รมช.มนัญญา ปลื้มงบปรับโครงสร้างช่วยสหกรณ์ขยายศักยภาพ เตรียมนำสหกรณ์เสริมทัพกระจายสินค้าเกษตรในปี 65

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ (กสส.) ว่าโครงการปรับโครงสร้างการผลิต การรวบรวม และการแปรรูปของสถาบันเกษตรกรรองรับผลผลิตทางการเกษตร (พรก.เงินกู้โควิด 19) ขณะนี้สามารถเบิกจ่ายได้ 1,583 ล้านบาท หรือร้อยละ 93.5 ของงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาล 1,629 ล้านบาท สำหรับสหกรณ์ที่เข้าโครงการ 240 แห่ง ใน 59 จังหวัด โดยขณะนี้เกือบทุกแห่งสามารถที่จะรวบรวมผลผลิตทางการเกษตรได้เพิ่มขึ้น ในฤดูกาลผลิตปี 2565 นี้ จะใช้ระบบสหกรณ์เหล่านี้เข้าไปช่วยขับเคลื่อนเสริมกลไกตลาดที่สำคัญในการกระจายผลผลิตและเป็นแก้มลิงชะลอผลผลิตทางการเกษตรกรณีผลผลิตล้นตลาด ซึ่งในปีที่ผ่านมาการใช้ระบบสหกรณ์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ

“งบก้อนนี้เป็นการติดเขี้ยวเล็บให้สหกรณ์ที่ให้โอกาสสหกรณ์ที่รวบรวมผลผลิตการเกษตรไปปรับปรุงศักยภาพของต้นเองทั้ง ยุ้ง ฉาง ลานตาก โกดัง ไซโล เป็นต้น ดังนั้น ในฤดูกาลผลิตที่จะออกมาในปีนี้ทั้งข้าว ผลไม้จะใช้กลไกสหกรณ์เข้าไปช่วยเหลือ เสริมระบบตลาดปกติ ทั้งนี้เบื้องต้นได้รับข่าวดีว่า สหกรณ์การเกษตรนาน้อย จำกัด จังหวัดน่าน ซึ่งได้รับงบก้อนนี้ไป ในฤดูข้าวโพดปีนี้สามารถเปิดรับซื้อข้าวโพดได้เพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่ซื้อได้เพียง 2 พันตันต่อฤดูกาลผลิต หลังจากได้รับงบปรับโครงสร้างฯ มีโกดังใหญ่ขึ้น เพียง 2 เดือนสามารถรับซื้อผลผลิตข้าวโพดได้แล้ว 3 พันตัน ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้ขายข้าวโพดในราคาที่เป็นธรรมเพราะสหกรณ์จะมีราคาพิเศษให้สมาชิก” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว

นายอานุภาพ พุฒตรง ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรนาน้อย จำกัด จังหวัดน่าน กล่าวว่า งบโครงการปรับโครงสร้างฯ ได้ช่วยพัฒนาสหกรณ์ให้เข้มแข็งและมีศักยภาพในการทำธุรกิจเพิ่มขึ้น เป็นการให้เบ็ดกับสหกรณ์ ซึ่งที่ผ่านมาสหกรณ์ต้องการปรับปรุงขยายศักยภาพแต่ติดขัดเรื่องงบประมาณที่จะลงทุน เมื่อมีโครงการนี้ทางสหกรณ์ได้เสนอเข้าไปและได้รับการจัดสรรงบมา สมาชิกทุกคนดีใจมาก อยากได้มากกว่านี้ติดขัดเรื่องงบสมทบร้อยละ 10 สหกรณ์การเกษตรนาน้อย จึงขอโกดังซึ่งจำเป็นที่สุดก่อน ทั้งนี้ผลการรวบรวมผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากสมาชิกในช่วงเดือนธันวาคม 2564 – มกราคม 2565 ที่ผ่านมา สหกรณ์สามารถรวบรวมข้าวโพดจากสมาชิกได้มากกว่า 3,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 18,225,852 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 20 อย่างไรก็ตาม คาดว่าสิ้นฤดูข้าวโพดปีนี้จะสามารถรับซื้อข้าวโพดได้ประมาณ 3,500-4,000 ตัน

“สหกรณ์จะรับซื้อผลผลิตข้าวโพดทั่วไปในราคาตลาด แต่สำหรับสมาชิกสหกรณ์การเกษตรนาน้อยเองนั้นจะได้ราคาเพิ่มจากราคาตลาดประมาณ 10 สตางค์ ต่อกิโลกรัม ทีความชื้น 14% นอกจากนั้นสหกรณ์ยังให้บริการสีข้าวโพดฟรีกับเพื่อนสมาชิกอีกด้วย ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นจะส่ง  ผลต่อระบบสวัสดิการที่สหกรณ์มอบให้สมาชิกดียิ่งขึ้นไป” นายอานุภาพ กล่าว

สำหรับสหกรณ์การเกษตรนาน้อย จำกัด ได้รับการอุดหนุนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ 22,193,100 บาท และสหกรณ์การเกษตรนาน้อย จำกัด สมทบ 2,569,900 บาท หรือ   ร้อยละ 10 เพื่อสร้างโกดังขนาดไม่น้อยกว่า 5,000 ตัน วงเงิน 24,659,000 บาท เพื่อขยายศักยภาพของสหกรณ์ โดยสหกรณ์การเกษตรนาน้อย จำกัด มีสมาชิก 1,977 คน ทุนดำเนินการมากกว่า 356 ล้านบาท ก่อตั้งจดทะเบียนจัดตั้งเป็นสหกรณ์ เมื่อ 1 มีนาคม 2543 สหกรณ์ดำเนินธุรกิจเพื่อให้บริการแก่สมาชิก 4 ด้าน คือ ด้านสินเชื่อ ด้านการจัดหาสินค้ามาจำหน่าย ด้านรวบรวมผลผลิต และด้านรับฝากเงิน