แปรรูปเห็ดอบกรอบ เจาะตลาดคนรักสุขภาพ

ชาวจีน จัด “เห็ด” อยู่ในกลุ่มพืชสมุนไพรประเภทยาเย็น ที่มีสรรพคุณช่วยลดไข้ แก้ช้ำใน ลดความดัน ขับปัสสาวะ บำรุงเซลล์ประสาท ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ฯลฯ ทุกวันนี้ ผู้คนทั่วโลก นิยมบริโภคเห็ดเพื่อสุขภาพ เพราะเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ปราศจากไขมัน มีปริมาณน้ำตาลและเกลือค่อนข้างต่ำ ที่สำคัญปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู เด็กรับประทานได้ ผู้ใหญ่รับประทานดี

คุณเศรษฐกาล เศรษฐภากรณ์
คุณเศรษฐกาล เศรษฐภากรณ์

“พณัญญา ธิติบดินทร์” และ “เศรษฐกาล เศรษฐภากรณ์” สองสามีภรรยา เจ้าของบริษัท มายาณกานต์ จำกัด เล็งเห็นประโยชน์ของเห็ด จึงนำเห็ดนางฟ้าและเห็ดเข็มทอง มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เห็ดอบกรอบ จำหน่ายในชื่อแบรนด์ “หัวเห็ด” ภายใต้คำขวัญที่ว่า “เห็ดกรอบ อร่อยเยอะ ประโยชน์แยะ” ปรากฏว่า ขนมรับประทานเล่น (สแน็ก) ชนิดนี้ โดนใจผู้ซื้อที่รักสุขภาพอย่างจัง เพราะรับประทานแล้วมีประโยชน์ ได้สารอาหารทั้งโปรตีนและวิตามิน จึงขายดิบขายดี เป็นที่สนใจของตลาดทั้งไทยและต่างประเทศ

คุณเศรษฐกาล บอกว่า สาเหตุที่เลือกเห็ดเข็มทองและเห็ดนางฟ้า เพราะเป็นสินค้าที่หาซื้อได้ง่ายและมีจำนวนมาก ที่สำคัญเห็ดทั้ง 2 ชนิด ล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดย “เห็ดนางฟ้า” เป็นอาหารโปรตีนที่มีทั้ง วิตามิน ซี ไฟเบอร์ และธาตุเหล็ก ส่วน “เห็ดเข็มทอง” เป็นอาหารโปรตีนที่มี วิตามิน บี 1 บี 2 ไฟเบอร์ และธาตุเหล็ก

ผลิตภัณฑ์หัวเห็ด รับประทานแล้วไม่ต้องกลัวอ้วน เพราะแปรรูปด้วยวิธีการอบแห้ง ทางบริษัทคัดสรรวัตถุดิบมาจากฟาร์มเห็ดปลอดสาร จำนวน 4 ราย ที่บริษัทเข้าไปควบคุมคุณภาพมาตรฐานได้ตามที่ต้องการ ทั้งนี้ เห็ดสดทุกๆ 1 กิโลกรัม เมื่อนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เห็ดอบกรอบ จะเหลือน้ำหนักประมาณ 6 ขีดเท่านั้น  

 

ทางโรงงานมีกำลังการผลิต ประมาณวันละ 8,000-10,000 ซอง สินค้ามีอายุการใช้งานนาน 6 เดือน ขณะนี้จำหน่ายสินค้าใน 2 รูปแบบ คือ เห็ดเข็มทอง รสดั้งเดิม กับเห็ดฝอย (เห็ดนางฟ้า) รสดั้งเดิม น้ำหนักซองละ 30 กรัม ขายปลีกในราคาซองละ 30 บาท คุณเศรษฐกาล กล่าวว่า บริษัทเน้นเจาะตลาดขนมรับประทานเล่นเพื่อสุขภาพ ที่เหมาะสำหรับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย โดยเริ่มนำสินค้าออกสู่ตลาด ตั้งแต่ปลายปี 2558 ที่ผ่านมา ในห้างท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างเดอะมอลล์ และยูเอฟเอ็ม และกำลังวางแผนส่งออกไปขายในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เช่น  สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนาม และมาเลเซีย เป็นต้น คาดว่า ในปีแรกจะสร้างยอดขายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท