กรมส่งเสริมสหกรณ์ ชวนชาวสหกรณ์รวมพลังช่วยสมาชิกลดภาระหนี้ช่วงโควิด-19 เผย กพส.มีเงินกว่า 300 ล้านบาท พร้อมปล่อยดอกต่ำช่วยสหกรณ์

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบต่อการประกอบอาชีพของสมาชิกสหกรณ์ ส่งผลให้มีปัญหาเรื่องรายได้ของครัวเรือน ดังนั้น ขอชวนพี่น้องสหกรณ์ทั่วประเทศ ร่วมมือกันช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ให้สามารถพ้นวิกฤต โดยการช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ลดหนี้ซึ่งเป็นปัญหาหลัก และช่วยหามาตรการสร้างรายได้เพิ่มให้สมาชิก เพื่อให้ทุกคนสามารถมีเงินเลี้ยงตัวและครอบครัวผ่านช่วงวิกฤตนี้ไปได้โดยไม่เดือดร้อนมากนัก ซึ่งก่อนหน้านี้กรมได้ออกประกาศนายทะเบียนสหกรณ์ เพื่อเปิดให้สหกรณ์แต่ละแห่งพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือสมาชิกที่เหมาะสม ภายใต้แนวทางกฎหมายสหกรณ์ นอกจากนั้น กองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) ยังมีเงินกองทุนมากกว่า 300 ล้านบาท เพื่อปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับสหกรณ์ที่ขาดสภาพคล่องกู้ไปช่วยเหลือสมาชิกในสถานการณ์ขณะนี้

ทั้งนี้ พบว่าปัญหาส่วนใหญ่คือภาระด้านหนี้สินที่เป็นภาระหนัก รายได้ที่ลดลงส่งผลกระทบต่อการชำระเงินงวด ซึ่งแนวปฏิบัติที่ออกมาจะช่วยให้สหกรณ์แต่ละแห่งสามารถที่จะประชุมกรรมการสหกรณ์เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสหกรณ์ ที่จะเอื้อต่อการปรับโครงสร้างหนี้รายบุคคล แต่ต้องไม่กระทบต่อเจ้าหนี้เงินกู้ของสหกรณ์ เพราะบางสหกรณ์กู้เงินจากสถาบันการเงินมาเพื่อให้บริการสมาชิก ทั้งนี้ แต่ละโครงการจะต้องมีงวดระยะเวลาของโครงการที่ชัดเจน เช่น การขยายเวลาการชำระหนี้ออกไป 3-5 ปี หรือลดดอกเบี้ยเพื่อจูงใจให้สมาชิกชำระหนี้ เป็นต้น และอีกด้านคือให้สหกรณ์สร้างอาชีพเสริมให้แก่สมาชิกให้มีรายได้ในช่วงนี้ ซึ่งเมื่อปลายปี 2563 กรมได้จัดเงินให้กับสหกรณ์จัดตั้งกลุ่มอาชีพผลิตหรือต่อยอดสินค้าเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่ม นอกจากนั้น ยังส่งเสริมให้ลูกหลานเกษตรกรเข้าโครงการลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน ตามนโยบายของ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งพบว่าหลายรายประสบความสำเร็จในการทำอาชีพการเกษตรที่บ้านเกิด

“กรมเป็นห่วงสมาชิกสหกรณ์ที่อาจมีปัญหาในเรื่องการถูกเลิกจ้าง หรือลดเงินเดือนที่ทำให้มีรายได้ลดลง จะทำให้มีปัญหาเรื่องหนี้สิน ดังนั้น ในโอกาสนี้จึงขอความร่วมมือ ขอเชิญชวนพี่น้องสหกรณ์ร่วมด้วยช่วยกันลดความเดือดร้อนให้สมาชิกในฐานะเพื่อนช่วยเพื่อน”

สำหรับประกาศนายทะเบียนสหกรณ์ เรื่องมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านหนี้สินและการปรับโครงสร้างหนี้ของสมาชิกสหกรณ์ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 มีด้วยกัน 3 ข้อเพื่อให้สหกรณ์ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติภายใต้กฎหมายสหกรณ์ ประกอบด้วย 1. การถือหุ้นของสมาชิก กรณีข้อบังคับของสหกรณ์ใดกำหนดให้สมาชิกต้องถือหุ้นรายเดือนตามอัตราที่กำหนดไว้ คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์อาจพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบเพื่อปรับลดอัตราการถือหุ้นรายเดือนของสมาชิกหรือกำหนดให้สมาชิกหยุดถือหุ้นรายเดือนเป็นการชั่วคราวแล้วแต่กรณีจนกว่าสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ หรือกรณีที่ข้อบังคับกำหนดให้ต้องถือหุ้นรายเดือนเป็นจำนวนที่แน่นอน ก็สามารถกำหนดหยุดถือหุ้นรายเดือนเป็นการชั่วคราว รวมถึงกรณีข้อบังคับสหกรณ์ใดกำหนดให้สมาชิกต้องถือหุ้นเพิ่มตามส่วนของเงินกู้โดยหักจากเงินกู้สมาชิก กำหนดให้สมาชิกที่ได้รับการอนุมัติปรับโครงสร้างหนี้ตามโครงการช่วยเหลือสมาชิกตามที่สหกรณ์กำหนด ยกเว้นการปฏิบัติตามข้อบังคับชั่วคราวแต่ต้องไม่เกินหนึ่งปีบัญชีของสหกรณ์ เว้นแต่สมาชิกประสงค์จะถือหุ้นเพิ่มโดยสมัครใจ 2. การผ่อนผันการชำระหนี้ของสมาชิก สหกรณ์อาจกำหนดมาตรการช่วยเหลือด้านหนี้สินหรือการปรับโครงสร้างหนี้สำหรับสมาชิกที่ขาดรายได้จากสถานการณ์โควิดตามแนวทางที่กรมกำหนดและตามระเบียบว่าด้วยการให้เงินกู้สหกรณ์ โดยวิธีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ การผ่อนผันชำระหนี้ การขยายเวลา การพักชำระหนี้ หรือการปรับโครงสร้างหนี้ โดยได้รับคำยินยอมจากผู้ค้ำประกัน รวมถึงการลดหรือยกเว้นค่าปรับให้แก่สมาชิก แต่ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงกระแสเงินสดในการชำระหนี้แก่เจ้าหนี้

สหกรณ์ที่ได้กู้ยืมมาเป็นทุนดำเนินการด้วย รวมถึงพิจารณาว่ามีระเบียบให้กระทำได้หรือไม่เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบว่าด้วยการให้เงินกู้ของสหกรณ์หรือกำหนดระเบียบว่าด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ของสมาชิก 3. กรณีสหกรณ์ใดมีความจำเป็นต้องผ่อนผันการชำระหนี้ การขยายเวลา การพักชำระหนี้ รวมทั้งปรับโครงสร้างหนี้ให้แก่สมาชิกที่ขาดรายได้จากสถานการณ์โควิดภายหลังวันสิ้นปีบัญชีสหกรณ์ คณะกรรมการฯ จะต้องมีมติให้จัดทำเป็นโครงการเพื่อช่วยเหลือและผ่อนผันการชำระหนี้ให้แก้สมาชิกที่มีปัญหาดังกล่าวเป็นการเฉพาะและมีกำหนดเวลาโครงการชัดเจนเพื่อกำหนดแนวทางการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับสหกรณ์ต่อไป