เผยแพร่ |
---|
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดตัวบรรจุภัณฑ์ถาดไข่ไก่สดทำจากพลาสติกรีไซเคิล 100% และสามารถรีไซเคิลได้ วางจำหน่ายทั่วประเทศแล้ววันนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นผลิตอาหารที่ดีต่อสุขภาพ คำนึงถึงสังคม และสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และส่งเสริมผู้บริโภคร่วมรักษ์โลก มีทางเลือกสินค้าอาหารคาร์บอนต่ำเพิ่มขึ้น
นายกิตติ หวังวิวัฒน์ศิลป์ ผู้อำนวยการ สำนักวิจัยและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟให้ความสำคัญกับการพัฒนาบรรจุภัณฑ์อาหารใส่ใจสิ่งแวดล้อม ร่วมมือกับคู่ค้าธุรกิจส่งเสริมการใช้วัสดุรีไซเคิลในบรรจุภัณฑ์ต่างๆ หาแนวทางลดปริมาณพลาสติกใหม่ และเพิ่มการใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำและแปรรูปใหม่ได้ นำร่อง บรรจุภัณฑ์ไข่ไก่สด สามารถพัฒนาบรรจุภัณฑ์ใช้พลาสติก PET รีไซเคิล100% จากเดิมเคยใช้พลาสติกรีไซเคิลในสัดส่วน 80% ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เอื้อต่อการคัดแยกขยะเพื่อนำไปสู่กระบวนการแปรรูปได้สะดวก โดยใช้ฉลากกระดาษสอดในบรรจุภัณฑ์ แทนการใช้สติกเกอร์พลาสติกแถบกาว วันนี้ ผู้บริโภคสามารถซื้อไข่ไก่บรรจุในถาดพลาสติกรีไซเคิล 100% ได้แล้วจากร้านจำหน่ายทั่วประเทศ
ทั้งนี้ บรรจุภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิลของซีพีเอฟได้รับการตรวจสอบคุณภาพและรับรองความปลอดภัยโดยห้องปฏิบัติการขององค์กรรับรองภายนอก เพื่อสร้างความมั่นใจได้ว่าวัสดุพลาสติกรีไซเคิลที่ใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ไข่ไก่สด ปลอดภัย ไม่กระทบต่อคุณภาพของอาหาร
“ถาดไข่ไก่สดที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิล มีส่วนช่วยลดปริมาณขยะ และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตอาหาร เนื่องจากการใช้วัสดุพลาสติกรีไซเคิลมีปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์น้อยกว่าการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากเมล็ดพลาสติกใหม่ ถาดไข่พลาสติกที่สามารถรีไซเคิล 100% สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงได้ 29 %” นายกิตติกล่าว
นอกจากนี้ ซีพีเอฟได้ใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษ ทั้งถาดไข่ไก่ขนาดบรรจุ 30 ฟอง และบรรจุภัณฑ์ไข่ไก่สดขนาด 4 ฟอง และ 10 ฟอง ทำจากกระดาษรีไซเคิล 100% มาตั้งแต่ปี 2020 พร้อมทั้ง ทุ่มเทหาแนวทางพัฒนาบรรจุภัณฑ์สินค้าอาหารอื่นๆ ส่งเสริมการบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ และสะดวกต่อการคัดแยกเพื่อนำไปแปรรูปใหม่ได้ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและได้ร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม
“ซีพีเอฟการตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน เป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนในสังคมควรให้ความสำคัญ ไม่เพียงแต่ภาคอุตสาหกรรมอาหารเท่านั้น แต่รวมถึงผู้บริโภคและทุกคนที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่การผลิต บรรจุภัณฑ์ถาดไข่ในครั้งนี้จะเป็นความมุ่งมั่นของซีพีเอฟ ก้าวสู่องค์กรปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ Net-Zero ในปี 2050 เพื่อสร้างโลกที่ดีกว่าสำหรับเราและรุ่นต่อไป” นายกิตติ กล่าวทิ้งท้าย