ที่มา | เทคโนโลยีเกษตร |
---|---|
ผู้เขียน | จิรวรรณ โรจนพรทิพย์ |
เผยแพร่ |
จังหวัดปทุมธานี นับเป็นทำเลทองของภาคเกษตรกรรม และเป็นแหล่งผลิตสินค้าอาหารที่สำคัญของประเทศ ซึ่ง “บริษัท คิง ฟรุทส์ จำกัด” เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ดูแลตั้งแต่การเพาะปลูกจนถึงแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตร คิง ฟรุทส์ เป็นผู้นำตลาดกล้วยหอมทองรายใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศไทย มีเนื้อที่ปลูก 3,000-4,000 ไร่ ผลิตกล้วยหอมทอง คุณภาพเยี่ยม เกรดส่งออก ยี่ห้อ “BANANA KING” ส่งขายห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สายการบิน โรงแรม ตลาดไท และร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ปัจจุบันหลายธุรกิจยอดขายร่วง-ตลาดซบเซา จากวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 แต่ คิง ฟรุทส์ ยังเติบโตสวนกระแส โกยยอดขายเพิ่ม 5-10% คิง ฟรุทส์ ทำได้อย่างไร ไปหาคำตอบร่วมกัน
ฝ่าวิกฤตภัยแล้ง
คุณเกรียงศักดิ์ และ คุณเสาวณี วิเลปะนะ สองสามีภรรยา เจ้าของ บริษัท คิง ฟรุทส์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า ในอดีต เมื่อถึงช่วงฤดูแล้ง จะมีกล้วยหอมทองป้อนเข้าสู่ตลาดน้อยลง เพราะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในแหล่งผลิต แต่ปัจจุบัน คิง ฟรุทส์ สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้แล้ว โดยศึกษาข้อมูลว่า ช่วงฤดูแล้ง พื้นที่ใดยังมีแหล่งดินดีและมีน้ำสมบูรณ์ โดยบริษัทส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกกล้วยหอมทองและรับซื้อผลผลิตในราคาประกัน อยู่ที่หวีละ 40 บาท
ปัจจุบัน บริษัทมีพื้นที่ปลูกกล้วยหอมทองของตัวเอง ประมาณ 2,000-3,000 ไร่ และมีเครือข่ายเกษตรกรอีก 1,000 ไร่ กระจายอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ตราด กาญจนบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง ชัยภูมิ กำแพงเพชร เพชรบุรี นอกจากนี้ ก่อนถึงช่วงฤดูแล้งจะเข้าไปแนะนำให้เกษตรกรในเครือข่ายปรับเปลี่ยนวิธีดูแลแปลงปลูกเพื่อลดผลกระทบจากภัยแล้ง เช่น ใช้เศษฟางข้าวคลุมใต้ต้นกล้วย และแนะนำให้รดน้ำเฉพาะช่วงเย็นหรือกลางคืน เพื่อลดการระเหยของน้ำในดิน แม้ต้นกล้วยจะโตช้าไปหน่อยในช่วงฤดูแล้ง แต่ยังให้ผลผลิตป้อนเข้าสู่โรงงานอย่างต่อเนื่อง
โตสวนกระแสวิกฤต โควิด-19
ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคธุรกิจ ทำให้สินค้าเกษตรหลายชนิดประสบปัญหาด้านการตลาด ยอดขายลด เพราะส่งออกหรือขายสินค้าไม่ได้ แต่ยอดขายกล้วยหอมทองของ คิง ฟรุทส์ กลับเติบโตสวนกระแส ยอดขายพุ่งกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ประมาณ 5-10%
คุณเสาวณี ให้คำตอบว่า ยอดขายในกลุ่มห้างสรรพสินค้า ตลาดไท ลดลงมาก รวมทั้งสายการบินและโรงแรม ยอดขายหายเกือบ 100% แต่ยอดขายในกลุ่มร้านสะดวกซื้อ และยอดสั่งซื้อเดลิเวอรี่ (Food Delivery) ผ่านแอปพลิเคชั่นมียอดขายสูงขึ้น ปัจจัยบวกที่กระตุ้นยอดขายเกิดจากกระแสข่าวที่ว่า กินกล้วย ช่วยป้องกันโรคโควิด-19 แม้ยังไม่มีผลงานวิจัยใดที่สามารถพิสูจน์ความจริงดังกล่าว
แต่กล้วย นับเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ทั้งสารโพแทสเซียม แมกนีเซียม และมีเส้นใยอาหารสูง เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนเลือด บำรุงประสาท ให้พลังงานสูงและย่อยง่าย มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อหัวใจและสมอง กล้วยหอม เป็นผลไม้มหัศจรรย์ที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับนักกีฬาที่ต้องใช้พละกำลัง และใช้เวลาแข่งขันนานๆ ที่สำคัญกล้วยเป็นผลไม้ที่มีราคาไม่แพง กินง่าย ทำให้คนไทยหันมากินกล้วยเพื่อบำรุงสุขภาพกันมากขึ้น
ล่าสุด คิง ฟรุทส์ ได้เซ็นสัญญาขายสินค้าผ่านช่องทางแกร็บฟู้ด (Grab Food) โดยเน้นขายผลไม้ประเภทกล้วยหอมทอง (หวี) ส้มโอ แอปเปิ้ล ฯลฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นหนึ่งช่องทางการที่ช่วยขยายตลาดของ คิง ฟรุทส์ ในอนาคต
นอกจากนี้ คิง ฟรุทส์ ได้ทุ่มงบลงทุนกว่า 80 ล้านบาท สร้างโรงงานแห่งใหม่สำหรับแปรรูปตัดแต่งผลไม้ เนื้อที่ 3 ไร่ ตั้งอยู่ในโครงการ “บิ๊กเกอร์ แลนด์” ลำลูกกา คลองเก้า จังหวัดปทุมธานี เน้นผลิตผลไม้เกรดพรีเมี่ยมพร้อมกิน ป้อนร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ขณะนี้สินค้าตัวใหม่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้าและทดสอบตลาด โดยตั้งราคาขายต่อกล่อง ตั้งแต่ 30 บาทขึ้นไป เน้นผลิตสินค้าขายดีที่นิยมในท้องตลาด เช่น ฝรั่งกิมจู ขนุนทองประเสริฐ แอปเปิ้ล ส้มโอขาวน้ำผึ้ง ฯลฯ โดยจะเริ่มจำหน่ายสินค้าตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป
สร้างนวัตกรรมเพิ่มมูลค่ากล้วย
คุณเสาวณี กล่าวว่า เราดำเนินธุรกิจอยู่ในวงการค้าผลไม้มานาน 20 ปีแล้ว และดำเนินกิจการ นาม บริษัท คิง ฟรุทส์ เป็นปีที่ 9 ประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาสอนให้เรารู้ว่า ธุรกิจเกษตรมีความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติและมีปัญหาอุปสรรคต่างๆ ดังนั้น การทำเกษตรหากดำเนินธุรกิจขายสินค้าเกษตรแบบเดิมๆ จะเติบโตไม่ได้ ต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพื่อความอยู่รอด หากยังอยู่ในภาคเกษตร ต้องพัฒนาต่อยอดเชิงธุรกิจ ต้องพัฒนารูปแบบสินค้าและบริการตอบโจทย์ความต้องการของตลาดให้ได้มากที่สุด
คิง ฟรุทส์ เก่งเรื่องผลไม้ รู้ว่ามีแหล่งผลิตผลไม้คุณภาพดีอยู่ที่ไหนบ้าง และคัดสินค้าคุณภาพดีนำเสนอให้ลูกค้า ขณะเดียวกันลดต้นทุนจากเปอร์เซ็นต์การสูญเสียวัตถุดิบ สินค้าในโรงงานมีทั้งกล้วยสุกและกล้วยดิบ หากช่วงไหนผลผลิตเข้าโรงงานมาก ขายไม่ทันหรือกล้วยผิวไม่สวย ขายไม่ได้ราคา ก็นำมาแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแทน
กล้วยดิบ นำมาแปรรูปเป็นผงกล้วยหอมทอง ใช้ชงเพื่อเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ส่วนกล้วยสุกนำมาแปรรูปเป็นแป้งกล้วยหอมทอง ซึ่งสินค้าทุกชิ้นเกิดจากผลงานของแผนกวิจัยและพัฒนาของบริษัท แถมมีรางวัลจากเวทีประกวดเป็นเครื่องการันตีคุณภาพสินค้า ทางแผนกวิจัยและพัฒนาจะนำผงกล้วยและแป้งกล้วยไปพัฒนาเป็นสินค้ารูปแบบต่างๆ เป็นไอเดียไปเสนอขายลูกค้า ซึ่งเป็นโรงงานอุตสาหกรรมอาหาร
เมื่อลูกค้าสนใจก็จะสั่งซื้อวัตถุดิบผงกล้วยหรือแป้งกล้วยจากบริษัทเข้าไปใช้ในกระบวนการผลิตสินค้า เปิดโอกาสให้บริษัทสามารถขยายตลาดสินค้าแปรรูปประเภทนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศในอนาคต
และปลายปีนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ “บราวนี่สำเร็จรูป (Brownie mix) จากแป้งกล้วยหอมทอง” ในงานแสดงสินค้า THAIFEX WORLD OF FOOD ASIA 2020 ที่ตอบโจทย์คนเมืองรุ่นใหม่ ที่นิยมอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะสินค้าใหม่ของบริษัททำง่าย และดีต่อสุขภาพ แค่เทผงบราวนี่สำเร็จรูปที่ได้จากแป้งกล้วยหอมทองลงในถ้วย เติมน้ำและนม ใส่ไมโครเวฟ แค่ 1 นาทีครึ่ง จะได้ขนมบราวนี่หอมหวานอร่อยออกมากินได้ทันที สินค้าชิ้นนี้ได้รับรางวัลจากเวทีการประกวดผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารปทุมธานี 2019 มาแล้ว เชื่อว่า เมื่อเปิดการขาย สินค้าตัวนี้จะเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคในวงกว้าง เพราะขายในราคาไม่แพง แถมทำได้ง่ายและมีรสชาติอร่อยถูกใจผู้บริโภค
วิจัย DNA กล้วยหอมทอง สัญชาติไทย
แผนกวิจัยและพัฒนา ของ คิง ฟรุทส์ ใช้เวลากว่า 1 ปี ในการศึกษาวิจัย DNA กล้วยหอมทองจนเสร็จสมบูรณ์ ผลงานดังกล่าวได้รับรางวัลงานวิจัยยอดเยี่ยม ในงานประชุมวิชาการนานาชาติ ที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่าน ผลงานดังกล่าวเข้าตากรรมการนักวิจัย เพราะเป็นผลงานวิจัยที่โดดเด่น เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาไม้ผลของไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในวงการค้าระดับนานาชาติมากขึ้น
เพราะทุกวันนี้ ราคากล้วยหอมทองที่ขายในประเทศและต่างประเทศแทบไม่แตกต่างกัน เพราะลูกค้าต่างชาติคิดว่า กล้วย คือ กล้วย (BANANA) เพราะรู้จักแต่กล้วยคาแวนดิช ของฟิลิปปินส์และคอสตาริกา เมื่อเรานำเสนอกล้วยหอมทองก็เอาราคาไปเปรียบเทียบราคากล้วยคาแวนดิช ทั้งๆ ที่เป็นกล้วยต่างชนิดกัน รสชาติความอร่อยก็แตกต่างกัน ทำให้ คิง ฟรุทส์ เกิดแรงบันดาลใจในการศึกษาวิจัย ดีเอ็นเอ กล้วยหอมทอง อย่างเป็นทางการ และได้ประโยชน์ต่อการส่งออกกล้วยหอมทองในอนาคต
คุณเสาวณี เล่าว่า เมื่อเร็วๆ นี้ มีบริษัทแปรรูปอาหารของเกาหลีใต้มาสั่งซื้อกล้วยแช่เย็น (Frozen) เดิมเขาใช้กล้วยคาแวนดิชจากปะเทศเวียดนาม แต่ไม่พึงพอใจในคุณภาพ ต้องการกล้วยคุณภาพดี ที่มีรสชาติหวานหอม เมื่อนำเสนอกล้วยหอมทองเข้าไป ลูกค้าพอใจมาก แต่ต้องการให้มีการรับรองสายพันธุ์ว่าเป็นกล้วยหอมทองจริงๆ โชคดีที่ คิง ฟรุทส์ ทำวิจัยเรื่อง ดีเอ็นเอ กล้วยหอมทองอยู่แล้ว จึงเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพสินค้าได้ ลูกค้าก็ยินดีที่จะซื้อกล้วยหอมทองในราคาสูงกว่ากล้วยคาแวนดิช
คิง ฟรุทส์ ยินดีแบ่งผลงานวิจัย ดีเอ็นเอ ให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการที่ต้องการส่งออกกล้วยหอมทองไปต่างประเทศ เพื่อผลักดันการส่งออกกล้วยหอมทองของไทยสู่ตลาดโลกให้มากขึ้น หากใครสนใจผลงานชิ้นนี้ สามารถติดต่อกับ คิง ฟรุทส์ ได้ตลอดเวลา เพราะเชื่อว่าหากตลาดโลกต้องการกล้วยหอมทองของไทยเป็นจำนวนมาก ยิ่งผลิตได้คุณภาพดี ราคาขายก็พุ่งสูงตามไปด้วย จะช่วยสร้างอาชีพให้เกษตรกรไทยหันมาลงทุนปลูกกล้วยหอมทอง เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนในอนาคต
โมเดล “คิง ฟรุทส์”
ขณะนี้ บริษัทกำลังสร้าง โมเดล “คิง ฟรุทส์” เพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคการผลิตคือ เกษตรกรเครือข่ายลูกไร่ของเรา ที่เริ่มต้นทำธุรกิจกับบริษัทตั้งแต่ 3 คน จนพัฒนาเป็นกลุ่มเกษตรกร ยกระดับเป็นวิสาหกิจชุมชนที่มีสมาชิกกว่า 100 คน และมีการส่งต่ออาชีพไปยังทายาท รุ่น 2 ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่เคยเป็นมนุษย์เงินเดือน ที่หันกลับมาช่วยพ่อแม่ทำเกษตรเพื่อทำงานเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเอง ทำให้การพัฒนาคุณภาพสินค้าปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ
บริษัทพยายามผลักดันให้เกิดการรวมกลุ่มในลักษณะวิสาหกิจชุมชนเพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างความเข้มแข็งในกลุ่มเกษตรกร เพราะนอกจากจะมีบริษัททำหน้าที่สนับสนุนด้านวิชาการและงบประมาณแล้ว ยังมีหน่วยงานภาครัฐอีกมากมายเข้ามาสนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มวิสาหกิจให้เกิดการพัฒนาอาชีพมากขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะเราไม่อยากเป็นแค่คนปลูกกล้วยและพ่อค้าซื้อกล้วย แต่ต้องการให้ทุกคนเติบโตและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน, มติชนสุดสัปดาห์ และศิลปวัฒนธรรม ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่