“มะเขือเทศเชอร์รี” พืชประหยัดน้ำ ปลูกลงดิน ดกจนกิ่งหัก ทำเงิน 4 หมื่นบาทต่ออาทิตย์

คุณศิริชัย สามขุนทด หรือ คุณชัย เกษตรกรเจ้าของ “ข้าวป้าง เมล่อนฟาร์ม” อยู่ที่หมู่ที่ 4 บ้านหนองจั่น ตำบลหนองนกแก้ว อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ยึดหลักทำเกษตรปลอดภัย ผลผลิตคุณภาพส่งห้างสรรพสินค้า สร้างรายได้อาทิตย์ละ 4 หมื่นบาท

คุณชัย เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะมาเป็นเกษตรกรอย่างเต็มตัว ตนเองเคยทำงานประจำเกี่ยวกับด้านการเกษตรมาเป็นระยะเวลานานกว่า 17 ปี จนมาถึงจุดอิ่มตัว ตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อมาประกอบกิจการเป็นของตัวเอง โดยการนำองค์ความรู้ที่ได้จากงานประจำมาต่อยอดประกอบกิจการเป็นของตัวเอง

คุณศิริชัย สามขุนทด หรือ คุณชัย

มีจุดเริ่มต้นจากการปลูกพืชไร่ อย่างมันสำปะหลังและอ้อยเป็นพืชสร้างรายได้ประจำปี ส่วนมะเขือเทศเป็นการปลูกในระบบโรงเรือนปิด เป็นการสร้างรายได้ประจำวัน และนอกจากนี้ ยังมีในส่วนของการปลูกพืชผักนอกโรงเรือนอีกด้วย โดยเน้นปลูกพืชผักสวนครัว เช่น ผักชี ต้นหอม และมะเขือเทศสีดา เป็นต้น

แต่ก่อนที่จะมาปลูกมะเขือเทศเชอร์รีสร้างรายได้ ก่อนหน้านี้ที่ฟาร์มปลูกเมล่อนเป็นหลัก ด้วยมุมมองที่ว่าเขตอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี อยู่ในเขตร้อน ปริมาณน้ำฝนต่อปีน้อย เกษตรกรส่วนใหญ่จะเลือกปลูกพืชไร่และมันสำปะหลังเป็นหลัก แต่เนื่องด้วยสภาพพื้นที่ดินของฟาร์มบางส่วนไม่เหมาะสมกับการเพาะปลูก ที่ฟาร์มจึงแก้ปัญหาด้วยการสร้างโรงเรือนสำหรับการปลูกพืช เริ่มต้นจากการปลูกเมล่อน และมุ่งเน้นทำผลผลิตให้มีคุณภาพ จนได้รับรอง GAP มาตรฐานสินค้าเกษตรปลอดภัย นำไปสู่การเปิดตัวฟาร์มให้คนทั่วไปรู้จัก และต่อยอดปลูกพืชชนิดอื่นสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยเลือกปลูกมะเขือเทศในโรงเรือน สาเหตุเพราะเป็นพืชที่มีมูลค่าเทียบเท่ากับเมล่อน และไม่จัดอยู่ในพืชตระกูลเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาโรคซ้ำที่เดิม

มะเขือเทศเชอร์รี สีแดงสด รสชาติหวาน กรอบ

โดยมะเขือเทศที่เลือกปลูกคือ “มะเขือเทศเชอร์รี” และตั้งเป้าหมายในการผลิตให้เป็นสินค้าเกษตรปลอดภัย มีรสชาติหวาน กรอบ เหมือนผลไม้ ทานง่าย สำหรับคนที่ไม่ชอบทานมะเขือเทศ สามารถทานมะเขือเทศเชอร์รีจากฟาร์มเราได้สบายๆ มีรางวัลโอท็อป ระดับ 4 ดาว เป็นตัวการันตี เพราะฉะนั้นเรื่องของความปลอดภัย รสชาติ และสีสัน ของเราเป๊ะแน่นอน ทำให้จากเดิมที่ตลาดมะเขือเทศเชอร์รี่ขายดีอยู่แล้ว พอมีมาตรฐานโอท็อปมาการันตีอีกใบ ก็กลายเป็นว่าตอนนี้ผลผลิตของที่ฟาร์มมีไม่พอขาย ลูกค้าต้องสั่งจองล่วงหน้า

ปลูกมะเขือเทศลงดิน ในโรงเรือนระบบปิด
ผลผลิตดก 500-600 กิโลกรัม ทำหวานได้ดี

สำหรับในขั้นตอนการปลูกมะเขือเทศเชอร์รีในโรงเรือนปิด คุณชัย อธิบายว่า พืชทั้งหมดในฟาร์มที่ปลูก เป็นการปลูกพืชลงดินทั้งหมด ไม่นิยมปลูกพืชในถุง เพราะ 1. การปลูกพืชลงดินรากสามารถหาอาหารได้ไกล 2. เป็นผลดีในขั้นตอนการทำหวาน ต้องมีการงดน้ำ เพื่อให้ผลผลิตหวานกรอบ ถ้าปลูกในถุงงดน้ำเพียง 3 วัน ต้นก็เหี่ยวแล้ว ไม่เหมาะกับการทำหวาน และ 3. มีต้นทุนต่ำกว่าการปลูกพืชในถุง

