมกับกลบปุ๋ยไปด้วย หรือใส่ปุ๋ยโดยการขุดหลุม ห่างจากโคนต้นประมาณ 1 คืบ แล้วกลบดินตามก็ได้ และสิ่งที่สำคัญควรใส่ปุ๋ยในขณะที่ดินมีความชื้นอยู่

ส่วนการกำจัดวัชพืชในครั้งที่ 2 จะเป็นในช่วง 60-70 วัน หลังการปลูก โดยปฏิบัติเช่นเดียวกันกับครั้งแรก พอถึงการกำจัดวัชพืช ครั้งที่ 3 ให้ทำตามความจำเป็น โดยใช้จอบถาก หรือฉีดพ่นด้วยยากรัมม็อกโซน (ควรใช้ฝาครอบหัวฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้ยาโดนตาและลำต้นมัน)

หัวมันสำปะหลัง เมื่อโตเต็มวัย
หัวมันสำปะหลัง เมื่อโตเต็มวัย

การตลาดของมันสำปะหลัง

เมื่อครบกำหนดการเก็บผลผลิตที่ใช้ระยะเวลาอันยาวนาน ประมาณ 1 ปี หรืออย่างเร็วที่สุดคือ 7-8 เดือน มันสำปะหลังที่เติบโตอย่างสมบูรณ์แบบ จะถูกขุดขึ้นจากดินและบรรทุกไปยังโรงงานที่รับซื้อมัน เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับโรงงานในตัวจังหวัดอีกที

โดย คุณเทียน กล่าวว่า การปลูกมันสำปะหลัง เราต้องทำใจในเรื่องต้นทุน เพราะใช้เงินลงทุนสูง ไม่ว่าจะเป็นการจ้างแรงงาน ค่าเช่ารถ รวมไปถึงค่าปุ๋ยหรือสารเคมีต่างๆ ซึ่งกำไรของการผลิตมันสำปะหลังนั้น จะขึ้นอยู่กับราคาที่ทางตลาดมันกำหนดไว้ ถ้าอยู่ในช่วงที่มันสำปะหลังราคาดี เราก็ได้กำไรเยอะ แต่ถ้าไม่ดี กำไรก็อาจจะน้อยตามราคา นอกจากนี้ ราคาขายมันสำปะหลังจะสูงหรือต่ำก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของมันสำปะหลังที่ปลูก

คุณเทียน ยังบอกต่อถึงผู้ที่สนใจหรืออยากจะลองปลูกมันสำปะหลังอีกว่า การที่จะทำอาชีพปลูกมันสำปะหลัง ต้องมีความอดทนสูง เพราะการที่มันสำปะหลังจะเติบโตได้ มันต้องใช้เวลานานถึงปีต่อปีเลยทีเดียว และสิ่งที่สำคัญคือ เราต้องใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต เพราะสุดท้ายแล้ว เมื่อผลผลิตออกมาจะมีคุณภาพหรือไม่ คนที่ต้องยอมรับสภาพของมันสำปะหลังที่โตมา ก็คือเราผู้เป็นคนผลิตนั่นเอง

ทั้งนี้ หากท่านผู้อ่านสนใจที่จะสร้างอาชีพปลูกมันสำปะหลัง ก็สามารถปรึกษาได้ที่ คุณเทียน พิมพ์แจ่ม ที่ 84 หมู่ที่ 3 ตำบลด่านมะขามเตี้ย อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี รหัสไปรษณีย์ 71260 หมายเลขโทรศัพท์ (085) 808-2198