ตื่นตาตื่นใจ ที่ “ตลาดซาวไฮ่” คนที่ชอบเดินตลาด ดูวัตถุดิบอาหารแปลกๆ ใหม่ๆ คุณภาพดีๆ ต้องชอบตลาดซาวไฮ่มากแน่ๆ

อุทัยธานี ดูเป็นจังหวัดเงียบๆ ที่ผมไม่ค่อยเคยไปบ่อยนัก แต่จำได้ว่ามีความหลากหลายของกลุ่มชนมาก เช่น กลุ่มลาวคั่ง ลาวด่าน กะเหรี่ยงโพล่วง ผมเคยได้ย่าม ผ้าปูกราบพระ ผ้าซิ่นทอมืองามๆ จากแม่ๆ ชาวลาวคั่งบ้านทัพหลวงเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน จนเดี๋ยวนี้หลายใบก็ยังถูกใช้ติดมืออยู่ เสียดายที่สมัยก่อนผมไม่ค่อยสนใจเรื่องอาหารการกินมาก เลยจำไม่ค่อยได้ว่าเคยได้กินอะไรแปลกๆ บ้าง เวลาไปตามถิ่นชนบทของอุทัยธานี

จนเวลาผ่านไป การที่วันนี้ได้มานั่งฟังคนสูงอายุชาวบ้านไร่เล่าถึงอดีตนาข้าวซึ่งกลายเป็นไร่อ้อย ข้าวโพด และมันสำปะหลังเต็มพรืดไปเสียทุกหนทุกแห่งชั่วเวลาแค่สิบกว่าปีก่อน บอกกล่าวถึงการเลี้ยงผีเจ้าบ้านในเดือน 6 ที่มีรำนางด้ง รำแคน กลางลานบ้านใหญ่ แล้วเริ่มขยับเข้ามาทำพิธีในวัดพุทธ กระทั่งต่อมา พื้นที่แถบบ้านไร่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีคนเข้ามาเที่ยวกันมากมายในช่วงเทศกาล และต้องการมาดูแหล่งปลูกสตรอเบอรี่และดอกไม้เมืองหนาวของภาคกลาง ที่มี “อากาศหนาวที่สุด” ที่ตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ก็ทำให้ผมรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว

“แต่ก่อน แค่ทุ่มสองทุ่มนี่ คนบ้านไร่ปิดบ้านเงียบกันหมดแล้ว ตลาดไม่มีอะไรให้กินหรอก ไปไหนมาก็ต้องกลับไปกินข้าวบ้าน” คำพูดหวนหาอดีตทำนองนี้มักมีให้ได้ยินบ่อยๆ ตามตลาดโต้รุ่งไฟสว่างไสว ที่บ้านไร่เองก็เช่นกัน คุณลุงชาวลาวคั่งเล่าให้ฟังขณะนั่งคุยอยู่หน้าบ้าน ที่บ้านสะนำ ตัวอำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ขณะที่ลูกหลานหลายคนกำลังตระเตรียมจัดข้าวของสำหรับตลาดในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์

……

“ตลาดซาวไฮ่” บ้านไฮ่บ้านเฮา เริ่มรวมตัวกันโดยคนพื้นเพอำเภอบ้านไร่ และเครือข่ายในเขตภาคกลางฝั่งตะวันตกหลายพื้นที่ ด้วยความปรารถนาจะเปิดพื้นที่ให้คนที่มีผลผลิตมีรายได้จากการขายของ และได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน โดยมี พี่ราเมศวร์ เลขยันต์ เป็นหนึ่งในหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ นับถึงวันที่ผมได้มาเที่ยวนี้ ก็ร่วมสามปีแล้วนะครับ

“เครือข่ายที่มากันประจำก็อย่างเช่นจากบางเลน นครปฐม จากชัยนาท โดยเฉพาะแถบนครสวรรค์ ที่มีราวสิบครัวเรือนที่เขาปลูกพืชแบบไม่ใช้สารเคมีเลยครับ ของเรานี้ยังทำไม่ได้ถึงขนาดนั้น แค่ใช้สินค้าพื้นบ้านนำก่อน แต่เราก็อยากเปิดตลาดเราให้มีคนจากหลายๆ ส่วนมาร่วมสร้างกับเราก่อน เช่นตอนนี้ก็ร่วมกันกับกลุ่มแม่บ้าน OTOPS ที่เขาก็ขายอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน เรียนรู้ร่วมกันอยู่ จากนี้ก็อาจใช้วิธีเดินเยี่ยมตรวจแปลงปลูก ที่หลายแห่งเขาใช้กัน ช่วงนี้เราแค่มีข้อตกลงกันว่า ใช้ปุ๋ยเคมีได้ แต่ห้ามฉีดยาฆ่าหญ้าฆ่าแมลงครับ” พี่ราเมศวร์ เล่าว่าอย่างนั้น

