ที่มา | เทคโนโลยีเกษตร |
---|---|
ผู้เขียน | สาวบางแค22 |
เผยแพร่ |
“ส้มโอทับทิมสยาม” ไม้ผลเศรษฐกิจสำคัญของอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นสินค้าขายดีที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะคนจีน ที่ชื่นชอบส้มโอจากประเทศไทยมากเป็นพิเศษ เนื่องจากส้มโอทับทิมสยาม มีเนื้อแดง รสหวานฉ่ำ อร่อย น่ารับประทาน แถมยังเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่มีสรรพคุณทางยา มีวิตามินซีสูง สาวจีนจึงนิยมรับประทานเพื่อควบคุมน้ำหนัก ดังนั้น ส้มโอทับทิมสยาม จึงมีโอกาสส่งออกไปขายในประเทศจีนเพิ่มขึ้นทุกปี
ในปี 2561 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้สนับสนุนทุนกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยภายใต้โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากผลงานวิจัยและนวัตกรรมสู่กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่เพื่อการใช้ประโยชน์โดยเครือข่ายวิจัยภูมิภาค ประจำปีงบประมาณ 2560 ให้กับมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) ให้ดำเนินโครงการพัฒนาเทคโนโลยีเกษตรแม่นยำสำหรับสวนส้มโอทับทิมสยาม ที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อจัดการองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการสวนส้มโอทับทิมสยามและจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับองค์ความรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมายในระดับผู้นำในพื้นที่
รศ.ดร. กฤษณะเดช เจริญสุธาสินี และ รศ.ดร. มัลลิกา เจริญสุธาสินี แห่งศูนย์ความเป็นเลิศด้านนิเวศวิทยาพยากรณ์และการจัดการ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) ซึ่งเป็นทีมคณะนักวิจัยได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลจากเกษตรกรผู้ปลูกส้มโอทับทิมสยาม พร้อมกับถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยีเกษตรแม่นยำสำหรับส้มโอทับทิมสยามและระบบประมวลผลเทคโนโลยีสารสนเทศ บนคลาวด์ (Cloud) เพื่อนำมาแสดงแบบเว็บท่าเพื่อช่วยเกษตรกรสวนส้มโอทับทิมสยามในการตัดสินใจให้น้ำเพื่อการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่และก่อนการเก็บเกี่ยวผลผลิต ถ่ายทอดให้กับเกษตรกรสวนส้มโอทับทิมสยาม
วิธีปลูกส้มโอทับทิมสยาม ให้รอด
หากต้องการปลูกส้มโอทับทิมสยามให้ประสบความสำเร็จ ต้องเริ่มต้นจากการคัดเลือกกิ่งพันธุ์ส้มโอที่เหมาะสม โดยเลือกจากต้นแม่พันธุ์ที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป ที่ให้ผลแล้ว มีผลดก มีรสชาติดี เลือกจากต้นที่มีความเจริญเติบโตแข็งแรง มีโรคและแมลงน้อยที่สุด เลือกกิ่งกลม ไม่เป็นเหลี่ยม เลือกกิ่งที่มีใบเป็นเพสลาด ไม่ควรเลือกกิ่งอ่อนหรือแก่เกินไป เพราะทำให้ตายง่ายและโตช้า
นอกจากนี้ ดิน ก็มีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้มีชัยไปกว่าครึ่ง ยิ่งปลูกในดินดี ที่มีส่วนผสมของดินเหนียว 70% มีค่า pH 5.2-7.2 จะช่วยให้ต้นส้มโอทับทิมสยามเจริญเติบโตได้ดี หากดินมีค่า pH น้อยกว่านี้ จำเป็นต้องปรับสภาพโดยใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยชีวภาพ
สวนส้มโอทับทิมสยามในพื้นที่อำเภอปากพนัง มีสภาพเป็นที่ลุ่ม เกษตรกรจึงนิยมปลูกโดยขุดยกร่องสวน กว้าง 6 เมตร สำหรับปลูกแบบแถวเดี่ยว หรือขุดร่องสวน กว้าง 14 เมตร สำหรับการปลูกแบบแถวคู่ และเว้นร่องน้ำให้กว้าง 2 เมตร ลึก 1 เมตร
