สะละเนินวง

เป็นพันธุ์สะละที่นิยมปลูกมากที่สุดในปัจจุบัน โดยเฉพาะในภาคตะวันออก เป็นพันธุ์ดั้งเดิมของ ตำบลบางกะจะ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี มีประวัติปลูกกันมานาน 100 กว่าปีแล้ว โดยผู้ปลูกคนแรก ชื่อ นางมิ ที่ได้นำเมล็ดมาจากกรุงเทพฯ (คาดว่าเป็นสะละหม้อ) สะละเนินวงมีลำต้นอยู่ใต้ดินหรือโผล่ขึ้นบนผิวดินเล็กน้อยที่หุ้มด้วยกาบใบ การกระจายพันธุ์มีลักษณะขึ้นเป็นกอกระจายตัวไม่แน่น (คล้ายระกำ) ใบยาว และอ่อนลู่มากกว่าระกำ แต่มีรูปร่างคล้ายกัน ออกผลเป็นทะลาย หนึ่งทะลายมี 3-7 กระปุก ผลอ่อนมีสีนํ้าตาลไหม้ เมื่อสุกสีนํ้าตาลแดงเข้ม ผลรูปทรงยาวจากหัวท้าย คล้ายกระสวย เปลือกมีลักษณะเป็นเกล็ดเรียงซ้อนกัน ปกคลุมด้วยหนาม ปลายหนามงอนไปทางท้ายผล ผลหนึ่งมี 1-3 กลีบ เมื่อดิบมีรสฝาดและเปรี้ยวเช่นเดียวกับระกำ เมื่อสุกจะให้รสหวานฉํ่า และเข้มข้นมากกว่าระกำ เนื้อแน่น หนา กลิ่นหอม เมล็ดมีขนาดเล็ก เติบโตได้ทั้งในที่ดอนและที่ลุ่ม แต่ปลูกในที่ลุ่มให้ผลผลิตดีกว่า

ผลสะละเนินวงมีระยะการเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่เริ่มระยะติดผลรุ่นแรกจะใช้เวลาประมาณ 9-10 เดือน การเจริญเติบโตของผลในช่วง 1-5 เดือน ค่อนข้างช้ามาก เมื่อเข้าเดือนที่ 6 ผลเริ่มมีการขยายขนาดอย่างรวดเร็วจนกระทั่งเดือนที่ 8 และสุกในช่วงประมาณเดือนที่ 9 และสามารถเก็บผล

การผสมเกสรจะเริ่มช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม และเก็บเกี่ยวช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนของปีถัดไป ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมในการเก็บผลสละ เนื่องจากฝนยังไม่ชุก

ผลผลิตสะละจะมีมากในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ซึ่งสามารถเก็บผลผลิตได้เกือบทุกวัน และผลผลิตจะค่อยหมดในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม ผลสะละที่เก็บในช่วงฝนตกชุกจะทำให้ผลสะละมีความหวานน้อยลง และเน่าได้ง่าย