สมสุข ศรีวาปะ ต่อยอดศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง ขยายพันธุ์สะตอตรัง 1

จากผลงานวิจัยและพัฒนาพันธุ์สะตอพันธุ์พื้นเมืองจนได้สะตอพันธุ์ตรัง 1 ของศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร จนมีผู้จองต้นพันธุ์สะตอ ตรัง 1 จำนวนกว่า 70,000 ต้น แต่ยังไม่สามารถผลิตสนองความต้องการของเกษตรกรผู้จองเข้ามาได้

คุณสมสุข ศรีวะปะ เป็นเกษตรกรชาวสวนยาง มีอาชีพเพาะกล้ายางพาราจำหน่ายอยู่บ้านเลขที่ 62/1 หมู่ที่ 9 ตำบลทุ่งค่าย อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ดร. บุญชนะ วงศ์ชนะ ขณะนั้นเป็นนักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษอยู่ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง ปัจจุบันนี้ท่านย้ายไปดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย ได้ให้กิ่งพันธุ์ผมมา ก็ได้นำมาติดตาบ้าง เสียบข้างบ้าง ได้ประมาณ 300 ต้น ซึ่งได้เตรียมต้นกล้าไว้ 400-500 ต้น ต้นกล้าสะตอมีอายุประมาณ 8 เดือน ความสูงเฉลี่ยประมาณ 80-100 เซนติเมตร

คุณธนัชญา ศรีวะปะ กับต้นกล้าสะตอที่ติดตา

การขยายพันธุ์ต้นกล้าสะตอ

คุณสมสุข บอกว่า การผลิตต้นกล้าในระยะแรกผลิตได้น้อย เนื่องจากแปลงกิ่งพันธุ์มีจำนวนจำกัด ต้องพยายามดูลักษณะเด่นของแต่ละต้น เช่น การออกช่อดอก ดูว่าต้นไหนออกดอกไว ประมาณ 2-3 ปี จึงจะมีช่อดอกให้เห็น เราก็จะนำกิ่งพันธุ์ของต้นเหล่านั้นนำมาเป็นต้นกล้า เลี้ยงอยู่ประมาณ 8-10 เดือน จึงจะได้ต้นกล้าที่แข็งแรง ซึ่งเป็นเวลานานพอสมควร

การเลี้ยงกิ่งพันธุ์ดีใช้เวลา 5-8 เดือน เพื่อเลือกกิ่งที่เหมาะสมกับต้นกล้า คือให้ขนาดของตาสะตอใกล้เคียงกับต้นกล้าที่จ

คุณสมสุขกับคุณธณัชญา ที่แปลงเพาะกล้าสะตอ

พื้นที่ที่เหมาะสม กับการปลูกสะตอ

ภาคใต้เป็นดินแดนของสะตอ คุณสมสุขบอกแต่ก็สามารถปลูกได้หลายภาค เช่น ภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภาคเหนือ ก็มีผู้นำไปปลูก เช่น จังหวัดเชียงใหม่ ในภาคอีสาน ก็มีผู้นำไปปลูก เช่น จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ เป็นต้น

สะตอชอบดินเหนียวร่วนระบายน้ำได้ดี ไม่ชื้นแฉะ ทางภาคใต้ส่วนมากเกษตรกรจะปลูกไว้ในบริเวณบ้าน ประมาณ 3-5 ต้น หรือปลูกตามแนวดิน แต่ระยะหลังมีเกษตรกรหลายรายสนใจปลูกเป็นไร่

สำหรับผู้ที่จะปลูกเป็นไร่ ควรใช้ระยะปลูก 7×7 เมตร หรือ 8×8 เมตร กรณีที่ปลูกเป็นพืชแซม ต้องปลูกห่างจากพืชหลักไม่ต่ำกว่า 7 เมตร และต้องเป็นต้นไม้ที่ไม่บดบังแสงแดด

ตัดลำต้นเมื่ออายุ1ปี ภาพนี้อายุได้1ปี8เดือ

การใส่ปุ๋ย

ควรใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ในช่วง 1-3 ปีแรก ในระยะแรกปลูกควรใส่ 2-3 เดือน ต่อครั้ง ถ้าหลังเก็บเกี่ยวแล้วใช้สูตร 15-15-15 เหมือนเดิม ก่อนออกดอก 2-3 เดือน ใช้ปุ๋ยสูตร 13-13-21 หรือ 8-24-24 อย่างไรก็ตาม ในปีแรกถ้าเข้าหน้าแล้งควรให้น้ำด้วย สะตอจะได้โตอย่างต่อเนื่อง

 

การตัดแต่งกิ่ง

คุณสมสุข อธิบายว่า ในช่วง 1-2 ปี เป็นช่วงที่มีความสำคัญมาก หลังจากปลูกได้ 1 ปี ให้ตัดลำต้นที่ความสูง 1.2-1.5 เมตร หรือในขณะที่ลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว สะตอจะแตกกิ่งก้านสาขาออกไปกว้างมาก และจะทำให้กิ่งรุ่นที่ 2-3 ห้อยลงมามาก และควรค้ำลำต้นให้ตรงในช่วง 1-2 ปีเท่านั้น

สะตอจะออกช่อดอกที่ปลายกิ่ง ถ้าเราทำให้ปลายกิ่งแตกออกมากจะได้หลายช่อ และสะดวกในการเก็บเกี่ยว ดังนั้น การตัดแต่งกิ่งในช่วงแรกจึงมีความสำคัญ

หลังจากปลูก1ปี ตัดที่ลำต้นสูง1.2 1.5 เมตร

การผลิตนอกฤดูของสะตอ พันธุ์ตรัง 1

สะตอ พันธุ์ตรัง 1 สามารถออกดอกได้มากกว่า 1 ครั้งในรอบปี ช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม นอกฤดูช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน การออกฝักอย่างสม่ำเสมออยู่ที่การดูแลรักษา คุณสมสุข บอก

คุณสมสุข อธิบายต่อไปว่าการนำสะตอพันธุ์ตรัง 1 ไปปลูกในภาคอื่นๆ เช่น ภาคอีสาน ผลผลิต รูปร่างฝัก จำนวนเมล็ด อาจจะเปลี่ยนไปแต่ไม่มากนัก ถ้าไม่แล้งในระยะฝักอ่อน ในภาคอีสานสะตอจะออกฝักตอนเข้าฤดูฝนเหมือนภาคใต้ แต่ถ้าฝนทิ้งช่วงต้องให้น้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ตามความเหมาะสม

หลังจากติดตาได้30วัน นำมาไว้ในเรือนเพาะชำ

สำหรับการจำหน่าย คุณสมสุข บอกว่า ชาวบ้านนิยมขายเป็นฝัก ช่วงนอกฤดูราคาดี ขายได้ฝักละ 10 บาท ถ้าในฤดูฝักละ 3-5 บาท ทางภาคตะวันออกและภาคอีสาน ขายได้ราคาแพงกว่าภาคใต้ ขายเป็นกิโลกรัม ประมาณ 60-80 บาท ต่อกิโลกรัม และมีพ่อค้ามารวบรวมไปขายที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย

ปัจจุบัน คุณสมสุขมีต้นพันธุ์อยู่ประมาณ 50 ต้น มีสะตอพันธุ์ตรัง 1 ปลูกไว้ในสวน 20 ต้น และปลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้ผลิตต้นกล้าได้หลายพันต้น มีผู้สั่งไปปลูกทั้งภาคเหนือ อีสาน และภาคตะวันออก เป็นการเผยแพร่สะตอพันธุ์ตรัง 1 อันเป็นผลงานปรับปรุงพันธุ์สะตอของศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร

สะตอพันธุ์ตรัง 1

เกษตรกรที่สนใจปลูกสะตอพันธุ์ตรัง 1 ติดต่อได้ที่ไร่นายสมสุข ศรีวะปะ เลขที่ 62/1 หมู่ที่ 9 ตำบลทุ่งค่าย อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง 92140 โทรศัพท์ 089-873-5131 หรือ คุณธนัชญา ศรีวะปะ โทรศัพท์ 095-256-3193