ตลาดซาวไฮ่ นับว่ามีความหลากหลายของวัตถุดิบและประเภทอาหารอย่างแท้จริงในสายตาของคนที่อาศัยในเมืองนะครับ จากผักหญ้าที่มาจาก “ข้างบน” คือแถบบ้านกะเหรี่ยงติดชายแดนตะวันตก อย่างข้าวไร่เม็ดป้อมๆ หุงกินนุ่ม เหนียว อร่อยมากๆ, พริกกะเหรี่ยงที่ปลูกแซมนาข้าว กลิ่นหอม รสเผ็ดรุนแรง, “ฮูโท่วกว้า” คือเผือกหัวยาว ไม่คัน เนื้อไม่ซุย กินสดๆ ได้เลย หรือวิธีถนอมอาหารของคนลาวพื้นถิ่นบ้านไร่ อย่าง “ปลาร้าหมู” ที่ใช้หมูสันคอและสามชั้นหมักเกลือและข้าวคั่วแบบหมักปลาร้า แหนมบรรจุในท่อนอ้อ (ดูเหมือนข้าวหลามกระบอกน้อยๆ) ตลอดจนวิธีทำกับข้าวที่หลายอย่างพ้องกับคนแถบอีสานเหนือที่ผมเคยเห็น เช่น “อั่วดอกแค” ที่ยัดไส้หมูสับปรุงรสในดอกแคป่า (แคหางค่าง) ดอกใหญ่ นึ่งจนสุก กินกับแจ่วบักเขียเคีย (น้ำพริกมะเขือเทศลูกเล็ก)

แถมมีสมุนไพรดีๆ อย่างพวกขมิ้นชัน ไพล เอ็นอ่อน ที่มีมาก คือ “กำจัด” หรือพริกพราน เป็นมะแขว่นป่าพันธุ์เม็ดใหญ่ ที่พบในเขตป่าชายแดนตะวันตกตั้งแต่ตากลงไปจนถึงเพชรบุรี กะเหรี่ยงโพล่วง อำเภอสวนผึ้งที่ราชบุรี ใช้เข้าเครื่องแกงป่าให้กลิ่นฉุน หอมซ่าดีมากๆ

และสำรับที่คนบ้านไร่มักพูดถึงอยู่เสมอ คือ “หลามบอน” บอนที่ไม่ได้กินแบบแกง แต่เอาไปหลามกับเครื่องตำสุก และ “แกงผำ” ที่เอาผำ หรือ “ไข่น้ำ” พืชผิวน้ำชนิดหนึ่งมาปรุงเป็นแกง เป็นที่ติดอกติดใจ จนเดี๋ยวนี้ที่ชุมชนบ้านห้วยแห้งถึงกับต้องมีบ่อเพาะผำขายเป็นการเฉพาะเลยทีเดียว

……

ยิ่งบ่ายคล้อย ก็ยิ่งมีนักท่องเที่ยวที่ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนามาแวะจับจ่ายซื้อของที่ตลาดซาวไฮ่มากขึ้น ในแง่นี้ ตำแหน่งของตลาดนับว่าเหมาะสม และข้าวของที่มีจำหน่ายก็ทั้งมีเอกลักษณ์เฉพาะ และมีปริมาณที่มากพอรองรับการซื้อ-ขายจากลูกค้าได้ดี

เจ้าหน้าที่แผนงานกินเปลี่ยนโลก มูลนิธิชีววิถี ที่มาร่วมงานด้วยในครั้งนี้ได้เสนอแนวทางที่น่าสนใจ คือความเป็นไปได้ในการส่งสินค้าสำคัญตามสั่งเข้าไปยังลูกค้าในเมืองหลวง ซึ่งระยะทางจากบ้านไร่ไปกรุงเทพฯ ไม่ไกลมากจนเป็นอุปสรรค โดยที่อาจมีหน่วยงานหรือกลุ่มองค์กรเครือข่ายช่วยประสานให้เกิดปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคในเมืองจำนวนไม่น้อยที่กำลังมองหาแหล่งอาหารปลอดภัยอยู่โดยตรง

ใครผ่านมาเที่ยวแถบบ้านไร่ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ควรแวะเที่ยวตลาดนี้นะครับ คนที่ชอบเดินตลาด ดูวัตถุดิบอาหารแปลกๆ ใหม่ๆ คุณภาพดีๆ ต้องชอบตลาดซาวไฮ่มากแน่ๆ ครับ