“มกอช.” เกาะติดเทรนด์สุขภาพ สร้างการรับรู้มาตรฐานสินค้าเกษตร ภายใต้ “สัญลักษณ์ Q”

 “มกอช.” เกาะติดเทรนด์สุขภาพ จัดกิจกรรมสร้างการรับรู้มาตรฐานสินค้าเกษตรภายใต้ “สัญลักษณ์ Q” หวังกระตุ้นผู้ผลิต-ผู้บริโภค-ผู้จำหน่าย เห็นความสำคัญชี้เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณภาพและมาตรฐานปลอดภัยจากสารตกค้าง ปนเปื้อน ช่วยปกป้องและคุ้มครองผู้บริโภคให้มีสุขภาพดี  เพิ่มโอกาสและช่องทางการจำหน่ายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ เผยล่าสุดจัดทำมาตรฐานบังคับสำเร็จ 6 เรื่อง และมาตรฐานทั่วไป 117 เรื่อง

นายกฤษ อุตตมะเวทิน เลขานุการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กล่าวว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มียุทธศาสตร์ความปลอดภัยด้านอาหาร เพื่อยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตรและอาหารทั้งที่ส่งออกและบริโภคภายในประเทศของไทยให้มีมาตรฐานและความปลอดภัยสอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับปัจจุบันผู้บริโภคได้หันมาให้ความสำคัญกับใส่ใจสุขภาพจนกลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก

ดังนั้น มกอช. ในฐานะที่เป็นองค์กรนำด้านมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารของประเทศยอมรับ ซึ่งทำหน้าที่เสริมสร้างและกำหนดมาตรฐาน ระบบตรวจสอบและรับรองสินค้าเกษตรและอาหารให้สอดคล้องกับแนวทางสากล จึงได้จัดโครงการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับมาตรฐานสินค้าเกษตรและเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร ภายใต้ “สัญลักษณ์ Q” เพื่อตอกย้ำให้เกษตรกร ผู้ประกอบการจำหน่ายและผู้บริโภคเห็นถึงความสำคัญและยอมรับในเครื่องหมายดังกล่าวอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้นไปอีก

สำหรับเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร ภายใต้ “สัญลักษณ์ Q” ถือเป็นเครื่องหมายรับรองสินค้าเกษตรที่ผ่านการตรวจสอบรับรองมาตรฐานตามบทบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551   เพื่อรับรองแหล่งกำเนิด ส่วนประกอบ วิธีการผลิต คุณภาพ หรือคุณลักษณะอื่นใดของสินค้าเกษตร ซึ่งมีความสำคัญในการสื่อสารข้อมูลไปยังผู้บริโภคหรือผู้ซื้อให้เกิดการยอมรับ เชื่อมั่นและเชื่อถือต่อสินค้าเกษตรว่ามีมาตรฐาน คุณภาพ และความปลอดภัย

“มกอช. ต้องการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคมีความรู้ ความเข้าใจ ในการตัดสินใจเลือกซื้ออาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัย เพื่อลดการเกิดโรคที่มีสาเหตุมาจากการบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์หรือสารเคมี พร้อมทั้งต้องการให้เกษตรกรและผู้ประกอบการได้เห็นความสำคัญในการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพปลอดภัยจากสารตกค้าง ซึ่งที่ผ่านมา มกอช. ได้ให้ความสำคัญในการสร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคมีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร Q โดยขอความร่วมมือกับทางภาคเอกชน ผู้ประกอบการค้า ประเภท Modern trade เช่น  ท็อปส์ บิ๊กซี เดอะมอลล์ แม็คโคร รวมถึงตลาดสดต่างๆ ผ่านทางสมาคมตลาดสด ฯลฯ เพื่อให้ช่วยกันสนับสนุนส่งเสริมการขายสินค้าเกษตรและอาหารที่มี เครื่องหมาย Q โดยเปิดให้มีมุมจำหน่ายสินค้าที่มี เครื่องหมาย Q ซึ่งนับว่าเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับสินค้าดีมีคุณภาพให้มากยิ่งขึ้นและผู้บริโภคก็สามารถเลือกหาซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ ความปลอดภัย และมีมาตรฐานได้มากขึ้นและง่ายขึ้น” นายกฤษ กล่าว

นายกฤษ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน กำหนดเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรมี 2 แบบ ด้วยกัน คือ

1.เครื่องหมายรับรองมาตรฐานบังคับ ใช้สำหรับแสดงกับสินค้าเกษตรที่ได้รับใบรับรองตามมาตรฐานบังคับ

2.เครื่องหมายรับรองมาตรฐานทั่วไป ใช้สำหรับกับสินค้าเกษตรที่ได้รับใบรับรองตามมาตรฐานทั่วไป

โดยผู้ได้รับใบรับรองเครื่องหมายดังกล่าว ได้แก่  เกษตรกร  ผู้ประกอบการในฐานะผู้ผลิต ผู้ส่งออกหรือผู้นำเข้าเท่านั้น

ส่วนมาตรฐานบังคับปัจจุบัน มีจำนวน 6 เรื่อง  ได้แก่

1.หลักปฏิบัติสำหรับกระบวนการรมผลไม้สดด้วยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์

2.เมล็ดถั่วลิสง : ข้อกำหนดปริมาณอะฟลาทอกซิน

3.การปฏิบัติที่ดีสำหรับการผลิตทุเรียนแช่เยือกแข็ง

4. การปฏิบัติที่ดีในการขนส่งซากสัตว์

5.การปฏิบัติที่ดีสาหรับศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ และ

6.การปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีสำหรับฟาร์มผลิตลูกกุ้งขาวแวนนาไมปลอดโรค

นอกจากนี้ มกอช. ได้ประกาศมาตรฐานสินค้าเกษตร ตาม พ.ร.บ. มาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 แล้ว จำนวนทั้งสิ้น 322 เรื่อง ได้แก่ มาตรฐานสินค้า 117 เรื่อง มาตรฐานระบบการผลิต 158 เรื่อง และมาตรฐานข้อมูลกำหนดทั่วไป 47 เรื่อง

นายกฤษ กล่าวย้ำด้วยว่า ผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้ “Q” ต้องรักษาคุณภาพ ความปลอดภัยและได้มาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ เพราะหน่วยงานที่ให้การรับรองจะติดตามตรวจสอบเป็นระยะ หากพบว่าไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือไม่รักษาคุณภาพ ความปลอดภัย ตามมาตรฐาน จะถูกยกเลิกการใช้ “Q” ฉะนั้น สำหรับผู้บริโภคที่ต้องการเลือกหาสินค้าคุณภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ต้องเลือกสินค้าที่มี Q เท่านั้น  สำหรับ วิธีการแสดงหรือใช้เครื่องหมายรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรภายใต้สัญลักษณ์ Q และจะแสดงไว้ที่สิ่งบรรจุ หีบห่อ สิ่งหุ้มห่อ สิ่งผูกมัด หรือป้ายของสินค้าอีกด้วยก็ได้ โดยใต้สัญลักษณ์จะแสดงรายละเอียด 3 อย่าง คือ รหัส ชื่อผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐาน รหัสมาตรฐานสินค้าเกษตรที่ให้การรับรองและรหัสชื่อผู้ได้รับใบรับรอง

“ประโยชน์อีกด้านของการตราเครื่องหมาย Q คือ ทำให้ประชาชนมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนสามารถตามสอบแหล่งที่มาของสินค้าทั้งในกรณีปกติ และกรณีพบว่าสินค้ามีปัญหา จะได้รับการคุ้มครองสิทธิ์ในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสินค้าเกษตรและจะได้รับการคุ้มครองกรณีที่พบว่าสินค้าที่ได้รับการรับรองและแสดงเครื่องหมายรับรองไม่ปลอดภัย หรืออาจก่อให้เกิดอันตราย จะมีการประกาศแจ้งเตือนหรือมีการสั่งให้เก็บหรือทำลายหรือส่งกลับคืนสินค้าดังกล่าว หรือหากตรวจพบการปลอมแปลงการใช้เครื่องหมายรับรองมาตรฐานสินค้า จะได้รับการคุ้มครองโดยการลงโทษตามบทบัญญัติของกฎหมายต่อผู้ฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