| ผู้เขียน | มติชนออนไลน์ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
วันหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ หากใครกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวเคาต์ดาวน์สักแห่งไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศท้าหนาวบนยอดดอยสูง หรือแหวกว่าย เล่นน้ำในหมู่ผู้นิยมชมชอบทะเลสถานที่เหล่านี้อาจเป็นอีกทางเลือก
สำหรับใครก็ตามที่ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกสถานที่ใดเป็นที่พักผ่อนฉลองปีใหม่
ชมแสงแรกแห่งปีที่’ดอยฟ้างาม’
ทะเลหมอกที่เกิดขึ้นบนดอยฟ้างามช่วงฤดูหนาวนี้กำลังงดงามมาก ทาง อ.แจ้ห่ม ร่วมกับหลายฝ่าย ทั้งอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลำปาง และองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านสา รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดให้ดอยฟ้างามแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ จ.ลำปาง ที่เป็นอีกจังหวัดถูกระบุในฐานะท่องเที่ยว “เมืองรอง”
เนื่องจากบนยอดดอยมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและเป็นยอดดอยที่อยู่ใกล้ตัวเมืองลำปาง โดยอยู่ห่างตัวเมืองลำปางประมาณ 40 กิโลเมตร สามารถเดินทางมาได้สะดวก ก่อนที่จะเดินขึ้นมาอีกระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร เพื่อชมความสวยงามของทะเลหมอกที่เต็มหุบเขาอย่างสวยงาม พร้อมชมแสงแรกบนดอยฟ้างาม ที่พระอาทิตย์จะขึ้นเหนือภูเขาสูง และทะเลหมอก นับเป็นภาพที่สวยงามและประทับใจแก่ผู้มาเยือน
นายอนันท์ สีแดง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลำปาง กล่าวว่า ตนได้ขึ้นไปพิชิตยอดภูของดอยฟ้างามมาแล้ว นับเป็นการเดินขึ้นไปครั้งแรกก็พบทะเลหมอกที่สวยงาม มองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ 360 องศา ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลำปาง จึงช่วยประชาสัมพันธ์ให้ดอยฟ้างามบ้านสาแพะ ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ และเป็นจุดเช็กอินแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ขึ้นชื่อของ จ.ลำปาง อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาดอยฟ้างามแห่งนี้ยังมีประชาชนขึ้นมาไม่มาก ซึ่งต่อไปจะมีการประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น และจะมีการเปิดตัวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่พร้อมรับการมาเยือนของนักท่องเที่ยวต่อไป
บนดอยฟ้างามแห่งนี้ หากนักท่องเที่ยวมาถึงหมู่บ้านสาแพะ จะต้องจอดรถบริเวณหมู่บ้าน และติดต่อคนนำทางในการเดินทางขึ้นไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก็จะขึ้นมาถึงยอดภูที่มีลานกางเต็นท์ค้างแรม เพื่อรอชมทะเลหมอกยามเช้าที่สวยงาม
ขึ้น’ม่อนเงาะ’ชมวิว360องศา
“ม่อนเงาะ” ตั้งอยู่ที่บ้านม่อนเงาะ หมู่ 5 ต.เมืองก๋าย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่กว่า 60 กิโลเมตร ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวม้งที่มีความงดงามทางธรรมชาติ สามารถชมทัศนียภาพโดยรอบได้แบบ 360 องศา ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยามเช้า ซึ่งยอดดอยม่อนเงาะมีความสูง 1,425 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง อยู่ห่างจากศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะเพียง 6 กิโลเมตร ช่วงอากาศหนาว อุณหภูมิเฉลี่ย 10-12 องศา อุณหภูมิต่ำสุดวัดได้ 5 องศา เนื่องจากมีลมพัดแรงตลอดเวลา ยอดดอยมีอากาศเย็นตลอดปี ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่แห่งหนึ่งของเชียงใหม่ และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา บริเวณยอดดอยมีลานกางเต็นท์รองรับนักท่องเที่ยวได้ 30-50 หลัง รวม 100 คน ที่เหลือเป็นโฮมสเตย์ชุมชนกว่า 20 หลัง ค่าบริการ 500-1,000 บาท/คืน
สถานที่ท่องเที่ยวหลัก คือโครงการหลวงม่อนเงาะ มีแปลงปลูกองุ่นดำ เสาวรส ฟักทองญี่ปุ่น ดอกไม้เมืองหนาว ไร่ชาลุงเดช ไร่กาแฟ และสวนเมี่ยงของชาวบ้าน ซึ่งโครงการหลวงดูแลพัฒนาคุณภาพชีวิตรวม 7 หมู่บ้าน กว่า 570 ครัวเรือน จุดท่องเที่ยวอีกแห่งที่น่าสนใจ คือล่องแพยางและแพไม้ไผ่ในลำน้ำแม่แตง จากบ้านสบก๋ายไปยังเขตติดต่อ ต.กื้ดช้าง แบ่งเป็นระยะสั้น 4 กิโลเมตร ระยะไกลไม่เกิน 10 กิโลเมตร ใช้เวลาล่องกว่า 6 ชั่วโมง ก่อนพักค้างแรม จากนั้นขึ้นฝั่งไปนั่งช้างและนั่งเกวียนที่ปางช้างแม่แตง ที่มีอยู่กว่า 30 แห่ง มีช้างบริการกว่า 500 เชือก เพื่อชมทัศนียภาพลำน้ำแม่แตงสองฝั่ง และวิถีชีวิตชุมชน
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมปั่นจักรยานพิชิตยอดดอยม่อนเงาะ วันที่ 7 มกราคม 2561 ซึ่งปีที่แล้วมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 300 คัน ปีนี้คาดว่ามีผู้ร่วมปั่นไม่ต่ำกว่า 500 คัน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว อ.แม่แตง คาดมีนักท่องเที่ยวเข้ามาพื้นที่ 10,000 คน สร้างรายได้แก่ชุมชนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
นั่งรถอีแต๊กขึ้น’ภูป่าเปาะ’ฟูจิเมืองเลย
“ภูป่าเปาะ” ตั้งอยู่ที่บ้านผาหวาย ต.ปวนพุ อ.หนองหิน จ.เลย อยู่ในจังหวัดท่องเที่ยว “เมืองรอง” อีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ขึ้นมาชมทิวทัศน์ของ “ภูหอ” ลักษณะเป็นภูเขาสูง เป็นภูเขายอดตัด หรือภูเขายอดราบ คล้ายภูเขาไฟฟูจิยามาในประเทศญี่ปุ่น เดิมทีภูป่าเปาะเป็นพื้นที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ภูค้อ-ภูกระแต และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูค้อ-ภูกระแต ถูกบุกรุกแผ้วถางเพื่อทำการเกษตร จนสภาพป่าบริเวณนั้นอยู่ในขั้นเสื่อมโทรม ต่อมาชาวบ้านได้เข้าฟื้นฟูปรับสภาพป่าให้กลับมาคืนความอุดมสมบูรณ์ จนกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนรู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะภูหอที่มีลักษณะคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิ
บนความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 900 เมตร ทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามของภูเขาต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียงได้ด้วยตาเปล่า สามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ที่จุดเดียวกัน นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นอุทยานแห่งชาติภูผาม่าน อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ วนอุทยานแห่งชาติ นายูง-น้ำโสม อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี และถ้ำเอราวัณ อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู และภูกระดึง จ.เลย ขึ้นภูเดียวเห็น 4 จังหวัด และเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือการเดินทางด้วยรถอีแต๊กขึ้นไปยังยอดภู สร้างความสนุกสนานให้แก่นักท่องเที่ยวยิ่งนัก โดยคิดราคาค่าบริการคนละ 60 บาท สร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างมากในแต่ละปี
เดินป่าพิชิต’เขาช้างเผือก’
อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของประเทศ และมีสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะ “เขาช้างเผือก” ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ มีความสูงประมาณ 1,249 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจ เส้นทางเดินไปสู่ยอดเขาช้างเผือกเป็นป่าโปร่งสลับกับทุ่งหญ้า มีจุดไฮไลต์ของการเดินทางอยู่ที่ “สันคมมีด” สันเขาที่สวยงามและน่าหวาดเสียวไปพร้อมกัน เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาจะสามารถมองเห็นวิวได้รอบทิศทาง 360 องศา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยกให้ที่แห่งนี้เป็น 1 ใน 10 Dream Destinations ที่นักท่องเที่ยวควรไปเยือนมากที่สุดอีกด้วย จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปอย่างมากในแต่ละปี เพื่อเข้าศึกษาเส้นทางธรรมชาติและสัมผัสกับธรรมชาติโดยตรง ด้วยการเดินป่าศึกษาธรรมชาติเพื่อพิชิตยอดเขาช้างเผือกแห่งนี้
นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ กล่าวว่า อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดบริการท่องเที่ยวกิจกรรมการเดินป่าศึกษาธรรมชาติระยะไกลเขาช้างเผือก บริเวณป่าบ้านอีต่อง หมู่ 1 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ เนื่องจากอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ประกอบกับจากการตรวจสอบสภาพอากาศและสภาพพื้นที่ในบริเวณดังกล่าวที่ใช้เดินป่าเขาช้างเผือกมีความพร้อมสำหรับการบริการนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปได้เข้าสัมผัสและศึกษาธรรมชาติโดยตรง โดยกำหนดระยะเวลาท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2560 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2561 โดยเริ่มเปิดรับจองตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม ถือเป็นประโยชน์ในการคุ้มครองและดูแลรักษาอุทยานแห่งชาติ สร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการท่องเที่ยว การมีส่วนร่วม และการสร้างรายได้ให้ชุมชนในท้องถิ่น
ชมไม้เมืองหนาวใกล้กรุง’แก่นมะกรูด’
“แก่นมะกรูด” หรือโครงการพื้นที่ต้นแบบบูรณาการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ ต.แก่นมะกรูด ตามแนวพระราชดำริ จากพื้นที่รุกป่าสงวนและไร่เลื่อนลอย กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว ที่อยู่กลางหุบเขาใน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยว “เมืองรอง” อีกหนึ่งแห่งที่มีความสวยงามและมีบรรยากาศดีไม่แพ้ภาคเหนือ อีกทั้งยังมีระยะทางที่ไม่ไกล หากเดินทางมาจากกรุงเทพฯใช้เวลาแค่ไม่เกิน 3 ชั่วโมงอีกด้วย
ส่วนบ้านกะเหรี่ยงแก่นมะกรูด หรือศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 73 จ.อุทัยธานี ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี เป็น 1 ใน 4 ของหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง ที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาใกล้กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เป็นที่อยู่อาศัยของชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง และด้วยที่แก่นมะกรูดแห่งนี้มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 700-1,400 เมตร จึงทำให้มีอากาศเย็นเกือบตลอดทั้งปี ชาวกะเหรี่ยงที่นี่จึงสามารถปลูกพืชและไม้ดอกเมืองหนาวได้ไม่แพ้ภาคเหนือ เช่น กะหล่ำปลี ต้นหอมยักษ์ สตรอเบอรี่ ราสเบอรี่ ที่ล้วนปลอดสารพิษและเก็บขึ้นสดใหม่ในทุกๆ เช้า ให้นักท่องเที่ยวได้ทานและซื้อกลับไปเป็นของฝากกลับบ้านได้ ทั้งยังมีดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ลิลลี่ ทิวลิป ต้นคริสต์มาส ที่ออกดอกบานสะพรั่งสวยงาม ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทั้งใกล้บ้าน สงบ สะดวก ประหยัดทั้งเงินในกระเป๋าและเวลาอีกด้วย
ก่อนกลับบ้านสามารถแวะชิมกาแฟสดๆ พร้อมซื้อของฝากได้ที่ไร่อุ๊ยกื๋อ ซึ่งจะมีขนมของฝากที่ขึ้นชื่อของแก่นมะกรูด ที่เกิดจากการดัดแปลงวัตถุดิบที่ปลูกกันเอง อย่างกล้วย มัน และฟักทอง และนำมาแปรรูปด้วยการอบ ทอด และมีรสชาติที่หลากหลาย อีกทั้งยังมีแพคเกจที่สวยงามสะดุดตา ซึ่งจะมีภาษากะเหรี่ยงพร้อมคำแปลอยู่ภายในถุงให้เราได้อ่าน ทำให้รู้ภาษาถิ่นอีกด้วย
พายเรือเที่ยวคลองสังเน่ห์’Little Amazon’
สถานที่ที่กำลังเป็นที่นิยมอีกแห่งคือ “คลองสังเน่ห์” หรือที่นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จักในชื่อ “Little Amazon” ตั้งอยู่ที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เป็นลำคลองสายสั้นๆ ที่มีต้นน้ำมาจากเขาบางเต่าก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำตะกั่วป่า กำลังเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลงไหลในธรรมชาติเชิงนิเวศ โดยชาวบ้านที่นี่ต่างช่วยกันอนุรักษ์ผืนป่าเล็กๆ แห่งนี้ไว้อย่างเหนียวแน่น
ส่วนการล่องเรือนั้น ช่วงแรกที่นั่งเรือออกจากท่ายังพอมีบ้านเรือนริมคลองอยู่ประปราย แต่พอเริ่มเข้าสู่คุ้งน้ำแรกเราจะพบว่าตลอดสองฝั่งคลองเต็มไปด้วยต้นไทรขนาดน้อยใหญ่อายุนับร้อยปี ที่แผ่กิ่งก้านสาขา และไม้น้ำหลากหลายชนิดที่มีรากห้อยระโยงระยาง ต้นตีนเป็ดน้ำ หรือต้นสังหลา ขึ้นแทรกตัวอยู่ทั่วไปตามลำคลอง ขณะที่เรือค่อยๆ พายไปคล้ายกับกำลังล่องเข้าสู่ป่าดงดิบ ป่าอะเมซอน จึงเป็นที่มาของชื่อ “Little Amazon” ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าที่นี่ยังเป็นแหล่งอาหารอันโอชะของนกหลากหลายชนิด รวมทั้งแมลง กระรอก กระแต ที่อาศัยผลไทรสุกที่หล่นลงน้ำเป็นอาหาร และหากบางทริปโชคดีอาจจะได้เห็น “นกเงือก” บินมาหาอาหารตอนเช้าๆ อีกด้วย ส่วนที่นักท่องเที่ยวต่างตื่นเต้นที่สุดหากมาที่ Little Amazon คือขณะที่ล่องเรือลอดผ่านกิ่งก้านของต้นไทรก็จะพบ “งูปล้องทอง” ตัวเขื่องนอนขดตัวอยู่บนกิ่งไม้เหนือหัว จนอดไม่ได้ที่จะต้องยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
หากใครต้องการมาล่องเรือเที่ยวคลองสังเน่ห์ ขอแนะนำให้มาแต่เช้าเผื่อมีโอกาสพบนกเงือกที่บินออกมาหาอาหาร ส่วนเรือนำเที่ยวคลองสังเน่ห์มีเรือคายัคพร้อมคนไว้บริการ ซึ่งนั่งได้ลำละ 2 คน
ชม3อ่าวดังเมืองประจวบบน’เขาล้อมหมวก’
พื้นที่กองบิน 5 อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงเทศกาลปีใหม่ เนื่องจากมีทั้งอ่าวมะนาว ชายหาดชื่อดังระดับ 5 ดาวที่มีธรรมชาติสวยงาม นอกจากนั้นยังมีแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่อนุสาวรีย์วีรชน 8 ธันวาคม 2484 รวมทั้งการชมค่างแว่นถิ่นใต้กว่า 200 ตัวที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ บริเวณศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก
ส่วนไฮไลต์อยู่ที่การเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปพิชิตเขาล้อมหมวก ที่สูง 902 ฟุต แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และยังเป็นแหล่งอนุรักษ์ธรรมชาติในปฏิทินการท่องเที่ยวของสำนักงาน ททท.ประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากในช่วงที่ทหารญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกที่อ่าวมะนาว บนเขาล้อมหมวกมีถ้ำหลบภัยจุคนได้กว่า 1,500 คน และมีต้นเกตุ ต้นไม้สัญลักษณ์ประจำจังหวัดอยู่ปากถ้ำ ส่วนบริเวณยอดเขาล้อมหมวกมีรอยพระพุทธบาทจำลองที่กรมศิลปากรยืนยันว่าพบตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งค้นพบโดยบังเอิญขณะอัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นไปประดิษฐานบนยอดเขาเมื่อปี 2531
น.อ.อนิรุทธ์ รัฐพร ผู้บังคับการกองบิน 5 กล่าวว่า กิจกรรมพิชิตเขาล้อมหมวกช่วงเทศกาลปีใหม่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม – 2 มกราคม 2561 ก่อนขึ้นเขานักท่องเที่ยวต้องตรวจร่างกายเพื่อดูความพร้อม ขณะเดินขึ้นมีเจ้าหน้าที่ทหารดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทางการเดินขึ้นภูเขาจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง การเดินเท้าช่วงแรกจะมีบันได ช่วงที่ 2 จะต้องไต่เชือกไปถึงช่วงที่สูงชัน และเมื่อถึงยอดเขาล้อมหมวกนักท่องเที่ยวจะได้ชมวิว 360 องศาในมุมสูงทั่วเมืองประจวบคีรีขันธ์ และความมหัศจรรย์ของทะเล 3 อ่าว ประกอบด้วยอ่าวมะนาว อ่าวประจวบคีรีขันธ์และอ่าวน้อยที่มีความสวยงาม
ชมทะเลหมอกเหมืองแร่เก่า’เขาศูนย์’
เขาศูนย์ ตั้งอยู่ในพื้นที่คลองหราด ต.ไม้เรียง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ถูกจัดเป็นจังหวัดท่องเที่ยว “เมืองรอง” บริเวณรอบเขาศูนย์จะมีเขาบริวาร 3 ลูก คือเนินลูกกรอก ควนไฟไหม้ และเขาขวาง สภาพพื้นที่ป่ามีการปลูกต้นยางพาราแทรกอยู่ทั่วไปจนถึงยอดเขา บางส่วนเป็นพื้นที่ปลูกไม้ผล ลักษณะพื้นที่เป็นแนวเขาสูงสลับกับร่องเขา บนเขาศูนย์เป็นที่ลุ่มดอนสลับกันไปเนื่องจากมีหลุมแร่เก่าที่ยังคงเหลือร่องรอยเอาไว้ให้เห็น
ยอดเขาศูนย์มีความสูง 510 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง บนยอดเขาเป็นที่ตั้งของสถานีถ่ายทอดสัญญาณโทรคมนาคม มีการตัดถนนลาดยางขึ้นไปบนเขาตั้งแต่ปี 2508 ระยะทาง 7 กิโลเมตร ในช่วงเช้าหรือหลังฝนตกจะมีทะเลหมอกปกคลุมโดยรอบ อยู่ห่างจาก อ.ฉวาง 15 กิโลเมตร ซึ่งมีทางขึ้นลงได้สะดวกจากสถานีรถไฟทานพอ ถึงยอดเขาศูนย์เพียง 7 กิโลเมตรเท่านั้น
ในอดีตเขาศูนย์เคยเป็นเหมืองแร่วุลแฟรมเก่า ต่อมาทาง จ.นครศรีธรรมราช และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ขึ้นไปพัฒนาเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ มีนักท่องเที่ยวและประชาชนขึ้นมาชมความงามทะเลหมอกบนยอดภูเขาศูนย์ที่เพิ่งถูกค้นพบจำนวนมาก โดยมีทะเลหมอกที่สวยงาม เห็นเป็นภาพกว้าง ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวและประชาชนจะพากันขึ้นไปชมทะเลหมอก หากมีวันหยุดหลายวันจึงนำเต็นท์ขึ้นไปกางนอนพักผ่อน ชมความงามของธรรมชาติ มองเห็นทิวทัศน์สวยงามของทะเลหมอกที่กว้างสุดสายตา รวมทั้งขุนเขาสูงตระหง่านโผล่กลางทะเลหมอก จึงเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองนครศรีธรรมราช
