กสก.หนุนชาวทับยายเชียงปลูกแตงโมรูปหัวใจเพิ่มมูลค่า

กรมส่งเสริมการเกษตร สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรส่งเสริมปลูกพืชใช้น้ำน้อย สนับสนุนกลุ่มผู้ปลูกแตงโมในตำบลทับยายเชียง จังหวัดพิษณุโลก เพิ่มมูลค่าผลผลิตด้วยการปลูกแตงโมเป็นรูปหัวใจ ขายได้ลูกละกว่า 500 บาท สร้างรายได้ และปลดหนี้ให้เกษตรกรจำนวนมาก

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวถึงการสร้างรายได้เพิ่มแก่เกษตรกรด้วยการส่งเสริมการปลูกแตงโมในพื้นที่ตำบลทับยายเชียง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลกว่า แต่เดิมชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่นิยมทำเกษตรเชิงเดี่ยว เช่น นาข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และอ้อย ทำให้บางปีประสบปัญหาภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ฝนแล้ง เกิดโรคและแมลง และราคาตกต่ำ ชาวบ้านส่วนใหญ่ขาดทุน มีรายได้ไม่เพียงพอ จึงเห็นว่าแตงโม น่าจะแก้ไขข้อจำกัดต่าง ๆ ได้ เนื่องจากเป็นพืชใช้น้ำน้อย อายุสั้น สามารถปลูกในช่วงฤดูแล้งหลังการทำนาปี และปลูกสลับกับพืชอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีตลาดรองรับ ได้ราคาดี และชาวบ้านมีความเชี่ยวชาญ เพราะปลูกมานานกว่า 30 ปี

เมื่อเปรียบเทียบรายได้และต้นทุนการผลิตกับการทำนาข้าว และไร่พืชอื่นๆ ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าการปลูกแตงโม มีรายได้มากกว่า และเมื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีการผลิตที่ดีให้ได้คุณภาพตรงตามมาตรฐานที่กำหนด หรือ GAP (Good Agriculture Practices) ทำให้แตงโมมีราคาเพิ่มขึ้นจากแตงโมทั่วไปมาก เช่น จากเดิมชาวบ้านขายแตงโมได้ลูกละ 25-30 บาท แต่หลังจากได้ GAP สามารถขายได้ถึงลูกละ 80 บาท

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า หลังจากแตงโมได้มาตรฐาน GAP ทำให้ชาวบ้านผู้ปลูกแตงโมคิดค้นการสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิต ด้วยการปลูกแตงโมให้เป็นรูปทรงต่างๆ เช่น รูปหัวใจ ทำให้สามารถเพิ่มมูลค่าได้ถึงลูกละ 399-599 บาท และเมื่อเกษตรกรผู้ปลูกแตงโมเริ่มทำการตลาดอย่างจริงจัง เช่น ประชาสัมพันธ์ออกสื่อ ทำตลาดออนไลน์ หรือนำไปขายในงานหรือเทศกาลต่างๆ จึงเป็นที่รู้จักและตลาดต้องการเพิ่มมากขึ้น โดยประชาชนทั่วไปจะรับรู้ว่าถ้าจะกินแตงโมดีอร่อย ต้องแตงโมตำบลทับยายเชียงเท่านั้น สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ และปลดหนี้สินให้เกษตรกรผู้ปลูกแตงโมได้มาก

นอกจากกลุ่มผู้ปลูกแตงโมในพื้นที่ตำบลทับยายเชียง ได้จัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหนองมะคังแล้วสำนักงานเกษตรอำเภอพรหมพิราม ยังได้ส่งเสริมให้จัดตั้งเป็นกลุ่มแปลงใหญ่ ในปี 2564 เพื่อสร้างการเรียนรู้และเพิ่มทักษะให้กับสมาชิกในกลุ่ม โดยมีหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เช่น สำนักงานเกษตรอำเภอพรหมพิราม สำนักงานเกษตรจังหวัดพิษณุโลก สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่2 ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืชจังหวัดพิษณุโลก และสถานีพัฒนาที่ดินพิษณุโลก มาสนับสนุนให้ความรู้กับกลุ่มและสมาชิก