“สวนแม่รวย” ผลไม้นครนายก สวนเกษตรแนวใหม่ พร้อมแบ่งปัน ร่มรื่น หลากหลาย ได้ความรู้

นครนายก อีกหนึ่งจังหวัดน่าเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่น่าสนใจ เหมาะกับการพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง โดยใช้เวลาขับรถจากกรุงเทพฯ ไม่ถึง 2 ชั่วโมง ก็จะได้เห็นสองข้างทางที่แปลกตาไป จากท้องถนนที่แออัด เปลี่ยนเป็นสองข้างทางที่มองเห็นแต่สีเขียวสบายตา มีน้ำตกมากมาย อาทิ น้ำตกวังตะไคร้ น้ำตกสาริกา น้ำตกนางรอง รวมไปถึงเขื่อนขุนด่านปราการชลที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาชมวิวเหนือสันเขื่อน สามารถมองเห็นตัวเมืองนครนายก และอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้ที่สันเขื่อน และยังไม่หมดเพียงเท่านี้ นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวน้ำตกแล้ว นครนายกยังอุดมไปด้วยสวนไม้ผลนานาชนิด ด้วยพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ ลักษณะดินเป็นดินทรายและดินเหนียวที่เหมาะกับการทำนา ทำสวนผลไม้ และการอยู่อาศัยเป็นอย่างยิ่ง จังหวัดนครนายกจึงจัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวกรุงไม่ควรพลาด

คุณจตุพงษ์ บุญประกอบ หรือ คุณแม็ค

คุณจตุพงษ์ บุญประกอบ หรือ คุณแม็ค ทายาทเจ้าของสวนแม่รวย ผลไม้นครนายก ตั้งอยู่ที่ตำบลหินตั้ง อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ห่างจากเขื่อนขุนด่านปราการชลเพียง 9 กิโลเมตร ที่จัดเป็นอีกหนึ่งสวนที่มากคุณค่า ใครได้มาท่องเที่ยวที่จังหวัดนครนายกต้องห้ามพลาด เพราะนอกจากที่สวนแห่งนี้จะเต็มไปด้วยไม้ผลที่หลากหลายแล้ว ยังทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เปิดรับทุกท่านที่สนใจการทำเกษตรมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทั้งด้านเทคนิคการปลูก การแปรรูป รวมถึงการอนุรักษ์ทุเรียนโบราณสายพันธุ์หายากไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้อีกด้วย

คุณแม็ค เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันเป็นอาจารย์สอนพิเศษอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีนครรินทรวิโรฒ องครักษ์  ควบคู่กับการทำงานสวนที่เป็นอาชีพสืบต่อจากที่บ้านเป็นหลัก โดยก่อนหน้าที่จะมาทำงานสวน ในสมัยเรียนตนเองเรียนจบภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง หลังจากเรียนจบก็ได้ไปทำงานกับบริษัทต่างชาติเป็นระยะเวลา 1 ปี จากนั้นจึงตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาโททางด้านบริหารที่ประเทศออสเตรเลีย และได้กลับมาทำงานบริษัทเอกชนที่เมืองไทย ทำมาเรื่อยๆ จนถึงจุดอิ่มตัว จึงผันตัวเองมาเป็นครูสอนพิเศษและประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก

ผลิตภัณฑ์แปรรูปหลากหลายจากมะยงชิด “สวนแม่รวย ผลไม้นครนายก”

โดยที่มาของสวนแม่รวย เกิดขึ้นจากเมื่อประมาณ 18 ปีที่แล้ว ตั้งแต่มีโครงการเขื่อนขุนด่านปราการชล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำก็มีเพิ่มมากขึ้น เมื่อมีน้ำภาคการเกษตรก็อุดมสมบูรณ์มากขึ้น เพราะน้ำคือจุดเริ่มต้นของการทำเกษตร จากเมื่อก่อนตรงนี้เป็นพื้นที่แห้งแล้ง ด้านบนเป็นชายเขา เมื่อถึงฤดูฝนน้ำจะท่วมหลากลงไปข้างล่างไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ แต่ตั้งแต่มีเขื่อนขุนด่านปราการชล หลังจากนั้น 3 ปี ที่สวนแม่รวยก็ได้เริ่มทำสวนผสมผสาน ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้ของสวน จากเดิมทำนาอย่างเดียว ก็มีทางเลือกในการทำเกษตรมากขึ้น ที่นอกจากในเรื่องการทำเกษตรผสมผสานแล้ว ก็ยังมีในเรื่องของการทำเกษตรเชิงท่องเที่ยว และเกษตรแปรรูป เป็นที่มาของสวนแม่รวย ผลไม้นครนายก

จากหนุ่มนักเรียนนอก สู่ผู้หลงใหลอาชีพเกษตรกรรม
นำไปสู่การพัฒนาต่อยอด สร้างความยั่งยืน

เมื่อผู้เขียนถามคุณแม็คว่า อาชีพเกษตรกรรมมีความน่าหลงใหลอย่างไร ถึงทำให้เด็กจบนอกหันมาสนใจได้ คุณแม็ค ก็ตอบกลับมาว่า เสน่ห์ของอาชีพเกษตรกรรมคือความท้าทาย การทำเกษตรไม่ใช่เรื่องง่าย การทำเกษตรถือเป็นวิชาที่เรียนไม่มีวันจบ และอีกส่วนคืออยากกลับมาพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมที่เป็นอาชีพเดิมของพ่อแม่ให้มีความมั่นคงมากขึ้น จนมาถึงวันที่ได้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ การทำธุรกิจ การเป็นวิศวกร จากบริษัทต่างๆ มากพอสมควรแล้ว จึงอยากนำเอาความรู้ที่ได้สะสมมากลับมาพัฒนาสวนของที่บ้าน ให้มีความยั่งยืน ทำเกษตรอย่างไรให้มีรายได้ และมีความสุขกับสิ่งที่ทำ

ทั้งการนำเอาองค์ความรู้และประสบการณ์ทุกอย่างที่ผ่านมาในชีวิต มาประยุกต์ใช้กับงานสวนในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น ความรู้ทางด้านวิศวกรรม มาทำในเรื่องของระบบการรดน้ำ เรื่องของการทำเกษตรแม่นยำ ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า รวมถึงความรู้ทางด้านบริหารก็นำมาใช้ทางด้านของการทำตลาด มีการวิเคราะห์ก่อนปลูกต้นไม้ก่อน จะไม่ปลูกอะไรตามใจตนเอง แต่ตลาดไม่ต้องการ เพราะฉะนั้นการวิเคราะห์ความต้องการของตลาดควรจะเกิดขึ้นมาก่อน ก่อนที่จะเลือกปลูกต้นไม้หรือผลไม้แต่ละอย่าง เช่นเดียวกันกับการแปรรูปที่ต้องดู Demand คือความต้องการซื้อของตลาดว่ามีความต้องการมากน้อยอย่างไร ถึงจะลงทุน เนื่องด้วยสถานการณ์ตอนนี้เงินทองคือสิ่งหายากจะทำอะไรจึงต้องมีการวางแผนเพื่อลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด

ทุเรียนหมอนทอง มีให้ชิม ให้ซื้อ

ซึ่งนับเป็นเวลากว่า 3 ปี ที่คุณแม็คได้มาทำงานด้านการเกษตรอย่างเต็มตัว หลายอย่างมีความเปลี่ยนแปลง เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ถ้าหากให้พูดถึงสวนแม่รวยในปัจจุบัน คุณแม็ค บอกว่า ให้นึกถึงนิเวศเกษตร มาที่นี่ไม่ใช่จะได้เห็นต้นไม้ ผลไม้เท่านั้น แต่ที่นี่ยังมีการแบ่งปันความรู้ในด้านการทำการเกษตรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพืชผลเศรษฐกิจทำเงินของทางสวน อย่างมะยงชิด กระท้อน ทุเรียน และพืชผลชนิดอื่นๆ ที่ทางสวนตั้งใจปลูกแบบผสมผสาน เช่น เงาะ มังคุด น้อยหน่า มะปรางหวาน มะปรางเปรี้ยว รวมถึงทุเรียนสายพันธุ์โบราณที่ทางสวนแม่รวยตั้งใจปลูกและอนุรักษ์ไว้ จากความชอบส่วนตัว ซึ่งคนทั่วไปสามารถเข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้กันได้ ประกอบกับที่ตนเองเป็นอาจารย์อยู่แล้ว จึงอยากจะถ่ายทอดในสิ่งที่มีประสบการณ์ ทั้งด้านการปลูก การแปรรูป การตลาด และพัฒนาให้สวนแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร พื้นที่แห่งความสุข มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อยู่ในพื้นที่แห่งนี้

บนพื้นที่ทั้งหมดเกือบ 70 ไร่ รวมทั้งของญาติพี่น้องด้วย โดยแบ่งปลูกเป็นโซน คือโซนของมะยงชิด กระท้อน และทุเรียน ไล่เลียงกันตามฤดูกาล เมื่อหมดฤดูกาลของมะยงชิด ก็เป็นฤดูของกระท้อน แล้วพอหมดฤดูของกระท้อนจะเป็นฤดูของทุเรียน ก็จะมีผลไม้ที่หมุนเวียนกันไป และนอกจากนี้ ทุกท่านที่ได้มาที่สวนแม่รวยจะได้รับประทานเงาะ มังคุด ลองกอง และได้มาเรียนรู้เรื่องของสายพันธุ์มะปรางมีกี่ชนิด มีอะไรบ้าง และแตกต่างกันอย่างไร ถือเป็นการเพิ่มเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ให้ทุกท่านติดตัวกันไป

พัฒนาสวนไม้ผลของครอบครัว
เน้นใช้เทคโนโลยีลดต้นทุนการผลิต

เพิ่มช่องทางการตลาดให้มากขึ้น

การทำเกษตรคุณแม็คบอกว่า ไม่ได้เพิ่งมาเริ่มทำ แต่ตนเองเป็นเกษตรกรทำสวนช่วยพ่อแม่มาตั้งแต่เด็กๆ แต่พอได้ทำงานจะอยู่กรุงเทพฯ เป็นหลัก จะกลับมาช่วยงานที่สวนเฉพาะในช่วงหน้าผลไม้ออกเท่านั้น แต่เมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 นับเป็นวิกฤตที่เป็นโอกาสทำให้ได้กลับมาทำงานสวนมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะมีเวลาได้ช่วยด้านงานขายแล้ว ยังมีเวลาพอให้ทำโซนเพิ่มเติมที่ได้คิดและทำขึ้นมาเอง โดยได้นำความรู้ต่างๆ มาแก้ไขพัฒนาระบบภายในสวน เปลี่ยนมุมมองการทำเกษตรจากที่ใครหลายคนมองว่าเป็นเกษตรกรแล้วเหนื่อย ลำบาก แต่จริงๆ แล้วแค่เปลี่ยนมุมมองและวิธีการ การเป็นเกษตรกรก็จะเหนื่อยน้อยลงและมีความสุขมากขึ้น

นักท่องเที่ยวมาเก็บกระท้อนเองถึงสวน กระท้อนอีล่า ลูกใหญ่ อีกหนึ่งไม้ผลสร้างรายได้หลัก

“อย่างของผมเมื่อก่อนรุ่นพ่อรุ่นแม่จะใช้แรงงานคนเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้ในเรื่องของการผลิตผมจะเน้นใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย จากที่ต้องพึ่งแรงงานคนเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีแทนกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ และอีก 30 เปอร์เซ็นต์ ก็คือสิ่งที่เราต้องเดินไปตรวจดูว่าผลผลิตได้มาตรฐานหรือเปล่า ก็ยังจำเป็นต้องใช้คนดูในการเกษตร”

ลูกใหญ่ ไซซ์พรีเมี่ยม ลูกละ 100 กรัม 1 ไร่ ได้ 1 กิโลกรัม

และในส่วนของการขาย เมื่อก่อนมีช่องทางเดียวคือแม่ค้ามารับซื้อ แต่วันนี้การตลาดเปลี่ยนไป การแข่งขันก็สูงขึ้น มะยงชิดก็มีคู่แข่งมากขึ้น และผลไม้อื่นๆ ก็มีแนวโน้มใกล้เคียงกัน เพราะฉะนั้นช่องทางต่างๆ ในการขาย ก็ต้องมีให้หลากหลายมากขึ้น จากเมื่อก่อนต้องพึ่งพ่อค้าแม่ค้าคนกลางเพียงอย่างเดียว ปัจจุบันต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการขาย ทั้งในรูปแบบที่ให้พ่อค้าแม่ค้ามาเลือกเก็บผลผลิตเองในสวน และมีการกระจายสินค้าไปในทั้งช่องทางออนไลน์ ห้างโมเดิร์นเทรด ออกบูธ และล่าสุดคือการทำเกษตรนิเวศท่องเที่ยว ที่จะพาผู้ที่สนใจงานด้านเกษตรเข้ามาเก็บเกี่ยวผลผลิต มาแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการเกษตร และทางสวนจะมีส่วนของคาเฟ่ไว้ต้อนรับลูกค้า ทั้งเครื่องดื่ม กาแฟ และน้ำผลไม้ปั่นสดๆ จากสวน รวมถึงผลผลิตทางด้านการเกษตร ที่เป็นสินค้าเกษตรแปรรูป ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้เกษตรเป็นเรื่องที่สนุกมากขึ้น

ในอนาคตวางแผนการทำเกษตร
ให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนที่สุด

“ทุกวันนี้เกษตรกรมีรายได้เพียงแค่ฤดูกาลเดียว เต็มที่เก็บผลผลิตได้นาน 3 เดือน แต่วันนี้ที่สวนพยายามทำให้หลากหลาย เกษตรผสมผสานก็ทำแล้ว เกษตรแปรรูปก็ทำแล้ว แล้วมุมมองด้านเกษตรก็อยากให้เกษตรกรท่านอื่นๆ คิดดูว่าเราจะทำอะไรเกี่ยวกับเกษตรให้มันมีรายได้ทั้งปี เพราะว่าเกษตรคืออาชีพ และอาชีพก็คือรายได้ แล้วการเกษตรในมุมมองของผมก็คือธุรกิจหนึ่ง วันนี้ผมมองว่าธุรกิจของผมนอกจากผลิตภัณฑ์แล้ว ก็จะเป็นเรื่องของการบริการด้วย ลองปรับเปลี่ยนโมเดลให้เหมาะสมกับพื้นที่ อย่างพื้นที่สวนของผมอยู่ใกล้กับเขื่อนขุนด่านปราการชล ผมก็เริ่มทำเรื่องของการท่องเที่ยว และเกษตรกรในพื้นที่อื่นก็อาจจะต้องคิดวิธีการที่จะสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพ และขายในช่องทางอื่นๆ ผมว่าเราต้องมีความครีเอทีฟของแต่ละที่ ซึ่งในอนาคตอีก 4-5 ปีข้างหน้า เราจะได้เห็นภาพสวนแม่รวยแห่งนี้ในรูปแบบฟูลออฟชั่นมากกว่านี้ คือจะเป็นสวนเกษตรที่สร้างคุณค่า ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยีการเกษตรอย่างเต็มรูปแบบ การทำ Zero Waste ทำร้านอาหาร หรืออะไรที่เกี่ยวกับเกษตร ที่นี่จะเป็นศูนย์การเรียนรู้ ผมอยากเห็นภาพที่คนเดินมาที่นี่แล้วก็มีความสุข ที่ได้รับประทานผลไม้อินทรีย์ของสวน หรือคนที่อยากทำเกษตรแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงให้มาที่นี่ ผมอยากเห็นคนมาที่นี่เยอะๆ มาพูดคุย มาเดินเล่น อะไรแบบนี้ครับ”

สนใจติดต่อท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่สวนแม่รวย ผลไม้นครนายก สามารถติดต่อคุณแม็ค ได้ที่เบอร์โทร. 089-811-7264 หรือติอต่อสอบถามข้อมูลได้ที่เพจเฟซบุ๊ก : สวนแม่รวย ผลไม้นครนายก

โซนคาเฟ่ บรรยากาศร่มรื่น เหมาะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