หนุ่มขอนแก่น พึ่งตนเอง ใช้พื้นที่แบบ 30 : 30 : 30 : 10

ด้วยความชื่นชอบด้านการทำเกษตรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เมื่อในขณะนั้นสถานการณ์ยังไม่พร้อมเนื่องจากหน้าที่การงานจึงต้องเริ่มปลูกต้นไม้มาตั้งแต่ทำงานประจำพร้อมกับศึกษาด้านการทำเกษตรเรื่อยมา กระทั่งเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมจึงได้กลับมาชนบทบ้านเกิดที่ใช้ชีวิตตั้งแต่วัยเยาว์  

คุณสุทธินันท์ เขตหนองบัว หรือ พี่นิด บ้านเลขที่ 187 หมู่ที่ 2 บ้านกงกลาง ตำบลบ้านกง อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น โทรศัพท์ 081-934-9411 ได้กลับมาทำการเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียง หลังจากที่เกษียณจากงานประจำที่กรุงเทพฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ คุณสุทธินันท์ได้สนใจและศึกษาการทำการเกษตรมาหลายปี และเริ่มทยอยปลูกต้นไม้มาเรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงปี 2545-2546

คุณสุทธินันท์ เขตหนองบัว หรือ พี่นิด

คุณสุทธินันท์ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ถึงการทำการเกษตรเศรษฐกิจพอเพียงพึ่งตนเอง ว่าการทำการเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียงต้องอยู่ได้ด้วยตนเอง ไม่เช่นนั้นเงินเก็บช่วงที่ทำงานก็จะร่อยหรอและหมดไปไร้ซึ่งความมั่นคงในชีวิต ฉะนั้นต้องประหยัดเรื่องค่าใช้จ่ายและมีรายได้จากการทำการเกษตร เช่น การทำปุ๋ยหมักที่พี่นิดทำเองโดยไม่ต้องซื้อยาฆ่าแมลงและเป็นการประหยัดเรื่องค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่ง

วิธีทำน้ำหมักไล่แมลงศัตรูพืช

  1. ใบสะเดาครึ่งกิโลกรัม
  2. ใบยาสูบ 2 ห่อ ห่อละ 15 บาท
  3. น้ำส้มสายชู 2 ขวด ขวดละ 700 มิลลิกรัม ราคาประมาณขวดละ 12 บาท
  4. เหล้าขาวขวดเล็กราคา 70-80 บาท

สับใบสะเดาแล้วต้มพอท่วม น้ำประมาณ 1 ลิตร ต้มนานประมาณ 5-6 นาที ยกลงแล้ว

ปล่อยให้เย็น แล้วผสมกับน้ำส้มสายชู เหล้าขาว แล้วก็ยาเส้น หมักใส่ถังไว้ 2 คืน (48 ชั่วโมง) หลังจากนั้นก็กรองเอาแต่น้ำเก็บใส่ขวด น้ำหมัก 1 ขวด อายุการใช้งานไม่จำกัดใช้ไปเรื่อยจนกว่าจะหมด ใช้กันแมลงศัตรูพืช เพลี้ยแป้ง มดง่าม มดคันไฟ แมลง แมลงหวี่ขาว

จะได้น้ำยาหมักประมาณ 2 ลิตร ทยอยใช้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ไม่มีอันตรายเพราะปลอดสาร เน้นสุขภาพพึ่งตนเอง

เลี้ยงไก่

เริ่มทำหลังลาออกจากงานประจำมา 6 เดือน แต่ก่อนทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แรงบันดาลใจมาจากโครงการเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร การพึ่งพาตนเองไม่ได้ซื้อ มีกินมีใช้ มีเหลือค่อยขาย ตอนนี้เลี้ยงไก่จำนวน 50 ตัว เก็บไข่ได้วันละ 30 ฟอง ไก่ 1 รุ่นอายุ 2 ปี หลังจากนั้นก็จะไข่น้อยลง

หัวอาหาร กระสอบละ 300 บาท ลงทุนจริงกระสอบละ 500 บาท ไก่ 50 ตัว ใช้กระสอบละ 1 เดือน ตั้งใจว่าจะขยายให้ถึง 200 ตัว เลี้ยงตอนแรกไม่รู้ปัญหา ไก่เคยเป็นหวัดเพราะอากาศเปลี่ยน ไข่ก็จะลดลง ก็จะปรึกษาฟาร์ม ที่เราสั่งแม่ไก่มา ฟาร์มจะมียา ก็ซื้อกับเขา เขาก็แนะนำ เราก็เริ่มดูแลเป็น

ไก่ไข่ 50 ตัวในโรงเรือน

ข้อดี

  1. ไม่ได้ทิ้งเวลาให้สูญเปล่า
  2. เป็นการสร้างกิจวัตรประจำวัน ขายไข่ได้วันละ 80 บาท แผงละ 80 บาท ขายได้เดือนละ 2,000 กว่าบาท

“ผมขยายสิ่งที่ทำเพิ่มมากขึ้นในช่วงแรก คิดว่าจะทำจนแก่ ออกจากงานแล้วก็ต้องทำ ถึงแม้จะมีเงินบำนาญมีเงินเก็บ ก็สามารถเลี้ยงตัวได้ ถ้าเราต้องการกินสิ่งไหนเราก็ต้องปลูกสิ่งนั้น เช่น ถ้าเราชอบกินกล้วยเราก็ต้องปลูกกล้วย เราชอบกินละมุด เราก็ต้องปลูกละมุด ไม่ใช่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ต้องคละกันเป็นเศรษฐกิจผสมผสาน ศึกษาความรู้จากเว็บไซต์ การเกษตรต่างๆ แต่ตอนนั้นไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ตรง อ่านสะสมมาเรื่อยๆ สะสมความรู้มาเรื่อยๆ แต่เมื่อลงมือทำจริงไม่เหมือนในหนังสือหรือในยูทูบ เพราะอยู่ในยูทูบเขาประสบความสำเร็จแล้ว มาเริ่มต้นจะรู้ปัญหา ศึกษามา 4-5 ปี แต่ก่อนทำงานเก็บเงินทั่วไป พอทำงานก็ซื้อหนังสือด้านการเกษตรเดือนละเล่ม”

คุณสุทธินันท์ลองทำทุกอย่างด้วยตนเอง ลองผิดลองถูก ตื่นตี 5 ผสมอาหารไก่ 6 โมงเช้าก็ให้อาหารไก่แล้วก็เดินดูต้นไม้ ที่ปลูกก็จะมี กล้วย ละมุด ฝรั่ง ทุเรียน ลองกอง และไม้ยืนต้นต่างๆ 7-8 โมงเช้า กินข้าวพักผ่อน ถึงเที่ยงก็ทำอาหารลดต้นทุน หญ้าเนเปียร์ แหนแดงปลูกเอง ไปเอาพันธุ์ที่กรมวิชาการเกษตรขอนแก่นให้มา 2 กิโลกรัม และสั่งจากอำเภอภูเวียง มา 4 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 70-80 บาท บวกค่าส่ง 25 บาทต่อกิโลกรัม บางแหล่งก็ซื้อจากอุบลราชธานี

แหนแดง มีโปรตีนเยอะกว่า 30 เปอร์เซ็นต์

“ผมเพิ่งเริ่มต้นทุกอย่าง ตอนนี้ยังไม่ได้เลี้ยงปลา นาให้น้องเขยดูแล ส่วนของนาก็ยังเป็นของครอบครัวอยู่ ต้นไม้ที่ปลูกประกอบด้วย ต้นยาง ตะเคียนทอง สักทอง พะยูง จำนวน 556 ต้น ในพื้นที่ 6 ไร่ (ยังไม่ขาย) ปลูกมา 15-16 ปีแล้วตั้งแต่สมัยทำงาน สวนเกษตรก็จะปลูกหญ้าเนเปียร์ ทุเรียน ฝรั่ง ปลูกกล้วยกับต้นไม้ กล้วยทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงดูแลไม้ใหญ่ ช่วงนี้เราต้องดูแล มะยงชิด เงาะ หน่อไม้ตัดทั้งปี ปลูกมา 15-16 ปี แม่ไปขายตามตลาดนัดประจำหมู่บ้านวันจันทร์กับวันพฤหัสบดี เตรียมของวันจันทร์กับวันพุธ แม่ส่งให้แม่ค้าไปขาย (ตลาดนัดวันอังคารที่ดอนโมง และตลาดนัดวันเสาร์ที่บ้านเปือย ตำบลบ้านกง)”

6 เดือนผ่านไป กล้วยเริ่มงาม กล้วยเท่าคน 9 เดือนตั้งท้อง ไม้ผลเอาลง 4-5 ต้น เพื่อศึกษาปัญหา ถ้าลงเยอะมันไม่คุ้ม ลง 5 ต้น เพื่อศึกษาปัญหาวิธีแก้

ต้นยางนาอายุกว่า 30 ปี ที่คุณสุทธินันท์ปลูกไว้ตั้งแต่เรียนมัธยมศึกษาตอนต้น

ปลูกต้นยาง 20 ปี จึงจะขายได้ ช่วงหนึ่งมีโครงการธนาคารต้นไม้ รู้สึกสนใจ หลังจากนั้นเมื่อกลับบ้านก็นำต้นไม้มาปลูก ลงทุนซื้อพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมมาปลูก ต้นละ 250 บาท เราจะมีวิธีปลูกเอียง 45 องศา ไม่ใช่คิดจะปลูกก็ปลูกเลยมันมีวิธีของมันเหมือนกัน ต้นไม้ที่ปลูกศัตรูพืชกินจนแหว่ง ก็ทำน้ำหมักไล่แมลง กับดักแมลงเอาไม่อยู่ (กับดักกาวสีเหลืองที่ผูกใกล้กับต้นไม้ที่ปลูก) ฉีดยาพ่นแมลงก็เป็นผลเสีย นอกจากนี้ ก็ปลูกข่า ฟักทอง พืชล้มลุก ต้องปลูกผสมผสาน อยากกินอะไร เราไม่อยากซื้อตลาดก็ปลูก ต้นยางนาปลูกตั้งแต่อยู่ ม.3 ประมาณ 30 กว่าปี ต้นไม้จะเริ่มก่อน ตะเคียน สักทอง พะยูง ปลูก 15-16 ปี

เศรษฐกิจพอเพียง
และการใช้พื้นที่แบบ 30 : 30 : 30 : 10

“เศรษฐกิจพอเพียงจะมีการจัดสรรพื้นที่ ปลูกข้าว 30 เปอร์เซ็นต์ เลี้ยงสัตว์ ปศุสัตว์ 30 เปอร์เซ็นต์ ทำสวน 30 เปอร์เซ็นต์ และที่อยู่อาศัย 10 เปอร์เซ็นต์ เศรษฐกิจพอเพียงนั้นมาก่อนโคก หนอง นา ที่คนส่วนใหญ่ทำในทุกวันนี้ โคก หนอง นา หลักๆ จะมีคลองไส้ไก่ คลองล้อมนา”

คุณสุทธินันท์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เราอยากกินอะไรไม่ต้องอาศัยคนอื่น ให้ปลูกสิ่งนั้น ปลูกมะนาว ปลูกพืชสวนครัวมีให้พร้อม เหลือค่อยแจกจ่ายหรือจำหน่าย เลี้ยงดูตัวเองให้ได้ก่อน เกษียณออกมาต้องอาศัยตรงนี้ ไม่อย่างนั้นเงินเก็บที่มีจะร่อยหรอ ทำการเกษตรเพื่อความมั่นคงของชีวิต ทำอย่างไรให้เกิดความมั่นคงกับชีวิตของเรา

ในสวนไม้อันร่มรื่นที่คุณสุทธินันท์ภูมิใจ