สสพ.2 พาเด็กเรียนรู้วิถีชีวิตนอกห้อง เดินตามรอยพ่อ สอนรู้จัก “พอเพียง”

สำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2 (สสพ.2) ดำเนินโครงการส่งเสริมสหกรณ์ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยจัดทำโครงการเสริมสร้างประสบการณ์ด้านการสหกรณ์ให้แก่นักเรียนในโครงการ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์งานสหกรณ์ให้กับนักเรียนและครูในโรงเรียนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 17 โรงเรียน โดยการเสริมสร้างความรู้และทักษะให้แก่เด็กและเยาวชน เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้วิธีการบริหารจัดการสหกรณ์ที่ประสบผลสำเร็จ เพื่อนำความรู้ไปปรับใช้ในการพัฒนากิจกรรมสหกรณ์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

คุณธนิต จันทร์ประทีป ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2

คุณธนิต จันทร์ประทีป ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2 (สสพ.2) กล่าวว่า ทาง สสพ.2 ได้ดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งในปีนี้ถือว่าพิเศษกว่าทุกปี เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงสวรรคต ซึ่งปัจจุบันโดยเฉพาะเด็กในสังคมเมืองคิดว่าปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หรือทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่ที่จริงแล้วเกี่ยวข้องโดยตรง สสพ.2 จึงจัดกิจกรรมทัศนศึกษาดูงานของเด็กนักเรียน ณ ศูนย์การเรียนรู้ทฤษฎีใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ กองทัพเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้เด็กๆ ได้เรียนรู้นอกห้องเรียน เรียนรู้วิถีชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง และน้อมนำเอาพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านมาใช้กับชีวิตประจำวัน หรือสามารถนำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อีก

ในการทัศนศึกษาของเด็กนักเรียนในครั้งนี้ คาดว่าเด็กนักเรียนจะได้ศึกษาเรียนรู้การใช้ชีวิตนอกห้องเรียนว่ามีความแตกต่างอย่างไร ใช้ชีวิตพอเพียงและนำเอาหลักทฤษฎีใหม่มาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันได้ เนื่องจากศูนย์การเรียนรู้ทฤษฎีใหม่แห่งนี้มีเนื้อที่ให้เด็กนักเรียนได้ศึกษาอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเรื่องของการทำเศรษฐกิจพอเพียง ทำเกษตรครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการเกษตรด้านประมง ปศุสัตว์ การปลูกข้าว การเลี้ยงสัตว์ การปลูกพืชระยะสั้น การเผาถ่านอัดแท่ง เป็นต้น โดยมีโรงเรียนเป้าหมายเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 17 โรงเรียน นักเรียน 204 คน ครู 17 คน รวมทั้งข้าราชการ และลูกจ้างของ สสพ.2 จำนวน 29 คน รวมทั้งสิ้น 250 คน

เด็กหญิงศุจิพรรณ ไกรญาณสม

เด็กหญิงศุจิพรรณ ไกรญาณสม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนศิริวังวิทยาคาร กรุงเทพฯ ประธานนักเรียนและเป็นตัวแทนนักเรียนในการเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ เล่าความรู้สึกในใจว่า หนูมีหน้าที่คอยดูแลกรรมการสหกรณ์นักเรียนและคอยดูแลลูกค้าที่เข้ามาซื้อของในร้านสหกรณ์ การมีสหกรณ์ในโรงเรียนทำให้เราได้คิดเลขและรู้จักการออมทรัพย์ รู้จักการทำบัญชีรายรับ รายจ่าย ซึ่งการมาทัศนศึกษาในครั้งนี้ได้ประโยชน์หลายอย่างและได้ความรู้เรื่องการทำการเกษตร และการแก้ไขปัญหาครอบครัว หนูจะกลับไปบอกน้องๆ ที่โรงเรียนในเรื่องของการทำเกษตรด้านต่างๆ ให้อยู่อย่างพอกินพอใช้ ส่วนครอบครัวของหนู จะให้พ่อกับแม่ปลูกผักสวนครัว เพื่อเก็บผักมารับประทานและเอาผักไปขายได้ ส่วนกิจกรรมที่ชอบในวันนี้คือ การเลี้ยงควาย เพราะควายเคยช่วยประเทศไทยไว้ มีประโยชน์กับชาวนา เคยช่วยคนให้สามารถกู้ประเทศไทย เคยออกรบด้วย

เด็กหญิงศิริวรรณ นุตมะหะหมัด

ส่วน เด็กหญิงศิริวรรณ นุตมะหะหมัด นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสุเหร่าลำแขก กรุงเทพฯ บอกว่า เริ่มรู้จักการออมตั้งแต่อยู่ชั้นอนุบาล 2 โดยพ่อแม่สอนให้รู้จักการออมไว้สำหรับเวลาจำเป็น ปกติจะได้เงินไปโรงเรียน วันละ 40 บาท เงินออมเป็นเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายในแต่ละวัน ซึ่งการออมในแต่ละวันจะไม่เท่ากัน บางวันก็เหลือมาก บางวันก็เหลือน้อย จะหยอดกระปุก วันละ 10-20 บาท รอให้เงินเต็มกระปุกจึงนำไปฝากธนาคาร ปัจจุบัน มีเงินออมประมาณ 20,000 บาท จะนำกลับไปบอกเพื่อนๆ น้องๆ และพ่อกับแม่ที่อยู่ที่บ้านว่าจะนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้ในด้านเศรษฐกิจพอเพียง เช่น การใช้เงินอย่างประหยัด การปลูกผักสวนครัว การเลี้ยงสัตว์

เด็กหญิงนิภาพร หนูเผือก

ด้าน เด็กหญิงนิภาพร หนูเผือก นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสุเหร่าลำแขก กรุงเทพฯ เล่าว่า มีหน้าที่อยู่ 2 หน้าที่คือ หน้าที่สหกรณ์การเกษตรและสหกรณ์ร้านค้า สำหรับสหกรณ์ร้านค้ามีหน้าที่เป็นกรรมการจัดเวรให้กับคนในสหกรณ์ คอยดูเวรทุกวันในตอนเช้าและตอนเที่ยงและมาจัดของทุกวัน ส่วนหน้าที่ในสหกรณ์การเกษตร คือ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ซึ่งเป็นการปลูกพืชไม่ใช้ดิน แต่ต้องให้น้ำทุกวัน และหมั่นคอยสังเกตไม่ให้แมลงเข้าไปเจาะกินใบผักได้ เมื่อเก็บผักมาได้จะส่งให้โรงอาหารเพื่อทำอาหารให้เด็กนักเรียนในโรงเรียนรับประทาน ส่วนที่เหลือจะส่งขายให้กับชุมชนที่อยู่รอบๆ โรงเรียน เพื่อนำรายได้จากการขายผักมาหมุนเวียนซื้ออาหารในโครงการอาหารกลางวันของนักเรียนต่อไป

“วันนี้หนูได้ความรู้เรื่องราวของพ่อในด้านต่างๆ ว่าท่านทรงงานหนักมากแค่ไหน รู้ถึงเกษตรทฤษฎีใหม่ รู้จักความพอเพียง หนูชอบการสาธิตปั่นจักรยานเพื่อให้น้ำออกมาตามสายสปริงเกลอร์ หากเราปั่นจักรยานช้า น้ำก็จะออกน้อย หากเราปั่นเร็ว น้ำก็จะออกมามาก สามารถรดน้ำต้นไม้ได้เลย ซึ่งสมัยก่อนไม่มีไฟฟ้าใช้ หากหนูเกิดทันสมัยก่อน หนูคงไม่มานั่งก้มเล่นโทรศัพท์ ไปไหนทีต้องก้มเล่นโทรศัพท์ ดังนั้น ในฐานะที่หนูเป็นเยาวชนรุ่นใหม่ สิ่งหนึ่งที่หนูอยากฝากถึงน้องๆ คือให้ทุกคนเดินตามรอยเท้าพ่อไปเรื่อยๆ เราต้องใช้ชีวิตแบบของเรา และเอาชีวิตของเขามาประยุกต์ใช้กับเราไม่ให้ซ้ำกับของคนอื่น หนูดีใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทยในแผ่นดินไทย เรามีทุกอย่างสมบูรณ์แบบ หนูคิดถึงพ่อหลวง หนูเห็นประวัติตอนทรงงานที่โทรทัศน์ได้นำกลับมาฉายให้เราได้ดูใหม่ หนูถึงรู้ว่าพ่อหลวงทรงงานหนักมากน้อยแค่ไหนค่ะ”

การจัดกิจกรรมทัศนศึกษา ในโครงการเสริมสร้างประสบการณ์ด้านการสหกรณ์ให้แก่ครูและนักเรียนตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ของทาง สสพ.2 ครั้งนี้ ถือเป็นแบบอย่างที่ดีในการปลูกฝังความคิดของเด็กนักเรียนได้นำเอาหลักทฤษฎีใหม่ หรือหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า เพื่อสร้างความเข้มแข็งและการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป