ทำเกษตรผสมผสาน บนพื้นที่ 3 ไร่ สร้างรายได้ตลอดทั้งปี

การทำเกษตรแบบผสมผสาน ไม่มีคำจำกัดความ ไม่มีกติกา หรือกฎตายตัวว่าต้องเป็นพืชชนิดใด เลี้ยงสัตว์ชนิดใด ทั้งนี้ เพราะแต่ละพื้นที่และท้องถิ่นมีสภาพทางธรรมชาติที่แตกต่างกัน การผสมผสาน ขอให้ยึดหลัก สร้างความร่มรื่นให้พืชหลายชนิดที่ปลูกอยู่ในพื้นที่เดียวกัน มีการเกื้อกูลกันทางธรรมชาติให้มากที่สุด และสำคัญที่สุดคือผู้ปลูกต้องได้ประโยชน์มากที่สุด แล้วยังสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

โดย คุณสุดชดา สุดสิริ บ้านเลขที่ 17/3 หมู่ที่ 6 ตำบลนาท่ามใต้ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง เป็นอีกท่านหนึ่งที่สนใจการทำเกษตรผสมผสานพึ่งพาตนเองที่ยั่งยืน แล้วตั้งใจเดินตามแนวทางนี้

คุณสุดชดา สุดสิริ (พี่ดา) เกษตรกร

เลือกมาทำการเกษตรแบบผสมผสาน เพราะทำด้วยใจรัก ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก ทำตามความฝันของตนเองและสามี เพื่อเพิ่มรายได้ลดรายจ่ายของครอบครัว เพื่อเป็นแหล่งอาหารให้ตนเองและชุมชน เป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่เกษตรกรที่สนใจและสมาชิกในกลุ่ม นำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับสมาชิกต่อไป เพื่อแบ่งปันผลผลิตที่ได้ให้เพื่อนบ้าน มีความรัก มีความสามัคคี ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง และเพื่อได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัยไร้สารพิษ

ด้านการประมง เลี้ยงปลาน้ำจืดในบ่อดิน

การจัดสรรแบ่งพื้นที่การเกษตร

ด้านพืชผัก ปลูกไม้ 5 ระดับ ไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง

  1. ไม้ใช้สอย นำมาสร้างบ้าน ทำคอกสัตว์
  2. ไม้กินได้ นำมาเป็นอาหารและยาสมุนไพร เช่น ทุเรียน เงาะ ขนุน มะม่วง กล้วย มะนาว ข่า อ้อย มะพร้าว ไผ่ พริก มะเขือ ตะไคร้ ผักกินใบต่างๆ
  3. ไม้เศรษฐกิจ นำไปจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ เช่น สักทอง พะยูง มะฮอกกานี

ช่วยอนุรักษ์ดินและน้ำ ซึ่งเป็นการปลูกพืชที่หลากหลายจะสร้างระบบนิเวศที่สมดุลให้กับพื้นที่

ด้านปศุสัตว์ เลี้ยงเป็ด ไก่ไข่ ห่าน

ด้านประมง มีการเลี้ยงปลาน้ำจืดหลายชนิด เช่น ปลานิล ปลาทับทิม ปลาหมอ ปลาช่อน ปลากด ปลาบึก ปลาบ้า ปลาดุก ปลาไหล

ปลูกพืชผักแบบผสมผสาน

เทคนิคในการปลูกพืช

  1. ก่อนปลูกต้องรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 เล็กน้อย
  2. ก่อนปลูกไม้ผล รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมักผสมเชื้อราไตรโคเดอร์ม่า ในอัตราส่วนเชื้อสด 1 กิโลกรัม ผสมปุ๋ยหมัก 100 กิโลกรัม และรำข้าว 4 กิโลกรัม หรือถ้าพันธุ์มีรากออกมายาวก็ให้ตัดแต่งรากทิ้งก่อน แล้วจึงนำต้นพันธุ์มาลงหลุม หากไม่ตัดรากที่ยาวทิ้งก่อนเวลาเราปลูกรากจะม้วนอยู่ในหลุม ทำให้ต้นไม้ไม่เจริญเติบโตและจะตายในที่สุด
ด้านปศุสัตว์ เลี้ยงเป็ดไข่ ไก่ไข่ 

ผลผลิตที่ได้

มีรายได้จากการขายไข่เป็ด ไก่ไข่ ปลา ผักกินใบต่างๆ ปลาแปรรูป หน่อไม้สด หน่อไม้ดอง กล้วย และพริกขี้หนู

ปลูกพืชผักสวนครัว

วิธีการการเพิ่มผลผลิต

  1. การผลิตเชื้อราไตรโคเดอร์ม่าใช้ป้องกันโรครากเน่าโคนเน่า ทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ ช่วยเพิ่มเปอร์เซ็นต์การงอกของเมล็ดพันธุ์ ป้องกันการเข้าทำลายของเชื้อราและช่วยยับยั้งการเกิดเชื้อราในดิน ป้องกันโรคแอนแทรกโนส (โรคกุ้งแห้ง) ในพริกขี้หนู
  2. การทำน้ำหมักจากปลาทะเล ช่วยให้ต้นไม้มีภูมิต้านทานโรคได้ดี ช่วยปรับให้เป็นกรด-ด่างที่เหมาะสม ช่วยให้การเจริญเติบโตของพืช ลูกดก ขั้วเหนียว
  3. น้ำหมักจากหน่อกล้วย ช่วยในเรื่องของการปรับสภาพดินให้ร่วนซุย พืชเจริญเติบโตได้ดี ช่วยดับกลิ่นของมูลสัตว์ ปรับสภาพน้ำในบ่อปลา ทำให้เจริญเติบโตดี อัตราการตายน้อยลง
  4. น้ำหมักชีวภาพสารเร่งดอก โดยทำจากผักสีเหลือง เช่น มะละกอ กล้วย ฟักทอง ช่วยให้ติดดอกเพิ่มการแตกยอดและขั้วเหนียว
  5. น้ำหมักจากหัวปลี ช่วยเรื่องการหลุดร่วงของดอกและผลผลิตที่เพิ่มขึ้น
ผลผลิตไข่ไก่ ไข่เป็ด

การเพาะเลี้ยงแหนแดง

เลี้ยงในกระชังบกและบ่อพลาสติก ใช้มูลวัวใส่ลงไปเพื่อเป็นอาหารให้แหนแดง ซึ่งจะทำให้อัตราการเจริญเติบโตของแหนแดงเร็วขึ้น

สามารถนำมาผสมกับอาหารสัตว์ใช้เลี้ยงเป็ด ไก่ ปลา ในอัตราส่วน 1 : 1 ช่วยลดต้นทุนในการเลี้ยงได้มาก มีโปรตีนสูง ถ้า

นำไปเลี้ยงปลาไม่ต้องผสมอาหาร ปลาจะโตเร็ว ถ้ามีเยอะนำไปใส่ต้นไม้ที่ปลูกเพื่อเป็นปุ๋ยพืชสดได้

เกษตรตำบล และเกษตรกร

การทำกิจกรรมเกษตรผสมผสานบนพื้นที่ 3 ไร่ สามารถลดรายจ่ายและสามารถสร้างรายได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 8,000-10,000 บาท

สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองตรัง โทร. 089-871-6304 หรือติดต่อ คุณสุดชดา สุดสิริ โทรศัพท์ 095-350-6831

……………………………………………………

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ.2565