ที่มา | เทคโนฯ ปศุสัตว์ |
---|---|
ผู้เขียน | สพ.ญ.ศศิวิมล จันทร์เขียว |
เผยแพร่ |
การเลี้ยงวัวชนในภาคใต้ มีการเลี้ยงกันมานาน และเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ทั้งในพื้นที่ภาคใต้และแพร่กระจายไปยังภูมิภาคอื่นด้วย เห็นได้จากจำนวนสนามวัวชนที่มีในเกือบทุกจังหวัดในภาคใต้ เช่น จังหวัดพัทลุง และนครศรีธรรมราช มีสนามวัวชนเกือบทุกอำเภอ ส่งผลให้ราคาของวัวชนในปัจจุบันมีราคาสูงขึ้นกว่าในอดีต
ลูกวัวชนที่มีคุณลักษณะและคุณสมบัติที่ดี ราคาไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท ต่อตัว ส่วนวัวชนโตเต็มวัย ราคาไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท ต่อตัว ทำให้เจ้าของวัวชนต้องดูแลและเอาใจใส่ในการเลี้ยงดูทั้งเรื่องอาหารการกิน การฝึกซ้อม การออกกำลังกาย การทำความสะอาดร่างกาย รวมไปถึงการดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี เจ้าของวัวชนจะนำวัวไปตรวจสุขภาพ ฉีดยาบำรุง ถ่ายพยาธิ ก่อนที่จะมีการแข่งขันทุกครั้ง โดยให้สัตวแพทย์เป็นผู้ตรวจ
สภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช ทุ่งใหญ่ เล็งเห็นความสำคัญในการดูแลสุขภาพสัตว์ใน 14 จังหวัดของภาคใต้ จึงมีนโยบายให้คณะสัตวแพทยศาสตร์ เปิดให้บริการวิชาการและชุมชน
โรงพยาบาลสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เปิดให้บริการตรวจสุขภาพและรักษาวัวชน เป็นประจำทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 08.30-16.00 น. โดยมีการให้บริการ ได้แก่
1) ตรวจสุขภาพร่างกายภายนอก
2) ตรวจเลือด เพื่อตรวจค่าเลือด การทำงานของตับและไต และตรวจหาพยาธิและโปรโตซัวในเลือด
3) ตรวจอุจจาระ เพื่อตรวจหาไข่พยาธิ
4) การตรวจร่างกายด้วยการเอกซเรย์และอัลตราซาวด์
5) การศัลยกรรมแก้ไขความผิดปกติต่างๆ โดยมีนายสัตวแพทย์เป็นผู้ตรวจและวินิจฉัยโรค
กรณีวัวชนมีอาการป่วยที่ซับซ้อนอาจมีการวินิจฉัยและการรักษาที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับอาการป่วยของสัตว์ ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษานั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าสัตว์ตรวจรักษาอะไร และความซับซ้อนของโรค
ในเบื้องต้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าตรวจวินิจฉัยโรคต่างๆ เช่น ค่าตรวจเลือด อุจจาระ ค่ายารักษาในกรณีที่ต้องใช้ยาและค่าบริการทางการแพทย์ ซึ่งในสัตว์แต่ละตัวก็จะมีความแตกต่างกันไป ซึ่งระบบการให้บริการก็จะเหมือนกับในโรงพยาบาลคน
โดยทั่วไปแล้ว เจ้าของวัวชนจะนำวัวชนโตเต็มวัยทั้งที่เคยแข่งขันมาแล้ว และที่ยังไม่เคยแข่งขัน มาตรวจสุขภาพร่างกายเบื้องต้น ว่ามีความพร้อมและร่างกายสมบูรณ์เพียงพอที่จะเข้าแข่งขันได้หรือไม่ เนื่องจากถ้าวัวชนร่างกายไม่พร้อมก็อาจจะทำให้เจ้าของวัวสูญเสียเงินเป็นจำนวนมากในการแข่งขัน
กรณีวัวชนเกิดความผิดปกติของร่างกายที่เจ้าของสังเกตเห็นได้ เช่น มีอาการเหนื่อยหอบง่ายในระหว่างการซ้อม ระยะเวลาในการชนลดน้อยลง วัวกินหญ้าได้น้อยลง เป็นต้น เจ้าของวัว ก็จะนำมาตรวจร่างกายและรักษาด้วยเช่นกัน
กรณีวัวชนเกิดการบาดเจ็บระหว่างการแข่งขัน มีบาดแผลฉีกขาดตามร่างกายจากการโดนแทง เจ้าของวัวก็จะนำวัวชนมารักษาบาดแผลและฉีดยารักษาอาการติดเชื้อแทรกซ้อน ป้องกันการเกิดความสูญเสียหลังการแข่งขันด้วย ส่วนในกรณีอื่นๆ ก็สามารถนำสัตว์มารักษาได้เช่นกัน เช่น ลูกโคท้องเสีย เหนื่อยหอบ ไม่กินอาหาร เป็นต้น
ความรู้ในการดูแลและรักษาวัวชนนั้น ส่วนใหญ่แล้วเจ้าของวัวชนยังขาดความรู้และความเข้าใจในการดูแล รักษาและป้องกันโรคสัตว์อยู่มาก และมีความเชื่อบางความเชื่อที่ขัดกับหลักการรักษาและป้องกันโรคในสัตว์อยู่
ดังนั้น เมื่อเจ้าของวัวชนมารับบริการ สัตวแพทย์จะให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแล รักษาและป้องกันโรคให้แก่เจ้าของสัตว์ด้วย เช่น โปรแกรมการฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย ซึ่งเป็นโรคระบาดในสัตว์กีบคู่ ซึ่งจะต้องฉีดป้องกันทุก 6 เดือน และแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคปากเท้าเปื่อยในกรณีที่เกิดโรคระบาด โปรแกรมการถ่ายพยาธิ เป็นต้น ในบางกรณีเจ้าของวัวชนก็จะมาขอคำปรึกษาจากสัตวแพทย์ได้โดยตรง
การเลี้ยงและดูแลสุขภาพวัวชนในปัจจุบันพัฒนาไปมากเมื่อเทียบกับในอดีต เจ้าของวัวชนหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพวัวชนมากขึ้น เนื่องจากมีผลต่อได้เปรียบในการแข่งขัน หากวัวชนมีสุขภาพดี จะมีความแข็งแรงและสามารถต่อสู้กับคู่ต่อสู้ได้
ดังนั้น งานการดูแลรักษาและงานด้านสัตวแพทย์ จึงมีความสำคัญและมีบทบาทมากยิ่งขึ้นในวงการวัวชนภาคใต้และยังเป็นการช่วยพัฒนาความรู้และการวิจัยทางด้านวัวชนในภาคใต้ให้มีมากขึ้นในอนาคต
เผยแพร่ทางออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2561