กลุ่มสมุนไพรฟ้ากำแพงแสนปลื้ม ขายฟ้าทะลายโจรแห้งราคาสูง 900 บาทต่อกิโลกรัม

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้กระทรวงสาธารณสุข บรรจุรายชื่อ “ฟ้าทะลายโจร” ไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติ เนื่องจากมีผลการวิจัยยืนยันว่า ฟ้าทะลายโจรมีสารสำคัญ คือ “แอนโดรกราโฟไลด์” ที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสโควิด-19 ได้ ทำให้ฟ้าทะลายโจรกลายเป็นสมุนไพรทางเลือกที่ขายดี เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้ราคาซื้อขายฟ้าทะลายโจรตากแห้งปรับตัวสูงขึ้น จากเดิม กิโลกรัมละ 600 บาท เพิ่มขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 900 บาท หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงยืดเยื้อต่อไป คาดว่า ราคาฟ้าทะลายโจรตากแห้งมีโอกาสพุ่งทะลุหลักพันบาทได้ในไม่ช้า

สำนักงาน กศน.จังหวัดสมุทรสาคร เยี่ยมชมแปลงปลูกฟ้าทะลายโจรของคุณสมชาย

นอกจากนี้ ราคาซื้อขายเมล็ดพันธุ์ฟ้าทะลายโจรจากเดิมที่ซื้อเป็นกิโลกรัม หรือเฉลี่ยเมล็ดละ 20 สตางค์ ก็ปรับราคาเพิ่มขึ้นเป็นเมล็ดละ 60-80 สตางค์

คุณสมชาย ลาวัณย์วิสุทธิ ประธานกลุ่มผู้ปลูกสมุนไพรฟ้ากำแพงแสน จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า กระแสความต้องการเมล็ดพันธุ์ฟ้าทะลายโจรเพิ่มมากขึ้น จนสินค้าขาดตลาด ทำให้ราคาขายเมล็ดพันธุ์ปรับตัวสูงขึ้นถึงเมล็ดละ 1 บาทแล้ว ส่วนฟ้าทะลายโจรตากแห้งเกรดเอ ที่ส่งขายอุตสาหกรรมยา ก็ปรับราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 600 บาท เป็น 900 บาท (5 สิงหาคม 2564)

คุณสมชาย ลาวัณย์วิสุทธิ (ซ้ายมือ สวมหมวก)

“ขณะนี้ ผมรับซื้อฟ้าทะลายโจรตากแห้งจากเกษตรกรเครือข่าย ในราคา 1 ไร่ 1 งานในราคา 700,000 บาท คำนวณต้นทุนก็เฉียดกิโลกรัมละ 900 บาท แม้ไม่ได้กำไรมาก แต่จำเป็นต้องซื้อเพื่อป้อนผลผลิตให้กับลูกค้าที่ทำสัญญาสั่งซื้อไว้ล่วงหน้า” คุณสมชาย กล่าว

เมล็ดพันธุ์ฟ้าทะลายโจร

ถาม “อายุเมล็ดพันธุ์” ก่อนซื้อ

อายุ 8 เดือน เปอร์เซ็นต์การงอกเป็นศูนย์ 

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในวงกว้าง ทำให้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรเป็นที่ต้องการของตลาดเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรหน้าใหม่สนใจปลูกฟ้าทะลายโจรเพิ่มมากขึ้น แต่ละวันมีเกษตรกรโทรศัพท์เข้ามาขอซื้อเมล็ดพันธุ์และขอคำแนะนำเรื่องการปลูกฟ้าทะลายโจรกับคุณสมชาย กว่า 100 รายแล้ว

คุณสมชายให้คำแนะนำว่า หากใครสนใจปลูกฟ้าทะลายโจรในขณะนี้ ควรถาม “อายุเมล็ดพันธุ์” กับผู้ขายก่อนเป็นอันดับแรกก่อนตัดสินใจซื้อ เมล็ดพันธุ์ที่เก็บมาใหม่จะมีอัตราการงอกสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเมล็ดพันธุ์อายุ 6 เดือน อัตราการงอกจะเหลือแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งเก็บไว้นานถึง 8 เดือน อัตราการงอกคือ 0 เปอร์เซ็นต์

ต้นกล้าฟ้าทะลายโจร

“จากประสบการณ์ตรงที่ผมสะสมมาตลอดระยะเวลา 30 กว่าปีที่ปลูกฟ้าทะลายโจร เคยทดลองเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ในตู้เย็น สามารถยืดอายุการงอกได้เพียงระยะหนึ่งเท่านั้น ยิ่งเก็บไว้นานอัตราการงอกก็ยิ่งต่ำลง สิ่งที่น่าห่วงคือ พ่อค้าหัวใสบางรายแอบนำเมล็ดพันธุ์เก่าเก็บออกมาขาย ซึ่งจะทำให้เกษตรกรสูญเสียเงินและเวลาไปอย่างน่าเสียดาย ปัญหาเมล็ดพันธุ์ขาดตลาดและมีราคาแพง ทำให้มีพ่อค้าหัวใสใช้วิธีขยายพันธุ์แบบเสียบยอด โดยนำฟ้าทะลายโจรยาวแค่ 10 เซนติเมตร มาเสียบยอดขายให้แก่ผู้สนใจ การขยายพันธุ์ลักษณะนี้ ต้นฟ้าทะลายโจรเติบโตได้ก็จริง แต่ให้ผลผลิตต่ำมาก จึงอยากเตือนเกษตรกรระมัดระวังในเรื่องนี้ไว้ด้วย” คุณสมชาย กล่าว

แปลงปลูกฟ้าทะลายโจร

การปลูกฟ้าทะลายโจร

คุณสมชาย กล่าวว่า การปลูกฟ้าทะลายโจรให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องยาก อาศัยหลักการปลูกดูแลเช่นเดียวกับการปลูกคะน้าและผักกาดเพราะมีเมล็ดพันธุ์ขนาดใกล้เคียงกัน ขั้นตอนเตรียมดิน ใช้ปุ๋ยคอก 200 กิโลกรัมต่อไร่บำรุงดินก่อนปลูก หลังจากนำเมล็ดพันธุ์มาปลูกแบบหว่านเมล็ดจนทั่วแปลง พื้นที่ 1 ไร่ใช้เมล็ดพันธุ์จำนวน 1 กิโลกรัม ใช้เศษฟางคลุมแปลงปลูก และรดน้ำด้วยระบบสปริงเกลอร์ คอยดูแลกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ

โดยทั่วไป พื้นที่ปลูก 1 ไร่จะปลูกต้นฟ้าทะลายโจรได้ประมาณ 10,000-15,000 ต้น หลังปลูก 2 เดือน ใส่ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 ในสัดส่วนไร่ละ 15 กิโลกรัม หลังจากนั้น ทยอยใส่ปุ๋ยยูเรีย ทุกๆ 10 วัน ครั้งละ 15 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อกระตุ้นให้ต้นฟ้าทะลายโจรเจริญเติบโตเร็ว

คุณสมชาย อธิบายเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่เลือกใส่ปุ๋ยยูเรียเพราะเป็นแม่ปุ๋ยที่ให้แร่ธาตุอาหารหลักคือ ไนโตรเจน ที่ช่วยบำรุงต้นฟ้าทะลายโจรให้ผลิใบได้จำนวนมาก เนื่องจากใบฟ้าทะลายโจรมีปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์มากที่สุด ส่วน “ลำต้น” มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ในสัดส่วนน้อย ขณะที่รากและฝักของฟ้าทะลายโจรไม่พบสารแอนโดรกราโฟไลด์แต่อย่างใด

การเก็บเกี่ยว

ในระยะเวลา 1 ปี คุณสมชายสามารถปลูกฟ้าทะลายโจรได้ 2 รอบ สำหรับฟ้าทะลายโจรที่เก็บเกี่ยวในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนเป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมยามากที่สุด เนื่องจากมีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ในปริมาณสูง

“เกษตรกรหลายรายไม่เข้าใจธรรมชาติของต้นฟ้าทะลายโจร จึงใส่ปุ๋ยยูเรียจำนวนมากในช่วงฤดูร้อนเพื่อเร่งการเจริญเติบโตของต้นฟ้าทะลายโจร ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่งผลเสียต่อคุณภาพผลผลิตแทน เพราะการเพิ่มธาตุไนโตรเจนจำนวนมากในดิน ส่งผลกระทบต่อการสะสมสารแอนโดรกราโฟไลด์ ทำให้ต้นฟ้าทะลายโจรที่เก็บเกี่ยวมีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ลดลงกว่าเดิม ในหลักการเดียวกัน ฟ้าทะลายโจรที่เก็บเกี่ยวในช่วงฤดูฝน มักมีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์น้อยกว่าฤดูอื่น เพราะในน้ำฝนมีธาตุไนโตรเจนค่อนข้างสูง จึงทำให้ต้นฟ้าทะลายโจรสะสมสารแอนโดรกราโฟไลด์ได้น้อยลงเช่นกัน” คุณสมชาย กล่าว

ใบฟ้าทะลายโจรหลังเก็บเกี่ยว

ด้านตลาด

กลุ่มผู้ปลูกสมุนไพรฟ้ากำแพงแสน จังหวัดนครปฐม มีสมาชิกก่อตั้งจำนวน 22 ราย เนื้อที่ปลูกประมาณ 100 ไร่  ทางกลุ่มเน้นปลูกสมุนไพรตามคำสั่งซื้อเป็นหลัก ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ สินค้าเกรดเอ เก็บเกี่ยวในช่วงอายุ 3 เดือนครึ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่ต้นฟ้าทะลายโจรมีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์สูง เป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมยา ลูกค้าสำคัญของกลุ่ม ได้แก่ องค์การเภสัชกรรม (อภ.) 500 กิโลกรัมต่อไร่ ราคาขายในปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 900 บาท

ส่วนสินค้าเกรดบี ที่ชาวบ้านเรียกว่า “ฟ้าแก่” เก็บเกี่ยวในช่วงต้นฟ้าทะลายโจรอายุ 5 เดือน ได้ผลผลิตตากแห้งจำนวนมาก เฉลี่ย 1,000-1,200 กิโลกรัมต่อไร่ ส่งขายร้านยาสมุนไพร ส่วนสินค้าเกรดซี จากแปลงที่ใช้เพาะเมล็ด เก็บเกี่ยวช่วงอายุ 5 เดือนครึ่ง ถึง 6 เดือนขึ้นไป นิยมใช้เป็นส่วนผสมของอาหารสัตว์ทั้งไก่และสุกร เพื่อทดแทนและลดการนำเข้ายาปฏิชีวนะ

ดอกฟ้าทะลายโจร
ยอดฟ้าทะลายโจร

“ตอนนี้ ฟ้าทะลายโจรกลายเป็นสินค้ายอดนิยม ขายได้ราคาสูง จูงใจให้คนไทยหันมาปลูกฟ้าทะลายกันทั่วประเทศ ผมสนับสนุนให้ปลูกฟ้าทะลายโจรเป็นพืชสมุนไพรประจำบ้าน แต่หากปลูกเชิงการค้า ถือว่ามีความเสี่ยงสูง ขณะนี้มีผู้สนใจลงทุนปลูกฟ้าทะลายโจรทั่วประเทศ คาดว่าภายใน 4 เดือนข้างหน้าจะมีผลผลิตเข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก เสี่ยงเกิดปัญหาสินค้าล้นตลาดได้ ดังนั้น หากใครสนใจปลูกฟ้าทะลายโจรเชิงการค้า ขอให้ลงทุนด้วยความระมัดระวัง เพราะเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง” คุณสมชาย กล่าวในที่สุด

คนงานนำฟ้าทะลายโจรมาปั่นเป็นชิ้นก่อนนำไปตากแห้ง
ใบสมุนไพรฟ้าทะลายโจรที่นำมาตากแห้ง

  ………………..

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบข่าวจากกรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งสำนักงาน กศน.จังหวัดสมุทรสาคร