| เผยแพร่ |
|---|
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นาย วิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (กสน.3, กสน.5) ให้กับสมาชิกสหกรณ์ จำนวน 35 ราย พร้อมทั้งพบปะเกษตรกรรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตรของจังหวัดกระบี่ โดยมี นายอนุวรรต์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายเชาวลิต เจริญฤทธิ์ สหกรณ์จังหวัดกระบี่ ผู้แทนจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการสหกรณ์ฯ เจ้าหน้าที่ สมาชิกสหกรณ์และเกษตรกร ให้การต้อนรับ ณ สหกรณ์นิคมปลายพระยา จำกัด ตำบลเขาเขน อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่
ในการนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (กสน.3, กสน.5) ให้กับสมาชิกนิคมสหกรณ์คลองท่อม และนิคมสหกรณ์อ่าวลึก จำนวน 35 ราย รวมพื้นที่ทั้งหมด 346 ไร่ 3 งาน 63 ตารางวา จากนั้น เยี่ยมชมนิทรรศการและการจัดแสดงผลผลิตทางการเกษตร ของเกษตรกรรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมโครงการนำลูกหลานเกษตรกลับบ้าน สานต่ออาชีพเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกระบี่ อาทิ เห็ดฟาง ไข่นกกระทา มะพร้าวแกะกะลา กาแฟปลายพระยา น้ำเยื่อไผ่ พืชผักสวนครัว และผักปลอดสารเคมี เป็นต้น รวมทั้งพบปะผู้แทนเกษตรกรรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 8 ราย ทั้งนี้ ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 54 ราย มีสหกรณ์สมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 11 แห่ง ที่ผ่านมา สำนักงานสหกรณ์จังหวัดกระบี่ ได้จัดการประชุมชี้แจงและจัดโครงการฝึกอบรมและศึกษาดูงาน โครงการสร้างเครือข่ายลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพทางการเกษตร นำผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ศึกษาดูงานกิจกรรมการเกษตรที่ประสบความสำเร็จ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ สร้างเครือข่ายระหว่างกันและเรียนรู้ร่วมกัน รวมทั้งการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเกษตรต่างๆ ตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายด้วย
จากนั้นได้เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ของกลุ่มอาชีพในสังกัดสถาบันเกษตรกร ได้แก่ กลุ่มบากันบาติก มีสมาชิก 22 คน ผลิตและจำหน่ายผ้าบาติกทุกประเภทตามคำสั่งซื้อของลูกค้า เป็นผลิตภัณฑ์ OTOP 5 ดาว ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) และได้รับการรับรองมาตรฐานสินค้าจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ (สมส.) ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้สนับสนุนงบประมาณภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนากลุ่มอาชีพ ในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ การแปรรูป และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ทำให้กลุ่มฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ หลากหลายรูปแบบตามความต้องการของตลาด สามารถสร้างรายได้ให้กับสมาชิกกลุ่มอย่างยั่งยืน ผลิตภัณฑ์เครื่องแกงของกลุ่มเครื่องแกงตำมือบ้านดินนา สังกัดสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านดินนา จำกัด อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ เกิดขึ้นจากสมาชิกสหกรณ์ฯ จำนวน 19 คน รวมกลุ่มกันเพื่อประกอบอาชีพหารายได้เสริมในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้ โดยสหกรณ์ฯ เข้ามาส่งเสริมพัฒนาอาชีพ เพื่อแก้ไขปัญหาการทำกินของสมาชิก สนับสนุนงบประมาณภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพกลุ่มอาชีพในสังกัดสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชน ประจำปีงบประมาณ 2563 (งบเพิ่มเติม) จำนวน 100,000 บาท จัดการฝึกอบรมสร้างองค์ความรู้ พัฒนาศักยภาพกลุ่มอาชีพในจังหวัดกระบี่ยุค 4.0 และจัดซื้ออุปกรณ์ในการผลิต ซึ่งทางกลุ่มฯ สามารถจำหน่ายเครื่องแกงตำมือได้ประมาณ 150-200 กิโลกรัม ต่อเดือน จำหน่ายในตลาดนัดชุมชนในอำเภอใกล้เคียง และจังหวัดใกล้เคียง งานเลี้ยงต่างๆ ทำให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในอนาคตจะดำเนินการสร้างลูกค้าใหม่โดยทำการในตลาดออนไลน์ด้วย รวมทั้ง ได้เยี่ยมชมสินค้าและอื่นๆ ด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องแกง จากกลุ่มสตรีอาสาพัฒนาชุมชนบ้านทุ่ง ไข่มุก จากกลุ่มสตรีเครื่องประดับ เตยปาหนัน จากกลุ่มหัตถกรรมเตยปาหนันบ้านวังหิน ขนมไทย จากกลุ่มขนมไทยบ้านคลองปัญญา ตะกร้าจากเส้นพลาสติก จากกลุ่มหัตถกรรมสานตะกร้า ข้าวสาร จากกลุ่มชาวนาบ้านปากน้ำ และแพะ น้ำน้ำนมแพะ สบู่ จากสหกรณ์แพะและปศุสัตว์กระบี่ จำกัด
โอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตรวจเยี่ยมแปลงโรงเรือนเกษตรอินทรีย์ของสมาชิกสหกรณ์โดยสหกรณ์นิคมปลายพระยา จำกัด ได้ส่งเสริม สนับสนุนให้สมาชิกสหกรณ์ปลูกพืชผักอินทรีย์และปลอดภัย ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ในสถาบันเกษตรกรในพื้นที่นิคมสหกรณ์ ในปี 2563 มีสมาชิกสหกรณ์เข้าร่วมโครงการจำนวน 12 ราย พื้นที่เพาะปลูก 12 ไร่ โดยส่วนใหญ่จะเพาะปลูก ผักบุ้ง ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง คะน้า และพืชผักชนิดอื่นๆ ทั้งนี้ สหกรณ์ฯ ได้รับเงินสนับสนุนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ตามโครงการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ในสถาบันเกษตรกรในพื้นที่นิคมสหกรณ์ ปีงบประมาณ 2563 เพื่อดำเนินการก่อสร้างโรงเรือนพร้อมระบบน้ำ จำนวน 12 โรงเรือน และได้ใช้ประโยชน์ในการเพาะปลูกพืชผักปลอดภัยและพืชผักอินทรีย์แล้ว ในอนาคตสหกรณ์ฯ วางแผนงานในการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง ดำเนินการพัฒนาเป็นศูนย์รวบรวมผลผลิตเกษตรปลอดภัย ศูนย์เรียนรู้การเกษตรปลอดภัย และพัฒนาจากเกษตรปลอดภัยสู่เกษตรอินทรีย์
“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมการทำอาชีพการเกษตร จึงได้ดำเนินนโยบายการส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยส่งเสริมให้เกษตรกรลด ละ เลิกการใช้สารเคมีในการกำจัดวัชพืชหรือศัตรูพืช ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรในรูปแบบการทำการเกษตรที่ดีและเหมาะสม (GAP) เพื่อให้สินค้าเกษตรมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค รวมทั้งการยกระดับความเข้มแข็งของสหกรณ์ให้เป็นองค์กรในระดับชุมชนในการรวบรวม จัดเก็บ แปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และการเชื่อมโยงเครือข่ายการตลาดระหว่างขบวนการสหกรณ์ ภาคเอกชน เพื่อกระจายผลผลิตที่มีคุณภาพ ปลอดภัยสู่ผู้บริโภค ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยรวมอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ยังได้จัดโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร เพื่อให้ลูกหลานเกษตรกรได้กลับมาอยู่กับครอบครัว ใช้ความรู้ประสบการณ์จากภาคอุตสาหกรรมและบริการ รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ มาพัฒนาการเกษตร เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพการเกษตรให้เกิดความยั่งยืน โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้หาแนวทางสนับสนุนให้สหกรณ์การเกษตรที่มีความเข้มแข็งให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหลานสมาชิกหรือบุคคลทั่วไปที่ต้องการพัฒนาถิ่นกำเนิดในด้านการประกอบอาชีพการเกษตรเพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรอย่างมั่นคง รวมถึงสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่รักอาชีพการเกษตร ไม่ทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิด และผลักดันแนวคิดการปลูกพืช ปศุสัตว์ และประมง การใช้เทคโนโลยีการเกษตรให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และความต้องการของตลาดด้วย” รมช.มนัญญา กล่าว
สหกรณ์นิคมปลายพระยา จำกัด ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ตำบลเขาเขน อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ จดทะเบียนเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2524 ปัจจุบันมีสมาชิก 2,397 คน ดำเนินธุรกิจเพื่อให้บริการสมาชิก 3 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจรวบรวมผลผลิต ธุรกิจสินเชื่อ และธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย เช่น วัสดุการเกษตร สินค้าอุปโภค บริโภค เป็นต้น รวมทั้งรับฝากเงินจากสมาชิก ส่งเสริมการออมให้กับสมาชิก และให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาหนี้สินของสมาชิกและเกษตรกร ที่ผ่านมา สหกรณ์นิคมปลายพระยา จำกัด เป็นหนึ่งในสถาบันเกษตรกรที่ได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกระบี่ในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 และเกิดความผันผวนของราคาสินค้าเกษตร โดยเข้าร่วมโครงการต่างๆ ตามนโยบายของรัฐบาล ร่วมกันกระจายผลผลิตทางการเกษตรของสมาชิกและเกษตรกร เพื่อลดปัญหาผลผลิตการเกษตรล้นตลาด ส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรในพื้นที่อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