ผลผลิตสีแดงสวย พร้อมเก็บเกี่ยว

แต่การปลูกพืชลงดินโดยตรงหรือการทำแปลงปลูกแบบนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมดินเพื่อป้องกันโรคทางดินที่อาจจะเกิดขึ้นทำความเสียหาย ที่ฟาร์มจะใช้มูลวัวหมักผสมกับดิน ขึ้นแปลงปลูก จากนั้นวางสายระบน้ำหยด พร้อมทั้งตรวจสอบการไหลของน้ำให้เรียบร้อย แล้วใช้พลาสติกคลุมแปลงเพื่อป้องกันวัชพืช และรักษาความชื้นภายในดิน แล้วใช้จุลินทรีย์ดินผสมกับผงแร่ภูเขาไฟฉีดพ่นลงดินก่อนการย้ายต้นกล้ามะเขือเทศ 3 ครั้ง (ฉีดพ่นลงดินวันละ 1 ครั้ง จำนวน 3 วัน) เพราะพืชตระกูลแตงและมะเขือเทศ โรคพืชที่น่ากลัวที่สุดคือ โรครากเน่าโคนเน่า

ขั้นตอนการเตรียมแปลงปลูก

การปลูก หลังจากเพาะกล้าอายุครบ 20 วัน ย้ายกล้าลงแปลงปลูกแบบแถวคู่ 1 แปลงปลูก 2 แถว ในระยะห่างระหว่างต้น 50×50 เซนติเมตร

ย้ายกล้าลงแปลงปลูก ระยะห่างระหว่างต้น 50×50 เซนติเมตร

การดูแลรดน้ำ-ใส่ปุ๋ย ในช่วงแรกจะให้น้ำทุกวัน วันละ 5-10 นาที จากนั้นเมื่อต้นเริ่มโตอายุประมาณ 20 วัน จะปรับเปลี่ยนการให้น้ำรดแบบวันเว้นวัน พร้อมกับดูสภาพดินประกอบ หากดินแห้งเกินไปก็เพิ่มน้ำ ส่วนการบำรุงใส่ปุ๋ย เน้นดูที่การเจริญเติบโตของพืช หากพืชมีการเจริญเติบโตที่ดีก็แทบจะไม่ต้องใส่ปุ๋ย เพราะว่าได้มีการผสมปุ๋ยขี้วัวหมักไปพร้อมกับขั้นตอนการผสมดินแล้ว แต่จะเป็นการเลือกใส่ปุ๋ยเฉพาะต้นที่เจริญเติบโตไม่ค่อยดี จะเสริมด้วยปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 หรือ 16-16-16 ละลายน้ำแล้วตักรดเป็นต้นๆ ไป แล้วเสริมด้วยปุ๋ยหมักปลา ปุ๋ยหมักผลไม้เป็นหลัก ตักรดทุกต้นอาทิตย์ละครั้ง จนถึงวันเก็บเกี่ยว

การปลูกมะเขือเทศ แบบแถวคู่

เทคนิคการทำหวาน เริ่มงดน้ำตอนที่มะเขือเทศอายุประมาณ 75 วัน หรือให้ดูสีผลของมะเขือเทศเป็นหลัก คือ “เมื่อไหร่ที่สีของผลเริ่มเปลี่ยนจากสีส้มเป็นสีแดง ทางฟาร์มจะงดให้น้ำประมาณ 1 อาทิตย์ แล้วฉีดพ่นน้ำหมักปลาเพิ่มความหวาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เทคนิคการงดน้ำต้องอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผู้ปลูกด้วย เพราะถ้าหากงดน้ำเยอะเกินไปจะส่งผลเสียต่อผลผลิตในรอบถัดไป”

