ส้มโอหวานลำปาง คนกินไม่ได้ซื้อ คนซื้อไม่ได้กิน

ลำปาง นอกจากจะมีรถม้าเป็นเอกลักษณ์แล้ว ในด้านผลไม้ประจำถิ่นก็มีหลากหลาย แต่ส่วนหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งน้อยคนที่จะรู้ เพราะว่าจะขายตามตลาดพื้นบ้านเท่านั้น ปัจจุบันนี้มีคนรู้จักมากขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของ “ของดีลำปาง” คือ ส้มโอหวานลำปาง เป็นต้น ซึ่งเป็นพันธุ์ดั้งเดิมของชาวลำปาง ส่วนใหญ่จะปลูกแบบธรรมชาติ ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยชีวภาพเท่านั้น และอีกอย่างหนึ่งส้มโอมีศัตรูพืชรบกวนน้อยมาก ไม่เหมือนพืชตระกูลส้มอื่นๆ ถือว่าเป็นส้มโอปลอดสารก็ว่าได้

ในหมู่บ้านที่ปลูกส้มโอหวานลำปางมีมากมาย แต่ที่มีชื่อเสียงมีสองหมู่บ้านเป็นที่ยอมรับในรสชาติส้มโอหวานลำปาง คือ บ้านแม่กืยและบ้านหมอสม ตำบลปงแสนทอง อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เป็นหมู่บ้านที่ร่มรื่น ชาวบ้านส่วนใหญ่มีเนื้อที่ปลูกส้มโอคนละ 2 ถึง 4 ไร่ ก็แบ่งปลูกส้มโอ แต่ส่วนใหญ่ก็ปลูกส้มโอผสมผสานพันธุ์กันไป และไม่สนใจเรื่องส้มโอหวานลำปางมาก่อน บางท่านก็ตัดส้มโอหวานลำปางทิ้ง แทนที่ด้วยส้มโอพันธุ์อื่น ซึ่งก็มีรสชาติอร่อยเช่นกัน แต่ว่าทุกพันธุ์ที่ปลูกเป็นพันธุ์ที่นำมาจากแหล่งอื่น มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว แต่เดี๋ยวนี้ชาวบ้านเริ่มที่จะหันกลับมาปลูกส้มโอพันธุ์หวานลำปาง เพราะมีตลาดเพิ่มมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ที่ไม่ชอบส้มโอติดรสเปรี้ยว และเป็นส้มโอที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องการกินผลไม้แต่มีน้ำตาลไม่ค่อยมาก

ผลผ่าหวานลำปาง

ส้มโอหวานลำปาง ถ้าเปรียบกับความหวานแล้วจะอยู่ที่ 14-15 บริกซ์ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณค่าอาหารและวิตามินจากผลไม้ซึ่งกินได้จำนวนมากแต่เปอร์เซ็นต์น้ำตาลน้อย ข้อพิเศษของส้มโอหวานลำปาง คือ หวานโดยไม่มีเปรี้ยวปน ทุกวันนี้ทั้งสองหมู่บ้านมีแต่ต้องการที่จะปลูกเพิ่มหรือขยายการปลูกส้มโอหวานมากขึ้น

ส้มโอ คำว่า ส้มโอ ต้องนึกถึงรสชาติเป็นอันดับแรก คือเปรี้ยว แต่ที่พัฒนาพันธุ์ขึ้นมาก็เปรี้ยวอมหวาน แต่มีส้มโอแปลกที่มีแต่รสชาติหวานสนิท ไม่มีเปรี้ยวปนแม้แต่น้อย จึงถือว่าเป็นของแปลกที่ลำปาง

ความหวานนั้นเป็นหวานที่หอมกลิ่นส้มโอ เนื้อนุ่ม แต่ไม่ติดเปลือก แกะง่าย นี่เป็นเสน่ห์ของพันธุ์นี้ ที่หากินยาก เป็นของฝากที่คนกินไม่ได้ซื้อ คนซื้อไม่ได้กิน

คำว่า ส้มโอ คนจะมองที่เปลือกมีสีเขียวเหมือนกันทั่วไป นอกจากซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือหรือที่มีตราประทับเป็นป้ายชื่อที่บ่งบอกถึงแหล่งที่มา ว่าจากสวนไหนที่รับรองเรื่องรสชาติ เพราะฉะนั้นเป็นการง่ายที่จะซื้อก็คือ จากแหล่งโดยตรงหรือจากตัวแทน เพราะว่าสีเหมือนกัน รสชาติเท่านั้นที่ต่างกัน เช่น ส้มโอหวานลำปาง ก็จะประทับตราจากผู้ขายและแหล่งที่มาเช่นกัน

ผลไม้ทุกอย่างมีคุณค่าทางอาหารในตัวเองทั้งนั้น ส้มโอก็เป็นแหล่งวิตามินอีกแหล่งหนึ่ง ที่มีทั้งคุณค่าทางอาหารและยาสูง และยังเป็นได้ทั้งผลไม้และประกอบเป็นอาหารทั้งหวานและคาวได้ นำมาประกอบเป็นอาหารและเป็นของว่าง เช่น ยำส้มโอ ตำส้มโอ สลัดส้มโอ เป็นต้น ส่วนกินเป็นผลสด หรือทำน้ำปั่นส้มโอได้ก็อร่อยและสดชื่นเช่นกัน

ข้อสันนิษฐานแหล่งที่มา

ส้มโอหวานลำปาง เป็นของคู่บ้านคู่เมืองชาวลำปางมาช้านาน จากการสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ก็บอกว่าตั้งแต่เกิดมาก็พบส้มโอหวานแล้ว แต่ก็สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเพราะความเป็นกรดเป็นด่างของดินและสภาพดินฟ้าอากาศในแถบจังหวัดลำปาง ทำให้ส้มโอหวานลำปางมีรสชาติไม่เปรี้ยว มีรสหวานแตกต่างจากส้มโอทั่วไป เมื่อก่อนมีคนนำไปปลูกในแหล่งอื่นก็จะมีรสจืด

แต่ปัจจุบันนี้ปลูกได้ทั่วประเทศ การพัฒนาโดยการให้ปุ๋ย หรืออาหารพืชก็ทำให้ปลูกได้ทุกที่ในจังหวัดลำปาง แต่ก็ได้รสชาติไม่ต่างไปจากแหล่งเดิม ส้มโอเป็นผลไม้ที่เก็บรักษาได้นานถึง 3 เดือน ยิ่งนานยิ่งทำให้รสชาติอร่อย เพียงแต่เปลือกจะไม่สวย แต่เนื้อข้างในชุ่มฉ่ำหวานอร่อย ยิ่งเก็บไว้นานยิ่งหวาน และเป็นผลไม้ที่ราคาไม่แพงมาก แต่ปัจจุบันนี้การดูแลเรื่องปุ๋ยและน้ำทำให้ส้มโอพันธุ์นี้เป็นที่นิยมมาก จนกลายเป็นสินค้าแบบของฝาก คนซื้อไม่ได้กิน คนกินไม่ได้ซื้อ ด้วยรสชาติที่หวานสนิท ไม่มีเปรี้ยวปน ด้วยความหวานที่วัดมาตราส่วนอยู่ 14-15 บริกซ์ ถือว่าหวานพอดี คนที่คุมน้ำตาลในเลือดสามารถกินได้มากขึ้น

ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยม แต่จำนวนการปลูกยังไม่มาก จึงต้องการเพิ่มเนื้อที่ปลูกเพิ่มขึ้น มีผู้ที่สนใจเรื่องการส่งออกส้มโอหวานลำปางไปไต้หวัน จีน และญี่ปุ่น แต่สินค้ามีไม่มากพอ จึงยังเป็นตลาดที่แคบอยู่ แต่เริ่มที่จะมีการสั่งจองล่วงหน้า

เนื้อส้มโอหวานลำปาง

ส้มโอหวานลำปาง เหมาะที่จะกินผลสด ผสมกับสลัด น้ำส้มโอ ด้วยรสชาติที่หวานฉ่ำ เนื้อแกะจากเปลือกง่ายไม่ติดเส้นใย หรือพังผืดส้มโอ ฉ่ำน้ำแต่เนื้อแห้ง

ส้มโอหวานลำปาง เดี๋ยวนี้แม้แต่คนต่างถิ่นรู้จักดี คนที่มีเพื่อนมีญาติเป็นชาวลำปางบางท่านที่เคยกินส้มโอชนิดนี้ ใครแวะมาลำปางก็จะสั่งซื้อติดไม้ติดมือไปฝากหรือคนในหมู่บ้านที่ปลูกส้มโอ ที่มีญาติอยู่ต่างจังหวัดก็จะนำไปฝากญาติ แล้วก็จะสั่งต่อเนื่องอีกทุกครั้งไป ที่แวะไปมาหากัน เช่น คุณอรวรรณ อยู่หมู่บ้านหมอสม แหล่งที่ปลูกส้มโอ มีญาติทางสามีเป็นชาวอุดรธานี เวลาไปเยี่ยมก็จะเอาส้มโอไปฝาก ตั้งแต่นั้นมาก็ติดใจสั่งซื้อต่อเนื่องมาทุกปีจนถึงปัจจุบันนี้

มารู้จักกับหนึ่งในผู้ที่อนุรักษ์และปลูกส้มโอหวานลำปางที่ถือว่าเป็นคนเก่าแก่คนหนึ่ง คือ คุณตาเหรียญทอง แก้วบุญเรือง ในวัย 84 ปีของท่าน ก็ย่อมรู้จักเรื่องประวัติศาสตร์เรื่องส้มโอหวานลำปางค่อนข้างดีเลยทีเดียว คุณตาเหรียญทองได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า ได้เริ่มปลูกต้นส้มโอพันธุ์นี้มานานแล้ว ตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ คุณตาชอบในรสชาติ และมีให้กินตลอดทั้งปี และมาสังเกตดูว่าในหน้าแล้งที่ลำปางแล้งจัดและร้อนจัด มีต้นส้มโอหวานลำปางนี่แหละที่ยังออกผลให้กิน ก็เลยคิดที่จะปลูกตั้งแต่นั้นมา คุณตากล่าวด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มอย่างมีความสุข

คุณตาเหรียญทอง มีต้นส้มโอหวานลำปางอยู่ประมาณกว่า 40 ต้น แต่ก็ปลูกพันธุ์อื่นคละกันไป แต่ยังคงอนุรักษ์พันธุ์ส้มโอหวานลำปางไว้ ต้นเก่าแก่ที่สวน มีอายุ 60 กว่าปี ก็ได้จากต้นแม่ที่ออกลูกออกหลานให้คุณตาสร้างรายได้ในครัวเรือนจนถึงทุกวันนี้ ส่วนใหญ่ต้นที่คุณตาขยายพันธุ์ปลูกเพิ่มในสวนนั้นได้จากการตอนจากต้นแม่ต้นนี้

ในวัย 84 ปี ของคุณตาที่ดูสุขภาพแข็งแรง ดูอ่อนกว่าวัย คล่องแคล่ว ซึ่งคุณตาบอกว่า ก็มีรายได้จากการเกษตรบ้าง และเนื้อที่ 4 ไร่ ของคุณตา ทำให้ได้ออกกำลังกายทุกวัน ทำให้มีสุขภาพดี แถมยังได้กินผลไม้เสริมที่ปลอดสารพิษตกค้างด้วย การเอาใจใส่ดูแลสวนในทุกๆเช้า ทำให้เสมือนหนึ่งว่าได้รับอากาศที่ปลอดโปร่งตอนรดน้ำก็ทำให้จิตใจชุ่มฉ่ำไปด้วย สวนคุณตาอยู่บ้านเลขที่ 54 บ้านแม่กืย หมู่ที่ 9  ตำบลปงแสนทอง อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง โทร. 086-981-4055

คุณแก้วใจ อูปทอง

คุณแก้วใจ อูปทอง สาววัยสี่สิบกว่าๆ ผู้มีความมุ่งมั่นกับสวนส้มโอที่ร่มรื่น และตั้งใจที่จะคงรักษาพันธุ์ส้มโอหวานลำปาง เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของคนลำปาง ที่มีรสชาติหวานสนิท ไม่มีเปรี้ยวปน ที่สวนคุณแก้วใจมีเนื้อที่ทั้งหมด 2 ไร่ มีส้มโอ 40 ต้น คละสายพันธุ์ ได้ปลูกเพิ่มอีก 10 ต้น เป็นสายพันธุ์หวานลำปาง เพราะเธอเห็นว่าในอนาคตพันธุ์หวานลำปางจะเป็นที่นิยมและถือว่าเป็นส้มโอเกรดเอ หรือ เกรดพรีเมี่ยม

“ดิฉันขยายที่ปลูกเพิ่มอีก ตอนนี้เพิ่มได้แค่ 10 ต้น เพราะมีเนื้อที่จำกัด แต่ก็จะคงรักษาชื่อเสียงนี้ไว้ และพยายามรวมกลุ่มกับชาวบ้านที่ปลูกส้มโอหวานลำปางเพื่อสร้างรายได้ในครัวเรือน ถ้าดิฉันมีที่ดินเพิ่มขึ้นก็จะขยายการปลูกส้มโอหวานลำปางเพิ่มอีก”

เธอเล่าและบอกอีกว่า

“บางคนได้ล้มสายพันธุ์หวานลำปาง แต่หันมาปลูกส้มโอจากแหล่งอื่น ก็ให้ผลผลิตดีมาก รสชาติไม่ต่างจากแหล่งที่มาของสายพันธุ์ แต่ตอนนี้หลายคนได้กลับมาเพิ่มที่ปลูกให้สายพันธุ์หวานลำปาง เพราะว่าไปลองกินส้มโอหวานลำปางที่ปลูกในแหล่งอื่นของลำปางก็ไม่ได้ความหวานเท่านี้ บางแหล่งผลใหญ่มาก แต่รสจืด ทำให้มีข้อสงสัยว่า แหล่งที่ปลูกนี่ก็สำคัญมาก โดยเฉพาะบ้านแม่กืย กับบ้านหมอสมเป็นแหล่งปลูกส้มโอหวานลำปางที่ได้ความหวานฉ่ำมากกว่าแหล่งอื่นและรสชาติอร่อยที่แทบไม่อยากหยุดรับประทานเลย”

ส้มโอหวานลำปาง ข้อดีอีกอย่างคือ เป็นส้มโอทะวาย ให้ผลผลิตตลอดทั้งปี ปลูกง่าย ถ้านำมาขยายพันธุ์ในแหล่งอื่น น่าจะเสียบยอดจะดีกว่ากิ่งตอน กิ่งตอนเหมาะสำหรับปลูกในท้องถิ่น เพราะรสชาติไม่เปลี่ยน และต้านทานโรค

ติดผลดก

ผลผลิตต่อต้น…เจ้าของไม่ค่อยได้นับ เพราะดกมาก แต่จะเด็ดทิ้งเพื่อให้มีขนาดของลูกโต ในช่วงที่ดกมากพร้อมกันก็เดือนตุลาคม จะเก็บได้ทีเดียวประมาณ 70 ลูก ต่อต้น นอกจากนั้นจะเก็บได้เรื่อยๆ เพราะสุกไล่เลี่ยกันเป็นส้มโอทะวาย

ที่สวนมีส้มโอที่รักษาต้นพันธุ์เก่าแก่ ที่สวนอายุประมาณ 50 กว่าปี ทุกวันนี้ภูมิใจมากที่ได้ต่อยอดจากต้นพันธุ์ต้นนี้ ทำให้ที่สวนมีลูกๆ ส้มโอจากต้นพันธุ์ต้นแม่ต้นนี้อีกมากมายและสร้างรายได้ให้คุณแก้วใจทั้งปี โดยที่ขายส่งและขายปลีก

คุณแก้วใจ กล่าวถึงเรื่องการตลาดของเธอว่า ดิฉันปลูกเองและขายหน้าร้านเอง และรวมขายส่งตามออเดอร์ทั่วไปด้วยค่ะ ขนาด 1 กิโลกรัม ราคา 30 บาท ถ้า 1 กิโลกรัมขึ้นไป ก็ราคา 60 บาท รับประกันคุณภาพค่ะ ส้มโอ 1 ผล จะหนักประมาณ 1.5-1.8 กิโลกรัม

แวะมาชิมส้มโอที่สวน คุณแก้วใจ อูปทอง ได้ที่ เลขที่ 2 หมู่ที่ 9 บ้านแม่กืย ตำบลปงแสนทอง อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เบอร์โทร. 083-566-0868

 

แนวทางการขยายพันธุ์

วิธีการปลูกและขยายพันธุ์แบบเสียบยอด โดยใช้ส้มโอน้ำกร่อย ที่สวนนายอนันต์ พันธุ์ไม้

การปลูกใช้ได้ทั้งกิ่งตอนและกิ่งพันธุ์เสียบยอด ต้นส้มโอรุ่นเก่ามักจะใช้กิ่งตอน แต่ปัจจุบันนิยมขยายพันธุ์โดยใช้เสียบยอด ซึ่งได้ผลดีกว่าเพราะมีรากแก้ว และเลือกต้นตอได้หลากหลาย

“ผมมีที่ปลูกส้มโอร่วมกับญาติ ที่บ้านแม่กืย ผมเกิดมาก็เห็นส้มโอหวานลำปางแล้วครับ ตอนนี้ผมอายุ 67 ปีแล้ว ก็ขยายพันธุ์และอนุรักษ์พันธุ์แปลกนี้ไว้ด้วย พร้อมกับพัฒนาการเพาะพันธุ์โดยการเสียบยอด หลังจากนั้น ก็ร่วมกันกับญาติก็ปลูกส้มโอและเพาะกิ่งพันธุ์ขาย ผมได้ความรู้มาว่าการขยายพันธุ์โดยการเสียบยอด มีรากแก้วและทำให้บังคับความสูงได้ เพราะว่าลำต้นมั่นคง ปรากฏว่าได้ผลดี ให้ลูกดก ลำต้นแข็งแรง” คุณลุงอนันต์ ชุ่มอินทรจักร บอก

คุณลุงอนันต์ ชุ่มอินทรจักร

สวนที่ทำต้นพันธุ์แบบเสียบยอด ที่สวนนายอนันต์ พันธุ์ไม้ โดย คุณลุงอนันต์ ชุ่มอินทรจักร อยู่บ้านเลขที่ 98/1 บ้านนาก่วมใต้ ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง

ที่สวนลุงอนันต์ได้ทำกิ่งพันธุ์แบบเสียบยอด โดยใช้ต้นตอพันธุ์ส้มโอพื้นเมืองและส้มโอน้ำกร่อย ได้ผลดี ทนแล้งได้ดี ตนเองสั่งต้นพันธุ์ส้มโอน้ำกร่อยที่เพาะจากเมล็ดจากภาคกลาง ที่มีอายุ 15 เดือน หรือปีกว่าๆ นำกิ่งพันธุ์ที่สมบูรณ์ของส้มโอหวานลำปางเสียบค่อนข้างได้ผลดี เพราะหากินเก่ง ทนต่อโรค ทนแล้งได้ดี เพราะรากแก้วตัวนี้จะหยั่งรากแก้วลงค่อนข้างลึก จึงเหมาะสำหรับส้มโอหวานลำปาง เพราะช่วงหน้าแล้ง เริ่มตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนพฤษภาคมของทุกปีที่ลำปางจะแล้งมาก และเป็นช่วงที่ส้มโอเริ่มเก็บผลผลิตในหน้าแล้ง และส้มโอรุ่นใหม่กำลังออกมา เป็นช่วงที่ต้องการน้ำและความชุ่มชื้น ถ้าส้มโอขาดน้ำช่วงนี้จะทำให้รสชาติเนื้อส้มโอติดขมได้ เพราะฉะนั้นการที่เลือกต้นตอที่ทนแล้ง บวกกับสายพันธุ์ที่ทนแล้ง แต่เพิ่มรากแก้วที่แข็งแรงเข้าไปอีก จึงทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพมากขึ้น ที่นี่ปลูกห่างกัน 6 เมตร ปลูกแบบใส่ปุ๋ยธรรมชาติและปุ๋ยน้ำชีวภาพ มีให้กินทั้งปีครับ ลองเอามาปลูกนอกเขตพื้นที่ ก็ได้ผลดีครับ เพราะใช้ต้นพันธุ์เสียบยอดที่เจ้าของทำเอง

“ที่สวนผมขายผลส้มโอที่รับประกันเนื้อ และเป็นตัวแทนจากชาวสวนที่รวมกลุ่มและคัดสรรคุณภาพ ส้มโอหวานลำปางเนื้อส้มโอจะขาวแต่ถ้าเก็บไว้นานหรือเรียกว่าระยะลืมต้นยิ่งเปลือกเหี่ยวเฉา ยิ่งอร่อย เนื้อในจะออกสีน้ำตาลอ่อนๆ ราคาลูกเล็กก็ 30 บาท ประมาณ 8 ขีด ถึง 1 กิโลกรัม ส่วนน้ำหนัก 1.5-1.8 กิโลกรัม ลูกละ 60 บาท รับประกันคุณภาพพร้อมประทับตราทุกลูกครับ ส่วนใหญ่ผมจะแถมฟรีให้ลูกค้าที่ซื้อกิ่งพันธุ์ได้ชิมครับ” ลุงเชิญชวน

 

คุณลุงอนันต์ ใช้ต้นตอส้มโอพันธุ์อะไร

“ผมใช้ต้นตอส้มโอพื้นเมืองน้ำกร่อยครับ เพราะทดลองเพาะแล้วก็ได้ผลดีครับ เห็นหลายสวนเขาใช้มาเป็นต้นตอมะนาวกัน ผมก็ลองนำมาใช้กับส้มโอหวานลำปาง ได้ผลดีครับ” ลุงบอก

ระยะเวลาและอายุของต้นตอกี่เดือน ใช้เวลาเสียบยอดอีกกี่เดือนถึงจะนำไปปลูกได้

“ผมจะเลือกต้นตอส้มโอน้ำกร่อยพันธุ์พื้นเมือง ที่มีอายุ 15 เดือน หรือ 1 ปี กับ 3 เดือนขึ้นไป ถึงจะทำให้ต้นพันธุ์แข็งแรง ระยะเวลาของการเสียบยอด 3 เดือนครับ ถึงจะนำออกขายได้ ผมขายต้นพันธุ์ ต้นละ 300 บาทครับ การทำต้นพันธุ์แบบเสียบยอดค่อนข้างจะใช้เวลานาน แต่ก็คุ้มค่าสำหรับผู้ที่จะซื้อไปปลูก และผมถือว่าได้ช่วยอนุรักษ์ส้มโออร่อยไว้คู่เมืองไทยครับ” ลุงเล่า

คุณตาเหรียญทอง แก้วบุญเรือง

วิธีปลูกส้มโอหวานลำปาง

ส้มโอหวานลำปาง ปลูกง่ายและดูแลง่าย ถ้าได้ต้นพันธุ์ที่แข็งแรง ปลูกระยะห่าง 4 เมตร ขุดหลุมลึก 50 เซนติเมตร ใช้เปลือกถั่วรองพื้น ดินผสมปุ๋ยคอกมูลวัว คลุมดินรอบๆ โคนต้นด้วยฟาง หรือเศษใบไม้แห้ง เพื่อคลุมความชื้นหน้าดิน ระยะเวลา 2 ปีครึ่ง จะให้ลูกที่ต้นละประมาณ 2-3 ลูก หลังจากนั้น จะให้ลูกดกมากขึ้นเรื่อยๆ การที่บังคับให้ลูกโตโดยการเด็ดลูกทิ้งบ้าง เพื่อที่จะไม่แย่งอาหาร แค่นี้ก็จะได้ลูกส้มโอหวานขนาดผลใหญ่

 

การบำรุงดิน

ใช้ฮอร์โมนจำพวกชีวภาพ หรือไคโตซาน (สารสกัดจากสัตว์ทะเล เปลือกกุ้ง ปู เป็นต้น) ผมไม่ใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์เลยครับ นอกจากขี้ไก่กับปุ๋ยคอก และน้ำหมักชีวภาพทำให้มีรสหวาน นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรที่ซับซ้อนนอกจากว่าอย่าให้ขาดน้ำ ให้น้ำสม่ำเสมอ จะทำให้ผลส้มโอมีสีสวย ผิวเปลือกสวย ผลโต” ลุงแนะนำการดูแล

ต้นพันธุ์

วิธีการตัดแต่งกิ่ง

“ในช่วงที่ส้มโอกำลังออกลูกดกมาก ก็ควรจะเด็ดทิ้งบ้างเพื่อให้ผลส้มโอไม่เบียดกันเกินไป และทำให้ลูกส้มโอไม่สวย ถ้าติดหลายลูกในก้านเดียวควรจะเอาไว้เพียงลูกเดียวหรือสองลูกก็พอ ถ้าลูกส้มโอสวย ราคาก็ดีไปด้วย ผลผลิตจะเยอะมากก็ช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม หลังจากนั้นก็กลางเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน นอกจากนั้นก็จะทะวายออกมาเรื่อยๆ มีผลผลิตให้ได้รับประทานทุกๆ เดือน รสชาติอร่อยเหมือนกันทุกๆ ฤดูครับ” ลุงเล่า

ถ้าท่านสนใจปลูก ส้มโอหวานลำปาง ก็สอบถามมาที่ สวนนายอนันต์ พันธุ์ไม้ ได้ที่เบอร์ 092-579-3543 เลขที่ 98/1 บ้านนาก่วมใต้ ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง

 


พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน, มติชนสุดสัปดาห์ และศิลปวัฒนธรรม ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่