เกษตรกรนิยมปลูกส้มโอทับทิมสยามโดยใช้กิ่งตอน มีทรงพุ่มค่อนข้างแผ่กว้าง 6-8 เมตร ติดผลตรงปลายกิ่ง กำหนดระยะปลูกระหว่างแถว 8 เมตร และระยะระหว่างต้น 6 เมตร ทำให้ปลูกได้ 33 ต้น ต่อไร่ การปลูกส้มโอทับทิมสยามจากกิ่งตอนทำให้มีรากน้อยและการกระจายของรากมีจำกัด ทำให้ต้องขุดหลุมขนาดใหญ่ ดินร่วนโปร่ง ระบายน้ำและอากาศดี มีธาตุอาหารที่เหมาะสม ขุดหลุมปลูกกว้าง 1x1x1 เมตร ตากหลุมไว้ 1 เดือน เพื่อให้แสงแดดฆ่าเชื้อโรคและทำลายวัชพืช หลังจากนั้น กลบหลุมโดยผสมหน้าดินที่ขุดขึ้นมากับปุ๋ยคอกเก่า จำนวน 10 กิโลกรัม และปุ๋ยหินฟอสเฟต ประมาณ 500 กรัม ต่อหลุม คลุกเคล้าเข้าด้วยกัน เพื่อใช้รองก้นหลุมก่อนปลูก
หลังปลูกให้ใช้ไม้ปักและผูกเชือกยึดกิ่งพันธุ์ ประมาณ 1 ปี เพื่อป้องกันลมพัดโยก คลุมดินบริเวณโคนต้นด้วยฟางข้าวหรือหญ้าแห้ง เพื่อรักษาความชุ่มชื้น รดน้ำให้ชุ่มและทำร่มเงาในช่วง 1-2 เดือนแรก ประมาณ 15-20 วัน ต้นส้มโอทับทิมสยามที่ปลูกจะแตกยอด หากเป็นไปได้ควรปลูกในฤดูแล้ง เพราะต้นส้มโอแตกยอดเร็วกว่าฤดูฝน เนื่องจากต้นส้มโอทับทิมสยามต้องการแสงแดด 100%
ต้นส้มโอทับทิมสยาม อายุ 1-2 เดือน ไม่ต้องให้ปุ๋ย หลังปลูก 2-5 เดือน ให้ปุ๋ยชีวภาพ เมื่ออายุ 6 เดือน ให้ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 เดือนละ 1 ครั้ง เมื่อต้นส้มโออายุ 1 ปี ต้นส้มโอจะเติบโตแตกกิ่งก้านสาขา ค่อยให้ปุ๋ย สูตร 40-0-0 ผสมกับปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 สัดส่วน 1:2 ในอัตราส่วน 200 กรัม ต่อต้น ทุกๆ 3 เดือน สลับการใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ เมื่อต้นส้มโอทับทิมสยาม อายุ 2-3 ปี ใส่ปุ๋ยเคมีสูตรดังกล่าวข้างต้น 0.5-1 กิโลกรัม ต่อต้น ทุกๆ 3 เดือน
เมื่อต้นส้มโออายุ 4 ปี เริ่มให้ผลผลิตในช่วงแรกให้ใส่ปุ๋ย 15-15-15 ในอัตรา 1-2 กิโลกรัม ต่อต้น ทุกๆ 2 เดือน หรือดูขนาดทรงพุ่มเป็นหลักในการให้ปุ๋ย หลังจากต้นส้มโอติดผลแล้ว ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 อัตรา 2-3 กิโลกรัม ต่อต้น เพื่อเพิ่มขนาดของผลและก่อนเก็บเกี่ยวประมาณ 1-2 เดือน ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 14-14-21 อัตรา 2-3 กิโลกรัม ต่อต้น เพื่อเพิ่มความหวานของผลส้มโอทับทิมสยาม
ก่อนการเก็บผลส้มโอทับทิมสยาม เกษตรกรสวนส้มโอจะงดการให้น้ำ เพื่อให้ผลส้มโอทับทิมสยามมีรสชาติหวานขึ้นเป็นระยะเวลา 10-14 วัน เพื่อให้ได้ส้มโอทับทิมสยามรสหวานจัดซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด ปัจจุบัน เกษตรกรสามารถคัดขนาดผลส้มโอทับทิมสยามออกขายเป็น 4 เบอร์ ได้แก่ เบอร์ 1 เส้นรอบผล 19 นิ้วขึ้นไป ราคา 280 บาท เบอร์ 2 ขนาดเส้นรอบผล 18-19 นิ้ว ราคา 220 บาท เบอร์ 3 ขนาดเส้นรอบผล 17-18 นิ้ว ราคา 200 บาท และ เบอร์ 4 ขนาดเส้นรอบผล 16-17 นิ้ว ราคา 180 บาท
ทั้งนี้ นักวิจัยมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้คำนวณพื้นที่ปลูกส้มโอทับทิมสยาม จำนวน 1 ไร่ พบว่า มีค่าใช้จ่ายต่อไร่ เฉลี่ย 36,250 บาท แบ่งเป็นค่าขุดร่องน้ำ 4×2 เมตร หน้าดินกว้าง 10-20 เมตร เพื่อปลูกจำนวน 2 แถว คิดเป็นจำนวนเงิน 15,000 บาท ค่ากิ่งพันธุ์ 35 กิ่ง ต่อไร่ จำนวน 5,250 บาท ค่าวางระบบน้ำ 6,000 บาท ค่าดูแลรักษา 5,000 บาท และค่าปุ๋ย ค่ายา อีกไร่ละ 10,000 บาท
เทคโนโลยีสมาร์ทฟาร์ม
เกษตรอัจฉริยะ หรือ สมาร์ทฟาร์ม (Smart Farming) เป็นการทำเกษตรรูปแบบใหม่ที่จะทำให้การทำไร่นามีภูมิคุ้มกันต่อสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป โดยการนำข้อมูลของภูมิอากาศทั้งในระดับพื้นที่ย่อยระดับไร่ และระดับมหภาคมาใช้ในการบริหารจัดการ ดูแลพื้นที่เพาะปลูก เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพอากาศที่เกิดขึ้น รวมถึงการเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่จะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต
สำหรับอุปกรณ์ที่นักวิจัยมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์นำมาใช้ในสวนส้มโอทับทิมสยามครั้งนี้ ได้แก่ การติดตั้งอุปกรณ์เซ็นเซอร์ตรวจวัดอากาศ ตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นในดิน รวมไปถึงระบบประมวลผลเทคโนโลยีสารสนเทศบนคลาวด์ (Cloud) แสดงผลแบบเว็บท่าทำให้เกษตรกรสวนส้มโอทับทิมสยามสามารถตัดสินใจให้น้ำเพื่อการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่และก่อนการเก็บเกี่ยวผลผลิต
รศ.ดร. กฤษณะเดช เจริญสุธาสินี นักวิจัยของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) กล่าวว่า งานด้านการเกษตรแม่นยำที่เป็นกรณีศึกษาครั้งนี้ มุ่งศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความชื้นดินกับความหวานของผลส้มโอที่เหมาะสมในการเก็บผลผลิต ซึ่งจากการสังเกตการณ์และการทดลองของชาวสวนส้มโอทับทิมสยาม พบว่า เนื้อส้มโอจะหวานขึ้นเมื่อความชื้นในดินลดลงถึงระดับหนึ่ง
อุปกรณ์ที่ถูกนำมาใช้ทดสอบในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย เซ็นเซอร์วัดค่าความกดอากาศ ตัววัดความชื้นสัมพัทธ์ของอากาศได้ ถังวัดปริมาณน้ำฝน เซ็นเซอร์วัดค่าการแผ่รังสีของดวงอาทิตย์ และค่าดัชนีอัลตราไวโอเล็ต เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิห้อง เซ็นเซอร์วัดความเร็วลม และอุปกรณ์ยังมีแผงพลังงานแสงอาทิตย์ในการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์สำหรับการต่อเข้ากับเครื่องตรวจวัดที่สามารถสำรองไฟไว้ใช้ได้ในช่วงไม่มีแสงอาทิตย์ไม่น้อยกว่า 8 เดือน นอกจากนี้เกษตรกรสามารถดาวน์โหลดข้อมูลทั้งแบบ USB และแบบสายแลน (LAN line) และระบบไร้สายได้
สถานีตรวจวัดสภาพอากาศอัตโนมัติจะถูกติดตั้งไว้ในสวนส้มโอทับทิมสยาม จะตรวจวัดสภาพอากาศทุก 5 นาที และส่งข้อมูลดังกล่าว แบบไร้สายมายังอุปกรณ์รับสัญญาณ (Local Console) ซึ่งเชื่อมต่ออยู่กับอุปกรณ์กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ต (Router) และส่งต่อไปยังคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก (Portable Computer) ตามลำดับ นอกจากนี้ ข้อมูลสภาพอากาศดังกล่าว ยังถูกส่งสัญญาณผ่านเครือข่าย 3G (Cellular Console) ไปเก็บรวบรวมเป็นฐานข้อมูลสภาพอากาศระยะยาวบนคลาวด์ (Cloud) เพื่อที่เกษตรกรสามารถดูข้อมูลย้อนหลัง เพื่อวิเคราะห์การตัดสินใจในการจัดการสวนส้มโอทับทิมสยามได้
จากเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จ นำเทคโนโลยีเกษตรแม่นยำมาใช้ โดยติดตั้งสถานีตรวจวัดอากาศอัตโนมัติ สถานีวัดอุณหภูมิและความชื้นในดินแบบแม่นยำและระบบกล้องติดตาม นำข้อมูลเชิงสภาพอากาศที่วัดได้นี้มาหาองค์ความรู้ พัฒนาระบบเว็บท่าที่สามารถแสดงข้อมูลสภาพอากาศและดินแบบทันที เพื่อนำไปสู่การทำเกษตรแม่นยำของสวนส้มโอทับทิมสยาม ทำให้เกษตรกรได้ผลผลิตส้มโอทับทิมสยามคุณภาพรสชาติหวานจัด เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ และลดการสูญเสียของผลผลิตแก้ปัญหาผลส้มโอแตกก่อนการเก็บเกี่ยว
สำหรับผู้อ่านที่สนใจ เทคโนโลยีสมาร์ทฟาร์ม และระบบเกษตรแม่นยำของสวนส้มโอทับทิมสยาม สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กับ รศ.ดร. กฤษณะเดช เจริญสุธาสินี นักวิจัยของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) ได้ทางอีเมล [email protected] หรือทาง https://www.facebook.com/ krisanadej