| ที่มา | สัตว์เลี้ยงสวยงาม |
|---|---|
| ผู้เขียน | ปิยพร วิสระพันธุ์ |
| เผยแพร่ |
“เต่าซูลคาต้า” หรือ เต่าเดือยแอฟริกา เป็นเต่าบกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก หรือมีขนาดที่รองลงมาจากเต่ายักษ์กาลาปากอส และเต่ายักษ์อัลดาบรา เต่าซูลคาต้าจัดเป็นเต่าที่มีลักษณะกระดองที่แบนราบ เมื่อยังอยู่ในวัยเล็ก ลำตัวมีสีขาวไปจนถึงสีน้ำตาลเหลือง เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นและตัวเต็มวัยสีของกระดองจะพัฒนาเป็นสีน้ำตาลและสีเหลือง ขาทั้งสี่ข้างแข็งแรง โดยเฉพาะขาคู่หน้ามีเกล็ดขนาดใหญ่เห็นได้ชัดเจน
เต่าซูลคาต้า เป็นเต่าที่โดยปกติแล้วจะกระจายพันธุ์บริเวณพื้นที่แห้งแล้ง อย่างเช่น ทะเลทราย เป็นต้น ถือว่าเป็นเต่าที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในสภาพอากาศร้อน จึงทำให้เต่าซูลคาต้าค่อนข้างเหมาะอย่างมากกับสภาพอากาศของประเทศไทย ปัจจุบัน เต่าซูลคาต้าถือเป็นสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักที่คนนิยมเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนในที่อยู่อาศัย เพราะการดูแลที่ง่าย สามารถเลี้ยงอยู่ภายในบ้านได้ เพียงแค่มีแดดรำไร เพราะเต่าซูลคาต้านั้นชื่นชอบแสงแดดรำไรเป็นอย่างมาก
เต่าซูลคาต้า เป็นเต่าบกขนาดใหญ่ที่กินพืชตามแหล่งธรรมชาติ เช่น หญ้า วัชพืช ผลไม้ เป็นต้น แต่เต่าซูลคาต้าที่ถูกนำมาเลี้ยงดูสามารถกินผักตามท้องตลาดทั่วไปได้ เต่าซูลคาต้าเป็นเต่ากินพืช จึงทำให้อึไม่มีกลิ่นที่แรงมาก เมื่อลูกเต่าที่ยังเล็กปริมาณอึจะไม่มาก แต่หากผู้เลี้ยงให้ผักที่มีไฟเบอร์สูง จะทำให้เต่าแข็งแรง อึเป็นก้อน และจะไม่ค่อยมีกลิ่น แต่ก็ควรมั่นทำความสะอาดที่อยู่ของเต่าอยู่สม่ำเสมอ
คุณจตุรงค์ สินเจริญ อายุ 38 ปี อาศัยอยู่ที่ “หนึ่งในบางคนที รีสอร์ท” เลขที่ 52 หมู่ที่ 2 บ้านวัดปราโมทย์ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ปัจจุบัน คุณจตุรงค์ประกอบอาชีพเป็นเจ้าของ “หนึ่งในบางคนที รีสอร์ท” และเป็นเกษตรกรฟาร์มเต่าซูลคาต้า คุณจตุรงค์เล่าถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตนเองเข้าสู่วงการสัตว์เลี้ยงสวยงาม เริ่มจากความชื่นชอบ ก็ซื้อสัตว์เลี้ยงสวยงามมากมายเข้ามาเลี้ยงจนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จึงเปิดให้ผู้ที่เข้ามาพักในรีสอร์ตได้ชื่นชมกับความสวยงามและความน่ารักของสัตว์เลี้ยงเหล่านี้
แต่ถ้าพูดถึงจุดเริ่มต้นที่แท้จริง ที่ทำให้ได้มารู้จักเต่าซูลคาต้าจริงๆ ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว มีคนรู้จักเลี้ยงเต่าซูลคาต้าและได้มาเสนอขายราคาเหมาๆ จำนวน 6 ตัว ในราคา 250,000 บาท ด้วยความชอบส่วนตัวเป็นคนรักสัตว์อยู่แล้ว และเต่าซูลคาต้าก็เป็นเต่าบก ไม่เหม็นเหมือนเต่าน้ำบางชนิด แถมมีความน่ารักขี้อ้อนเฉพาะตัว จึงทำให้ซื้อมาเลี้ยงเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา
พอเลี้ยงไปเลี้ยงมาเริ่มแรกก็ไม่ได้มีความรู้มากนักในการเลี้ยง ทำให้ไม่รู้เลยว่าเต่าซูลคาต้าที่ได้มามีตัวเมียและตัวผู้ มารู้อีกทีเห็นเต่าเขาขุดหลุมและวางไข่ต่อหน้าเราเลย จากนั้นเราก็เริ่มศึกษาเรื่องต่างๆ เพิ่มมากขึ้นเพื่อที่ต้องการเลี้ยงเต่าซูลคาต้าของเราให้ดีที่สุด จนตอนนี้สามารถพูดได้เลยว่าทางฟาร์มของเรามีประสบการณ์ที่มากจริงๆ
เมื่อเต่าซูลคาต้าวางไข่เพิ่มมากขึ้นก็ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น เริ่มแรกก็เลยเอาไปขายให้กับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบเต่าซูลคาต้า ได้ผลตอบรับดีมากเพราะในตอนนั้นเราก็ขายไม่แพงราคาตามที่ตกลงกันเลย แต่จุดเปลี่ยนจริงๆ ที่ทำให้เราเปิดฟาร์มเต่าซูลคาต้าแบบจริงจัง คือเราขายเต่าซูลคาต้า ขนาด 3 นิ้ว ให้กับคนในแวดวงสัตว์เลี้ยงสวยงาม ราคาตอนนั้นน่าจะอยู่ที่หลักพัน แต่คนซื้อเขาบอกว่าลายหลังกระดองเต่าซูลคาต้าตัวนี้สวยมาก มีลายที่ตรงกับความเชื่อของชาวจีน ใครได้เต่าตัวนี้ไปเลี้ยงดูจะทำให้เจริญรุ่งเรือง ถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงมงคลที่ควรมีไว้ ผู้ซื้อเลยขอซื้อในราคา 10,000 บาท
ตอนนั้นต้องบอกเลยว่าตกใจและตื่นเต้นมาก ไม่คิดว่าจะได้ราคาที่ดีขนาดนี้ มันเลยเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้มองหาช่องทางของรายได้ ที่ทำมาจากความชื่นชอบของตัวเราเอง มันเลยทำให้เราสามารถทำมันออกมาได้ดี ด้วยความรัก ความดูแลเอาใจใส่
คุณจตุรงค์ กล่าวว่า เต่าซูลคาต้าจะมีฤดูผสมพันธุ์ในช่วงต้นฤดูร้อนจนถึงปลายฤดูฝน โดยใช้เวลาผสมพันธุ์นานราว 1 ชั่วโมง เต่าตัวเมียจะวางไข่หลังผสมพันธุ์แล้ว 1 เดือน โดยจะใช้ขาหลังขุดหลุม ในการวางไข่แต่ละครั้งเต่าตัวเมียของทางฟาร์มจะออกไข่ประมาณ 30 ฟอง และมักจะวางไข่ในช่วงเวลาบ่ายไปจนถึงตอนเย็น
คุณจตุรงค์ อธิบายถึงขั้นตอนการดูแลเต่าซูลคาต้า ต้องบอกเลยว่าการดูแลเริ่มตั้งแต่การที่เต่าตัวเมียวางไข่ ทุกครั้งที่เต่าตัวเมียวางไข่ เราจะต้องเอามือไปรองเพื่อเอาไข่ไปฟักในตู้ เพราะถ้าหากไข่ตกถึงพื้นดินแล้วเราจะไม่สามารถไปหยิบขึ้นมาได้ เพราะเปลือกไข่ของเขานิ่มมากอาจทำให้ไข่แตกได้ และเนื่องด้วยสภาพอากาศ สภาพแวดล้อมต่างๆ ทางฟาร์มอาจไม่เอื้ออำนวยต่อการฟักไข่มากนักทำให้ไข่ที่วางตามธรรมชาติอัตราการรอดต่ำมากๆ จึงทำให้ทางฟาร์มจำเป็นต้องเอาไข่ไปฟักในตู้เพื่ออัตราการรอดที่ 100%
เมื่อเอาไข่ใส่ตู้ฟักแล้วต้องอยู่ในอุณหภูมิ 25-30 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 90 วัน จากไข่ก็จะฟักเป็นตัวให้ได้เห็น จากนั้นทางฟาร์มก็จะเอาลูกเต่าไว้ในตู้อบต่ออีกเป็นเวลา 7 วัน เพื่อให้สะดือของลูกเต่าแห้ง และในระหว่าง 7 วัน ที่ลูกเต่าอยู่ในตู้ฟักไม่จำเป็นต้องให้อาหารใดๆ ลูกเต่าเขาจะกินสะดือตัวเองด้วยวิธีตามธรรมชาติของเขา
เมื่อครบ 7 วันแล้ว ก็จะแบ่งแยกลูกเต่าออกมาเลี้ยงในคอกอนุบาล โดยพื้นที่คอกจะเป็นพื้นปูนเพื่อง่ายต่อการทำความสะอาด วงบ่อคอกปูน มีขนาด (กว้างxยาวxสูง) 60x80x100 เซนติเมตร เพราะลูกเต่ายังไม่มีภูมิคุ้มกันมากนักความสะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก โดยพื้นที่คอกต้องมีแสงสอดส่องผ่านเข้ามาได้ เป็นแดดรำไร เพราะแสงแดดจะทำให้เต่าไม่ป่วย ไม่ซึม เมื่อลูกเต่ามีอายุครบ 6 เดือน ก็จะเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นแล้ว มีภูมิคุ้มกันที่มากขึ้นก็จะถูกแยกคอกออกมาเลี้ยงในระบบเปิด บนพื้นที่ดินปนทราย ที่มีต้นไม้บังแดดเพื่อให้แดดที่สอดส่องลงมารำไร
อาหารของเต่าซูลคาต้าจริงๆ แล้วเป็นผักใบชนิดใดก็ได้ แต่ทางฟาร์มจะนิยมให้ใบหม่อน สลับกับการให้อาหารเม็ดเพื่อเป็นอาหารเสริม โดยการให้อาหารจะให้ 1 มื้อ ต่อวัน ในช่วงเย็น เต่าซูลคาต้าถือว่าเป็นเต่าบกที่ไม่มีกลิ่นเหม็นมารบกวนเลย ทางฟาร์มจะอาบน้ำให้เต่าสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยการอาบน้ำแต่ละครั้งจะนำเต่าไปแช่ในน้ำเป็นเวลา 5-10 นาที ช่วงเวลานี้เต่าเขาจะทำความสะอาดตัวเองและอึลงในน้ำที่แช่
เต่าซูลคาต้า เป็นสัตว์ที่แข็งแรง อึด ทึก ทน ทำให้ไม่ค่อยมีโรค ยกเว้นแต่จะเป็นหวัดบ้าง ในเวลาที่อากาศหนาว อากาศชื้น และในบางครั้งอาจพบเจอโรคเชื้อราได้ แต่วิธีรักษาง่ายนิดเดียว โรคและอาการต่างๆ สามารถหายไปได้เพียงแค่นำเต่าซูลคาต้ามาอาบแดด เพื่อแสงแดดจะได้รักษา แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าถึงเต่าซูลคาต้าจะชื่นชอบแสงแดด แต่ก็ไม่ใช่แสงแดดที่จ้า แต่เป็นแดดที่รำไร
คุณจตุรงค์ กล่าวว่า ปัจจุบันทางฟาร์มมีแม่พันธุ์ 20 ตัวแล้ว ในการวางไข่แต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 30 ฟอง ต่อแม่พันธุ์ 1 ตัว ทางฟาร์มเปิดตลาด ค้าส่ง ค้าปลีก เต่าซูลคาต้า มากว่า 5 ปีแล้ว และตลาดสัตว์เลี้ยงเต่าซูลคาต้าไม่เคยเงียบเหงาเลย แม้จะมีโรคระบาดอย่างโควิด-19 เต่าซูลคาต้าถือเป็นสัตว์เลี้ยงมงคลที่มีอายุยืน 30-40 ปี ตามความเชื่อของชาวจีนเป็นสัตว์เลี้ยงนำโชค เลี้ยงแล้วชีวิตดี นำพามาแต่ความร่ำรวย แต่ราคาของเต่าซูลคาต้านั้นต้องบอกเลยว่าบางตัวมีราคาที่สูงมาก เพราะด้วยลายหลังกระดองที่ไปตรงกับศาสตร์ความเชื่อของชาวจีน และเต่าซูลคาต้ายังเป็นสัตว์เลี้ยงที่เชื่อง มีความน่ารัก ขี้อ้อนไม่ต่างจากสุนัขหรือแมว
สำหรับท่านใดที่สนใจเต่าซูลคาต้า ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณจตุรงค์ สินเจริญ อายุ 38 ปี อาศัยอยู่ที่ “หนึ่งในบางคนที รีสอร์ท” เลขที่ 52 หมู่ที่ 2 บ้านวัดปราโมทย์ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม โทรศัพท์ 089-199-9141 หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางเฟซบุ๊ก ฟาร์มเต่าซูคาต้า Sulcata Tortoise
