ซีพีเอฟ มุ่งพัฒนาห่วงโซ่การผลิตกุ้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เดินหน้าเพิ่มใช้พลังงานสะอาด

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มุ่งมั่นพัฒนาตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิตกุ้งที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เดินหน้าเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด ทั้งในฟาร์มและโรงงาน พร้อมยกเลิกใช้ถ่านหินในประเทศไทยภายในปี 2565 มีส่วนร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขับเคลื่อนเป้าหมายสู่การเป็นองค์กร Carbon Neutral ในปี 2573

นายไพโรจน์ อภิรักษ์นุสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจกุ้ง ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนทุกรูปแบบตลอดห่วงโซ่การผลิตกุ้ง ตั้งแต่ โรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำ ฟาร์มกุ้ง โรงงานผลิตอาหารแปรรูป โดยนำพลังงานชีวมวล และพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในกระบวนการผลิต ปัจจุบัน มีการติดตั้งระบบโซล่าร์เซลล์ในฟาร์มกุ้ง ในประเทศไทย 5 แห่ง และปีนี้ มีแผนติดตั้งโซล่าร์เซลล์เพิ่มในโรงเพาะฟักลูกกุ้งอีก 8 แห่ง นอกจากนี้ บริษัทฯ จะยกเลิกการใช้ถ่านหินในห่วงโซ่การผลิตกุ้งในประเทศไทยทั้งหมดภายในปีนี้ ตามเป้าหมาย CPF Coal Free 2022

ซีพีเอฟ ยังเดินหน้าศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้พลังงานหมุนเวียนในฟาร์มและโรงงานในห่วงโซ่การผลิตกุ้งอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในการผลิต ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ความยั่งยืนใหม่ CPF 2030 Sustainability in Action ภายใต้เสาหลัก “ดิน น้ำ ป่า คงอยู่” นายไพโรจน์ กล่าว

ปัจจุบัน มีฟาร์มกุ้งของซีพีเอฟ 5 แห่ง ที่ได้ติดตั้งโซล่าร์เซลล์เพื่อใช้พลังงานแสงอาทิตย์ผลิตกระแสไฟฟ้าใช้กับเครื่องให้อากาศในบ่อกุ้ง และไฟแสงสว่างในฟาร์ม มีกำลังการผลิต รวม 3.471 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย 1. ฟาร์มกุ้งร้อยเพชร จังหวัดระยอง 2. ฟาร์มบางสระเก้า จังหวัดตราด 3. ฟาร์มกุ้งลักกี้ 1 จังหวัดระยอง 4. ฟาร์มเพชรบุรี 5. ฟาร์มเพาะฟักลูกกุ้งปะทิว จังหวัดชุมพร นอกจากนี้ โรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำ 2 แห่ง ได้แก่ โรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำบ้านบึง จังหวัดชลบุรี และโรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำบ้านพรุ จังหวัดสงขลา ได้ยกเลิกการใช้พลังงานถ่านหินและหันมาใช้พลังงานชีวมวลแทน และกำลังอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานของโรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำอีก 2 แห่ง ได้แก่ โรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร และโรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำหนองแค จังหวัดสระบุรี หันใช้พลังงานหมุนเวียน และยกเลิกการใช้ถ่านหินภายในปีนี้ ส่งผลให้ภายในปี 2565 ตลอดห่วงโซ่การผลิตกุ้งในประเทศไทยไม่มีการใช้พลังงานถ่านหิน

บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการศึกษาเพื่อหาแนวทางต่างๆ มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า โดยประยุกต์ใช้ระบบอัตโนมัติ (Automation) เพื่อช่วยควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งการจัดการน้ำ การควบคุมคุณภาพน้ำ และอุณหภูมิน้ำในบ่อเลี้ยง ระบบน้ำหมุนเวียน (Recirculating Aquaculture System :RAS) ด้วยการใช้ Ultrafiltration (UF) เพื่อกรองน้ำจากแหล่งน้ำภายนอกและน้ำที่หมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ให้สะอาดและปลอดจากเชื้อก่อโรค และระบบไบโอฟลอค (Bio-floc) ใช้จุลินทรีย์ในการบำบัดของเสียที่เกิดขึ้นในบ่อเลี้ยง ช่วยลดการเปลี่ยนถ่ายน้ำในระหว่างการเลี้ยงกุ้ง  ควบคู่ไปกับระบบการเลี้ยงภายใต้หลัก “3 สะอาด” “กุ้งสะอาด น้ำสะอาด และ บ่อสะอาด” ช่วยให้กุ้งแข็งแรง โตเร็ว ช่วยป้องกันโรคมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผลผลิตกุ้งของซีพีเอฟไม่ใช้ยาปฏิชีวนะตลอดการเลี้ยง ช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยอาหาร และสร้างห่วงโซ่การผลิตอาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม