| ผู้เขียน | สุรเดช สดคมขำ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี่วงการไม้ประดับบ้านเราค่อนข้างคึกคัก โดยเฉพาะไม้ใบสวยๆ อย่าง อะโกลนีมา ที่มีสีสันสวยงามสะดุดตานั้น ได้มีการซื้อขายกันอย่างกว้างขวางในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าไม้ประดับอย่างอะโกลนีมา จะมีการปลูกและสร้างการทำตลาดมานานแล้วก็จริงในบ้านเรา แต่ความนิยมก็ยังมีให้เห็นจากผู้คนที่ชื่นชอบเฉพาะกลุ่ม และขยายเป็นวงกว้าง สามารถสร้างการทำตลาดได้ทั้งในและต่างประเทศ ทำรายได้ให้กับเกษตรกรไทยไม่น้อยทีเดียว
คุณณัฐพล สภาพอัฐ ทำสวนอะโกลนีมา อยู่ที่ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ทำการปลูกเลี้ยงอะโกลนีมา มากกว่า 5 ปี โดยมีการพัฒนาสายพันธุ์และสร้างการขยายพันธุ์จากพันธุ์แท้อยู่เสมอ จึงทำให้ไม้ที่เขาผลิตมีคุณภาพ และเป็นที่ต้องการของลูกค้ามาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังสามารถส่งไม้ออกจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศสร้างรายได้ให้กับเขาได้ไม่น้อยทีเดียว
คุณณัฐพล เล่าว่า ผู้ที่เริ่มทำการปลูกอะโกลนีมาในช่วงแรกนั้น คือ คุณแม่ของเขา ต่อมาเมื่อได้เรียนรู้และศึกษาในไม้สายพันธุ์นี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาเริ่มหลงใหลและชอบที่อยากจะทำเป็นอาชีพในเวลาต่อมา เมื่อมีตลาดที่มั่นคงจึงค่อยๆ นำสายพันธุ์ใหม่ที่หาซื้อจากสวนอื่นเข้ามาภายในสวนของเขาเรื่อยๆ เพื่อขยายพันธุ์ให้มีคุณภาพ และสร้างสายพันธุ์ใหม่ออกสู่ท้องตลาดอยู่เสมอ
โดยการขยายพันธุ์ไม้ภายในสวนนั้น จะเน้นการขยายพันธุ์แบบการปักชำเป็นส่วนใหญ่ เพราะจะได้ไม้ที่ขยายออกมาได้เร็วและเหมือนพันธุ์ต้นแม่ทุกประการ ต้นแม่ ก่อนที่จะนำมาปักชำ จะเลี้ยงให้ไม้มีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้น ไปจนถึง 1 ปี เมื่อตัดยอดต้นแม่ออกมาปักชำแล้วจะนำมาปลูกลงในวัสดุจำพวกกาบมะพร้าว และดินใบก้ามปู ในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 จากนั้นนำยอดปักชำที่ได้ไปดูแลในตู้อบเป็นเวลา 1 เดือน
“พอไม้ที่เราปักชำได้อายุครบกำหนดในตู้อบ เสร็จแล้วเราก็จะเอามาพักไว้ข้างนอก ประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อให้ไม้ปรับตัวกับสภาพอากาศข้างนอก หลังจากนั้นเราก็จะดูแลไม้ด้วยการใส่ปุ๋ยออสโมโค้ทสูตรเสมอ 16-16-16 เพื่อเป็นการบำรุงต้นไปสักระยะหนึ่ง จากนั้นย้ายไม้ที่เราคิดว่าปรับสภาพอยู่ข้างนอกได้ดีแล้ว ย้ายวางเรียงในพื้นที่ที่เตรียมไว้ อยู่ในโรงเรือนที่มีตาข่ายพรางแสง 80 เปอร์เซ็นต์ ก็จะช่วยให้ไม้เจริญเติบโตดี และมีสีสันสวยงามในไม้บางต้นที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง” คุณณัฐพล บอก
ในเรื่องของการดูแลไม้ในแต่ละวันนั้น คุณณัฐพล บอกว่า จะรดน้ำตามสภาพอากาศที่เป็นจริง หากสภาพอากาศมีความชื้นต้องรดน้ำให้อยู่ในความพอดี ไม่เช่นนั้นจะทำให้ต้นเน่าและเกิดเชื้อราเข้าทำลายไม้ภายในสวน วิธีการแก้ในเรื่องของเชื้อรา จะแช่กาบมะพร้าวให้สะอาดแล้วจึงนำมาปลูก ส่วนในเรื่องของการป้องกันโรคและแมลงต่างๆ นั้น จะใช้ยากำจัดแมลงศัตรูพืชที่หาซื้อได้จากร้านเคมีภัณฑ์ทั่วไป มาฉีดพ่นให้ทั่วสวน โดยฉีดยากำจัดแมลงศัตรูพืชก่อน 7 วัน หลังจากนั้นอีก 7 วัน จึงฉีดยาป้องกันเชื้อยาฉีดสลับแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะช่วยให้สวนไม่มีในเรื่องของแมลงศัตรูพืชและเชื้อราเข้ามาทำลายไมให้เกิดความเสียหาย
สำหรับการทำตลาดเพื่อจำหน่ายอะโกลนีมานั้น คุณณัฐพล บอกว่า สมัยแรกในเมื่อทำสวนใหม่ๆ ยังไม่มีลูกค้าเข้ามาติดต่อขอซื้อมากนัก แต่เมื่อมีการพัฒนาการทำไม้อยู่เสมอ และไม้มีประมาณมากจนเต็มพื้นที่ภายในสวน จึงทำให้ลูกค้าที่ผ่านไปผ่านมาในย่านนี้เห็นความโดดเด่นของไม้ภายในสวนของเขา ก็จะเข้ามาสอบถามอยู่เสมอเป็นระยะ ทำให้ไม้เริ่มจำหน่ายได้และลูกค้าบอกกันไปปากต่อปาก สร้างรายได้ สามารถเลี้ยงตนเองได้มาจนถึงทุกวันนี้
โดยไม้จะเริ่มมีการทำการตลาดทั้งแบบออนไลน์และจำหน่ายตรงที่หน้าสวน ซึ่งอะโกลนีมาที่จำหน่ายจะเริ่มตั้งแต่กระถาง 5 นิ้ว ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ กระถางละ 20-30 บาท ส่วนไม้ที่เกิดจากการพัฒนาพันธุ์และมีประมาณที่น้อย ราคาจำหน่ายอยู่ที่ กระถางละ 1,000-1,500 บาท อย่างเช่นช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา เขาบอกว่าตลาดไม้ประดับถือว่าสร้างมูลค่าได้เป็นอย่างดี เพราะลูกค้าเข้ามาสั่งซื้อออนไลน์ทำให้บางช่วงผลิตไม้จำหน่ายไม่ทันต่อความต้องการเลยทีเดียว
“ตอนนี้เรามีระบบขนส่งที่ดี มีแหล่งเรียนรู้การทำไม้ขึ้นเรื่อยๆ ผมต้องบอกเลยว่า ตลาดไม้อย่างอะโกลนีมายังสามารถไปได้เรื่อยๆ อย่างผมทำมา 6 ปีแล้ว ไม้ก็ยังขายตัวเองได้ บางช่วงแม้จะเงียบๆ แต่ก็ยังจำหน่ายได้เรื่อยๆ สำหรับใครที่อยากจะปลูกอะโกลนีมา อย่างแรกเลยที่ผมอยากให้มีก่อน คือในเรื่องของใจรัก เพราะถ้าเรามีใจรักที่จะทำ ก็จะทำให้สามารถสร้างไม้ที่มีคุณภาพออกมาได้อยู่เสมอ จากนั้นเราก็จะสร้างตลาดและเห็นทิศทางความสำเร็จได้อย่างแน่นอน” คุณณัฐพล บอก
สำหรับท่านใดสนใจในเรื่องของการปลูกอะโกลนีมา สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณณัฐพล สภาพอัฐ หมายเลขโทรศัพท์ (096) 794-4363
