ยอใหญ่ท่าลี่ ของดีปลาส้ม ถิ่นยางพารา มนต์เสน่ห์ท่องเที่ยวชุมชน “บ้านท่าลี่”

“บ้านท่าลี่” หมู่บ้านเล็กๆ ริมลำน้ำสงครามในตำบลโซ่ อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ เป็น 1 ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอโซ่พิสัย ท่าลี่ ได้รับการยกย่องว่าเป็น “มนต์เสน่ห์แห่งแม่น้ำสงคราม” เพราะมีเอกลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามของ “แก่งหิน-สายน้ำ”

แก่งหินท่าลี่

จังหวัดบึงกาฬ โดย สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดบึงกาฬ คัดเลือกให้ “บ้านท่าลี่” เป็นหนึ่งในชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี หรือเรียกสั้นๆ ว่า “แอ่งเล็ก เช็คอิน” โดยสนับสนุนงบประมาณให้กับชุมชนบ้านท่าลี่ จัดอบรมความรู้เพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่ผู้นำชุมชน ส่งเสริมให้ชาวบ้านร่วมกันค้นหาอัตลักษณ์ของชุมชน และมีส่วนร่วมในวางแผนการท่องเที่ยว พัฒนาภูมิปัญญาพื้นบ้านสู่ผลิตภัณฑ์ OTOP พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน ส่งเสริมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน และอาหารพื้นถิ่น เพื่อสร้างจุดขายดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าไปเยี่ยมชม ใช้จ่ายเงินเป็นค่ากินอยู่ และซื้อสินค้าโอท็อปติดมือกลับบ้าน ช่วยกระจายรายได้สู่ผู้คนในชุมชนอย่างทั่วถึง 

รู้จัก “บ้านท่าลี่”

หมู่บ้านท่าลี่ กำเนิดขึ้นโดย พ่อกะลัง อำนวยการ ซึ่งแต่เดิมพักอาศัยอยู่ที่ดงน้ำพี โพนพิสัย จังหวัดหนองคาย พ่อกะลัง ได้ค้นพบพื้นที่ของหมู่บ้าน เมื่อปี 2449 ระหว่างล่องหาปลามาตามแม่น้ำสงคราม ไปบ้านหนองตะไคร้ จังหวะนั้นเป็นช่วงหน้าแล้ง พ่อกะลัง ได้เจอหินโบราณ มีถ้ำและน้ำตก จึงได้ย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากที่ชุมชนแห่งนี้ หลังจากนั้น ปี พ.ศ. 2479 ได้ก่อตั้งวัดประจำหมู่บ้านขึ้น คือวัดนาสวารี ต่อมาปี พ.ศ. 2509 ได้จัดตั้งเป็นหมู่บ้านท่าสวาท หมู่ที่ 9 และแยกตัวออกมาเป็นบ้านท่าลี่ หมู่ที่ 14 จนถึงปัจจุบัน

มาท่าลี่ต้องมาชม “ยกยอใหญ่”

“จำลอง ลาภอาสา” ผู้ใหญ่บ้านท่าลี่ หมู่ที่ 14 เล่าให้ฟังว่า บ้านท่าลี่ มีลำน้ำสงครามไหลผ่าน ชุมชนแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ เรียกว่า “แก่งหินบ้านท่าลี่” ตั้งอยู่กลางลำน้ำสงคราม แก่งหินมีขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นช่องลอดของลำน้ำ ชาวบ้านเรียกว่า “หลี่” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน “ท่าลี่” นั่นเอง หมู่บ้านแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์มาก เพราะมีน้ำกินน้ำใช้สอย สำหรับเพาะปลูกพืชและทำประมงได้ตลอดทั้งปี

ชาวบ้านท่าลี่ส่วนใหญ่ปลูกยางพาราเป็นรายได้หลักเลี้ยงดูครอบครัว ปลูกข้าวเพื่อยังชีพ หลังทำสวนยางพาราเสร็จในแต่ละวัน ผู้หญิงจะใช้เวลาว่างปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และทอผ้าไหม บางรายใช้เวลาว่างไปเก็บต้นกกในท้องนา หรือริมลำน้ำมาใช้ทอเสื่อกก หรือสาด ในภาษาอีสาน แต่ละวันจะทอเสื่อได้หนึ่งผืน ขายเสื่อในราคาผืนละ 100 บาท แต่ละเดือนจะมีรายได้หมุนเวียนหลายพันบาท

อาหารพื้นถิ่นรสอร่อย

อาชีพประมงในแม่น้ำสงครามที่บ้านท่าลี่

นักท่องเที่ยวที่มาเยือนชุมชนแห่งนี้ “หากไม่ได้กินปลา ก็มาไม่ถึงท่าลี่” เพราะปลา คือ อาหารพื้นถิ่นที่ขึ้นชื่อของชุมชนแห่งนี้ วิถีชีวิตประมงพื้นบ้านของที่นี่  จะหาปลา โดยใช้เบ็ดตกปลา หว่านแห และใช้ “ยอใหญ่” อุปกรณ์จับปลาที่มีชื่อเสียงของท้องถิ่น จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของคำขวัญประจำท้องถิ่น คือ “ดินแดนน้ำใส ยอใหญ่ท่าลี่ ของดีปลาร้าปลาส้ม อุดมถิ่นยางพารา ศาลปู่ย่าศรีสุทโธ ผู้คนหลั่งไหล ท่าน้ำศรีสมัย ร่วมใจสะพานมิตรภาพ”

ปลาที่ชาวบ้านจับได้นิยมนำมาแปรรูปเป็นปลาร้า ปลาส้ม ปลาร้าบอง จนกลายเป็นอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ นิยมใช้ต้อนรับนักท่องเที่ยว จนหลายคนเกิดความประทับใจในรสชาติความอร่อยมิรู้ลืม ทั้งเมนูส้มตำ ลาบปลา ต้มยำปลา ปลาส้มทอด และกล้วยเชื่อม

เรียกว่า ใครมาบึงกาฬ อยากได้ปลาร้า ปลาส้ม อย่าลืมนึกถึงบ้านท่าลี่ แวะเวียนมากินปลาสดๆ จากแม่น้ำสงคราม พร้อมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหารที่หลากหลายและผลิตภัณฑ์พื้นเมืองเอกลักษณ์ของชาวบ้านท่าลี่แห่งบึงกาฬ 

จุดเช็คอิน “บ้านท่าลี่”

คุณจำลอง ลาภอาสา ผู้ใหญ่บ้านท่าลี่

“แม่น้ำสงคราม” เป็นแนวแบ่งเขตระหว่างจังหวัดบึงกาฬกับจังหวัดสกลนคร นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทัศนียภาพตลอดแนวสะพานข้ามแม่น้ำสงคราม ทางเชื่อมต่อระหว่างบึงกาฬ-สกลนคร ได้ที่ “บ้านท่าลี่” หมู่ ที่ 14 ตำบลโซ่ อำเภอโซ่พิสัย

นักท่องเที่ยวที่มาเยือนบ้านท่าลี่ จะได้ล่องแพ และลงเล่นน้ำแก่งหินท่าลี่ ในช่วงฤดูแล้ง ประมาณเดือนมกราคม-เมษายน และร่วมกิจกรรมล่องเรือชมธรรมชาติแม่น้ำสงคราม ในช่วงฤดูน้ำหลาก ประมาณเดือนพฤษภาคม-กันยายน หากมาช่วงเดือนมกราคม-เมษายน นักท่องเที่ยวจะได้ร่วมกิจกรรมนอนนับดาว เท้าติดดิน หินบำบัด

แวะมาที่บ้านท่าลี่ ห้ามพลาดชม “แหล่งอนุรักษ์พันธุ์ปลา” ที่ท่าน้ำศรีสมัยและชมวิถีชีวิตการหาปลาด้วยอุปกรณ์ที่ขึ้นชื่อที่สุดของบ้านท่าลี่ อย่าง ยอใหญ่ หรือ สะดุ้ง (ภาษาอีสาน) ตามสโลแกนที่ว่า “มาท่าลี่ต้องมายกยอใหญ่” นอกจากนี้ ยังมีแก่งหินขนาดใหญ่ที่มีความสวยงาม และธารหินดวงจันทร์ที่เป็นแก่งหินขรุขระคล้ายพื้นผิวดวงจันทร์ บ้านท่าลี่มีตำนานหลี่ผี เรื่องราวลี้ลับที่ชาวบ้านเล่าต่อกันมาว่า ครั้งหนึ่งเคยมีคนตกลงไปในช่องหินที่เรียกว่า หลี่ แต่รอดตายได้เพราะไปโผล่มาออกที่ปากถ้ำ เรียกว่า “หลี่ผี”

การเดินทางสู่ บ้านท่าลี่

เสื่อกก สินค้าขายดีของบ้านท่าลี่

เนื่องจาก “บ้านท่าลี่” ไม่มีพิกัดใน GPS นักท่องเที่ยวสามารถขับรถไปตามเส้นทาง อำเภอโซ่พิสัย ไปอำเภอเฝ้าไร่ จังหวัดหนองคาย ประมาณกิโลเมตรที่ 12 บ้านห้วยทราย จะมีป้ายเลี้ยวซ้ายไปบ้านท่าสวาท ระยะทางหลังจากเลี้ยวซ้ายกว่าจะถึงที่หมาย ประมาณ 5 กิโลเมตร เมื่อถึงบ้านท่าสวาท เป้าหมายต่อไปก็คือ ท่าลี่ สัญลักษณ์ของบ้านท่าลี่ คือ ศาลหลักเมือง กลางสี่แยก

ภายในชุมชนแห่งนี้ ชาวบ้านพร้อมให้บริการบ้านโฮมสเตย์ กว่า 15 หลังคาเรือน บ้านพักสะอาด และใส่ใจให้ความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวทุกรายเป็นสำคัญ หากสนใจใช้บริการที่พักโฮมสเตย์บ้านท่าลี่ ติดต่อได้ที่ คุณอุสาห์ ลาภอาสา ประธานกลุ่มโฮมสเตย์ โทร. (097) 005-9266 หรือ คุณสุภาลินี จารย์โพธิ์ คณะกรรมการชุมชนท่องเที่ยวบ้านท่าลี่ โทร. (081) 729-8913

ปลาแดดเดียวของบ้านท่าลี่

หากมีข้อสงสัยประการใด สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณจำลอง ลาภอาสา ผู้ใหญ่บ้านท่าลี่ โทร. (061) 427-8153 และ คุณทะนูสร แสงสุวรรณ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน โทร. (098) 208-0251