สภาพแปลงปลูกในโรงเรือน สะอาด จัดการง่าย ไม่เป็นแหล่งสะสมโรค

ขั้นตอนปราบเซียนสำหรับการปลูกมะเขือเทศเชอร์รี มีอยู่ 3 ปัจจัย หลักๆ คือ 1. โรคใบจุดมะเขือเทศ ทำให้เกิดอาการแผลจุดขนาดเล็กสีน้ำตาล ช้ำ ทำให้เกิดลักษณะใบไหม้และใบร่วงก่อนกำหนดได้ ทำให้ผลผลิตลดลงทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ 2. โรครากเน่าโคนเน่า เมื่อเกิดแล้วแก้ได้ยาก จึงไม่ค่อยมีคนนิยมปลูกมะเขือเทศลงดิน ดังนั้น ก็ต้องย้อนไปที่จุดเริ่มต้นที่ขั้นตอนการเตรียมดิน หากเตรียมดินดีปัญหาโรกรากเน่าโคนเน่าจะเกิดขึ้นน้อยมาก และ 3. สภาพภูมิอากาศ มะเขือเทศจะปลูกและให้ผลผลิตดีที่สุดในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนกันยายน-มกราคม หากปลูกหน้าร้อนผลผลิตจะปลูกได้ยากมาก ซึ่งทางฟาร์มได้มีการทดลองปลูกมะเขือเทศในช่วงหน้าฤดูหลายครั้งแล้ว รวมถึงทดลองเปลี่ยนสายพันธุ์ที่ปลูก แต่ก็ไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร ส่วนถ้าปลูกในฤดูฝนผลผลิตก็พอทำได้ แต่ยังได้ในปริมาณที่น้อยต่างจากผลผลิตในช่วงฤดูหนาวอยู่มาก

ผลผลิตคุณภาพ ผิวสวย รสหวาน
ติดผลดก จนกิ่งแทบหัก

คุณชัย บอกว่า ปริมาณผลผลิตในแต่ละช่วงฤดูกาลจะไม่เท่ากัน หากเป็นช่วงหน้าหนาวทางฟาร์มสามารถผลิตมะเขือเทศได้มากถึง 500-600 กิโลกรัมต่อโรงเรือน ถือเป็นปริมาณที่ดกจนกิ่งแทบหัก ส่วนหน้าฝนและหน้าร้อนทางสวนจะเลี่ยงไปปลูกพืชชนิดอื่นเป็นหลัก เนื่องด้วยสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยในการทำผลผลิต

ผลผลิตสีแดงสวย พร้อมเก็บเกี่ยว

โดยราคาขายผลผลิตเริ่มต้นตั้งแต่กิโลกรัมละ 100-150 บาท ส่งขายให้กับทั้งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี โรงพยาบาล และลูกค้าประจำ ปัจจุบันปลูกมะเขือเทศเชอร์รีหมุนเวียนอยู่ทั้งหมด 10 โรงเรือน โรงเรือนขนาดความกว้าง 6 เมตร ยาว 19 เมตร หากเป็นช่วงฤดูหนาว ทางฟาร์มสามารถสร้างรายได้จากการปลูกมะเขือเทศได้อาทิตย์ละ 35,000-40,000 บาท เมื่อเทียบกับต้นทุนถือว่าคุ้มค่ามากๆ เพราะมะเขือเทศเป็นพืชที่ลงทุนไม่มาก แต่ต้องลงแรงเยอะ เป็นพืชที่ต้องใช้ความละเอียดในการปลูกและการดูแล และต้องอาศัยประสบการณ์ในการทำดอก ให้ติดผลออกมาอย่างมีคุณภาพ

มะเขือเทศเชอร์รี สีแดงสด รสชาติหวาน กรอบ

“เราจะเน้นย้ำกับตัวเองเสมอว่า มะเขือเทศทุกลูกที่ออกจากฟาร์มเราต้องมีคุณภาพทุกลูก เพื่อให้สมกับที่ลูกค้าเขาเฝ้ารอ คือเรื่องของรสชาติต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง สีต้องสวย ขนาดผลต้องได้ ถ้าทำคุณภาพได้ตลาดยังสดใส เพราะปัจจุบันคนเริ่มหันมาบริโภคพืชผักที่ปลอดสารกันมากขึ้น และอยากฝากถึงเกษตรกรมือใหม่ที่สนใจอยากปลูก ให้เริ่มศึกษาพืชที่จะปลูกให้ดีก่อน อย่างเช่นมะเขือเทศเชอร์รี เราต้องศึกษาเลยว่า เขาใช้เวลาปลูกกี่วัน ลักษณะนิสัยเป็นยังไง รวมถึงวิธีการทำดอก รดน้ำใส่ปุ๋ยมีเทคนิคอย่างไร ต้องศึกษาให้ละเอียดเพราะการปลูกมะเขือเทศต้องใช้ความละเอียดเป็นหลัก แต่ถ้าเมื่อทำสำเร็จแล้ว ผลตอบแทนที่ได้คุ้มค่าเหนื่อยของเราแน่นอน” คุณชัย กล่าวทิ้งท้าย

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่เบอร์โทร. 081-962-9123 หรือช่องทางเฟซบุ๊ก : ข้าวป้างเมล่อน ฟาร์ม.

ใบประกาศนียบัตร ผลิตภัณฑ์ระดับ 4 ดาว
เตรียมแพ็กใส่กล่องส่งให้ลูกค้าตามออร์เดอร์

                               

ภรรยาของคุณชัย เพื่อนคู่คิดที่ขาดกันไม่ได้                ลูกสาวของคุณชัย กำลังใจสำคัญในการผลิต

 

เผยแพร่ออนไลน์ล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2566