ลุงโชติ สายด้วง ปลูกผักแพวงานเดียว ตัดเก็บขาย รายได้กว่าหมื่นบาท

ผักแพว เป็นผักที่ผู้บริโภคนิยมนำใบอ่อนหรือยอดอ่อนที่มีกลิ่นหอม มีรสเผ็ดร้อนมากินกับซุบหน่อไม้ น้ำตกหรือลาบ หรือนำไปเป็นส่วนผสมการทำข้าวยำ หรือใส่ในแกงปลาก็ทำให้ได้อาหารรสแซ่บอร่อยเช่นกัน ผักแพวเป็นพืชผักพื้นบ้านที่ปลูกง่าย ให้ผลผลิตไว ซึ่งหลังจากปลูก 30 วัน จะมียอดงามๆ ให้ตัดเก็บไปกินหรือแบ่งปัน ผักแพวเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่มีเกษตรกรปลูกขายทำให้มีรายได้มีความมั่นคง วันนี้จึงนำเรื่องราวความสำเร็จของ ลุงโชติ สายด้วง ปลูกผักแพวงานเดียว ตัดเก็บขาย รายได้กว่าหมื่นบาท มาบอกเล่าสู่กันครับ

ลุงโชติ สายด้วง ประธานกลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษ ตำบลสิงหนาท เล่าให้ฟังว่า ผักแพว หรือผักไผ่ เป็นพืชผักพื้นบ้านชนิดหนึ่ง เจริญเติบโตได้ดีในสภาพพื้นที่ชื้นแฉะ ลักษณะต้นมีความสูงหรือยาวเลื้อย 30-35 เซนติเมตร ลำต้นแบ่งเป็นข้อๆ และทุกข้อจะมีรากงอกออกมา ใบ เป็นใบเดี่ยวออกสลับกัน ใบเป็นรูปหอกหรือรูปหอกแกมรูปไข่ ขอบใบเรียว ปลายใบแหลม ฐานใบเป็นรูปลิ่ม ใบมีความกว้างและยาวด้านละ 2.5-3×5.5-8 เซนติเมตร ก้านใบสั้น มีหูใบเป็นปลอกหุ้มรอบลำต้นที่บริเวณเหนือข้อ ดอก ออกเป็นช่อ หนึ่งช่อดอกจะมีดอกย่อยขนาดเล็กสีขาวนวลหรือสีชมพูม่วง และผลของผักแพวจะมีขนาดเล็กมาก

ผักแพวใบอ่อนยอดงามๆ มีกลิ่นหอม มีรสเผ็ดร้อนเมื่อกินกับลาบ น้ำตก หรือซุบหน่อไม้จะได้รสแซ่บอร่อย

ผักแพวจัดเป็นพืชผักสมุนไพรพื้นบ้านที่มีรสเผ็ดร้อนคล้ายข่า ยอดอ่อนหรือใบอ่อนมักนิยมนำประกอบการทำอาหารได้หลายรายการ จัดเป็นผักสดกินกับส้มตำ ลาบ น้ำตก หรือซุบหน่อไม้ จะเติมแต่งทำให้ได้รสแซ่บอร่อย

สรรพคุณ ผักแพวมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ผู้บริโภคในหลายด้าน เช่น ช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยป้องกันและต่อต้านมะเร็ง ป้องกันโรคหัวใจ ขับเหงื่อ บำรุงประสาท รักษาปอด แก้หอบหืด แก้ไอ รักษาโรคกระเพาะ ช่วยในระบบขับถ่าย แก้ท้องเสีย รักษาริดสีดวงทวาร หรือช่วยขับปัสสาวะ

ลุงโชติ สายด้วง เกษตรกรผู้ปลูกผักแพวงานเดียว ขายได้เงินกว่าหมื่นบาท

การปลูก ผักแพวมีทั้งการปลูกเป็นพืชผักสวนครัวเพื่อเก็บผลผลิตมากินในครัวเรือนหรือแบ่งปัน และปลูกเป็นแปลงหรือเป็นสวนผักขนาดใหญ่เพื่อเก็บผลผลิตส่งขายที่ก่อให้เกิดรายได้นำมาสู่การพัฒนาการยังชีพที่มั่นคง

การปลูกอยู่ได้ 2 วิธี คือ ปลูกลงในภาชนะชนิดต่างๆ เช่น กะละมังเก่า ยางรถยนต์เก่า หรือกระถาง และอีกหนึ่งวิธีคือ การปลูกผักแพวลงดินเป็นแบบแปลงใหญ่หรือเป็นสวนผักขนาดใหญ่ แต่ไม่ว่าจะปลูกด้วยวิธีใดก็ตามหลังการปลูกต้องมีการปฏิบัติดูแลบำรุงรักษาทั้งการใส่ปุ๋ย ให้น้ำ หรือควบคุมป้องกันและกำจัดศัตรูพืชเพื่อให้ต้นผักแพวเจริญเติบโตสมบูรณ์ได้ผักปลอดภัยให้ตัดเก็บไปขาย กิน หรือแบ่งปันเป็นการลดรายจ่ายครัวเรือน

น้ำจากลำคลองธรรมชาติที่นำมาใช้ในการปลูกผักแพว

การเตรียมดินปลูก ลุงโชติ เล่าให้ฟังอีกว่า การปลูกผักแพวบนแปลงปลูก ที่นี่ได้จัดการแบ่งพื้นที่ทำนาส่วนหนึ่งประมาณ 1 งาน จากนั้นได้เตรียมดินปลูกด้วยการไถดะ ไถแปร และไถพรวน ให้ดินร่วนซุย ตากแดด 7-10 วัน เป็นการกำจัดศัตรูพืชหรือฆ่าเชื้อโรคที่ฝังตัวอยู่ในดิน ขุดดินเพื่อยกให้เป็นแปลงปลูกสูงกว่าพื้นผิวดิน 20-30 เซนติเมตร เตรียมดินให้ร่วนซุยเพื่อช่วยให้รากต้นพืชชอนไชหาอาหารง่ายและเจริญเติบโตได้ดี

การเตรียมต้นกล้า ได้จัดแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งทำเป็นแปลงเพาะพันธุ์ต้นกล้า ด้วยการเลือกนำต้นกล้าที่สมบูรณ์มาปักชำหรือปลูก เมื่อเพาะเลี้ยง 30 วัน จะได้ต้นกล้าที่เจริญเติบโตสมบูรณ์ จากนั้นตัดเก็บต้นกล้าจากแปลงเพาะ โดยตัดต้นกล้าให้ได้ความยาว 3-5 ข้อ นำไปปักชำหรือปลูกลงบนแปลงปลูก โดยเว้นให้มีระยะห่างกันแต่พอเหมาะ หรือเว้นให้ห่างกันราว 1 คืบ ไม่ชิดแน่นกันเกินไป ต้นกล้าพันธุ์ผักแพวเจริญเติบโตสมบูรณ์เต็มพื้นที่แปลงปลูก

แบ่งใส่ปุ๋ย 2 ครั้ง เพื่อบำรุงต้นผักแพวเจริญเติบโตสมบูรณ์

การดูแลบำรุงรักษา

การใส่ปุ๋ย เมื่อปลูกไป 7-10 วัน ได้หว่านปุ๋ยสูตร 18-18-18 อัตราละ 2 กิโลกรัม ให้กระจายทั่วแปลงปลูก และครั้งที่ 2  เมื่อต้นผักแพวเริ่มแตกยอดได้หว่านปุ๋ยสูตร 46-0-0 อัตรา 2 กิโลกรัม ให้กระจายทั่วแปลง

การให้น้ำ ผักแพวเป็นพืชที่ชอบน้ำและเจริญเติบโตได้เมื่อมีน้ำหล่อเลี้ยง หลังจากปลูกเสร็จแล้วจึงได้จัดการปล่อยน้ำเข้าไปให้ท่วมแปลงปลูก เมื่อผ่านไป 3-4 วัน น้ำในแปลงปลูกเริ่มแห้งก็ได้ปล่อยน้ำเข้าไปให้ท่วมแปลงอีกครั้งเป็นการรักษาระดับน้ำไว้ให้ต้นผักแพวได้ใช้อย่างพอเพียงต่อการเจริญเติบโตไวและแข็งแรงสมบูรณ์

ผักแพวที่เจริญเติบโตสมบูรณ์ จะออกดอกเป็นช่อ ในช่อดอกมีดอกย่อยขนาดเล็กสีขาวนวลหรือสีชมพูม่วง

หลังการปลูก ได้ปฏิบัติดูแลบำรุงรักษาเหมาะสม ภายใน 30 วัน ต้นผักแพวจะเจริญเติบโตแข็งแรง ได้ตัดเก็บยอดอ่อนที่สมบูรณ์ ความยาว 1 คืบกว่าออกไป ส่วนต้นตอของต้นผักแพวที่เหลืออยู่ในแปลงจะมีการเจริญเติบโตสมบูรณ์ขึ้นมาใหม่ พร้อมกับมียอดอ่อนให้ตัดเก็บได้อีกในครั้งต่อไป ต้นผักแพวที่เจริญเติบโตสมบูรณ์จะออกดอกเป็นช่อ ในช่อดอกจะมีดอกย่อยขนาดเล็กสีขาวนวลหรือสีชมพูม่วง

ลุงโชติ เล่าให้ฟังในท้ายนี้ว่า เมื่อต้นผักแพวเจริญเติบโตสมบูรณ์ ได้เริ่มตัดเก็บผักแพวเพื่อเตรียมไว้ให้กับพ่อค้าที่เข้ามารับซื้อตามที่นัดหมายกันไว้

ลุงโชติ สายด้วง ได้ตัดเก็บผักแพวด้วยเคียวเกี่ยวข้าวหรือมีดคม

การตัดเก็บ เมื่อต้นผักแพวเจริญเติบโตสมบูรณ์ ได้นำเคียวเกี่ยวข้าวหรือมีดคมลงแปลงไปจัดการตัดเก็บผักแพว โดยเริ่มจัดจากริมหรือขอบแปลงเข้าไปในพื้นที่ปลูก โดยจะตัดให้ได้ความยาวยอดละ 20-30 เซนติเมตร นับจากยอดลงมาทางโคน แล้ววางใส่ภาชนะนำไปล้างน้ำให้สะอาด ตัดแต่งยอดผักแพวอีกครั้งแล้วห่อด้วยใบตอง กระดาษ หรือผ้าขาวบาง แล้วจัดใส่ถุงหรือกล่องพลาสติก เก็บรักษาเตรียมไว้ให้พ่อค้าที่เข้ามารับซื้อ

ปฏิบัติหลังการตัดเก็บ ได้จัดการดูแลบำรุงรักษาตอหรือโคนของต้นผักแพวที่อยู่ในแปลง ด้วยการใส่ปุ๋ย ควบคุมระดับน้ำ จากนั้นในราว 30 วัน ต้นผักแพวก็เจริญเติบโตได้ยอดอ่อนที่สมบูรณ์ ให้ตัดเก็บไปขายหรือกินอีกครั้ง

นำผักแพวมาตัดแต่งให้แต่ละยอดได้ความยาว 20-30 เซนติเมตร

ผลผลิตจากพื้นที่ปลูก 1 งาน เมื่อตัดเก็บจะได้ผลผลิตผักแพว 100-150 กิโลกรัม โดยพ่อค้าคนกลางจะเข้ามารับซื้อผลผลิต ราคา 30-35 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้แต่ละครั้งมีรายได้ 3,000-4,500 บาท หรือ 3,500-5,250 บาท เป็นรายได้พอเพียงให้ยังชีพได้มั่นคงและยั่งยืน

จากเรื่องราวของ ลุงโชติ สายด้วง ปลูกผักแพวงานเดียว ตัดเก็บขาย รายได้กว่าหมื่นบาท เป็นพืชอายุสั้น ใช้น้ำน้อย ใช้ปัจจัยการผลิตน้อยที่ให้ผลตอบแทนคุ้มทุน มีตลาดรองรับ ปลูกเป็นงานหลักหรืองานเสริมก็มั่นคง

จัดมัดเป็นกำเตรียมส่งขายราคา 30-35 บาทต่อกิโลกรัม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ลุงโชติ สายด้วง ประธานกลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษ เลขที่ 51 หมู่ที่ 5 ตำบลสิงหนาท อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือโทร. 081-267-6989 หรือโทร. 081-848-2585 ก็ได้ครับ

 

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก เมื่อวันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ.2565